เช้าวันรุ่นขึ้นกระบะสองประตูมาบีบแตรรออยู่หน้าบ้านน้ำฝน พร้อมคำทักทายแบบอิสลาม “อัสซะลามุอะลัยกุม” (https://th.wikipedia.org/wiki/อัสซะลามุอะลัยกุม) น้ำฝนแนะนำเม็ดทรายให้รู้จักหยก นักศึกษาปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อม ม.อ. “หวัดดีค่ะพี่หยก ขอบคุณพี่มากๆเลย ถ้าไม่ได้พี่พวกเราต้องตัวดำก้นพังกันแน่ๆ”
“พี่ทำงานเกี่ยวกับต้นน้ำบนเขา อยากรู้ว่าที่ปลายน้ำที่ออกทะเลมันเป็นยังไง ดีเหมือนกันแหล่ะ ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
ระหว่างทางหาดใหญ่-เทพา ทั้ง 3 คนได้ถกปัญหาสิ่งแวดล้อมกันอย่างสนุกถูกคอ รู้ตัวอีกทีหยกก็พารถมาจอดที่สันทรายขนาดใหญ่กว้างสุดลูกหูลูกตา มีพืชปกคลุมสันทรายนี้อย่างประปราย “โห! กว้างกว่าที่ส่องจาก Google เยอะเลย” เม็ดทรายตื่นเต้นกับภาพชายหาดสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า
ทั้งสามกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากถนนดินที่จอดรถไปยังชายหาด ระหว่างทางต้องฝ่าดงหญ้าลูกลมที่มีหนามแหลมคม ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นที่ขึ้นอยู่บริเวณหาดทรายแห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว (https://www.dmcr.go.th/detailAll/23795/nws/141)
“เหนื่อยไม่เบาเลยนะเนี่ย ทำไมหาดตรงนี้มันถึงกว้างขนาดนี้อ่ะ” น้ำฝนถามอย่างประหลาดใจ แม้จะเป็นคนสงขลาแต่ไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนหาดแถบนี้เลย”
“นี่ตกลงใครเป็นคนสงขลากันแน่ แกไม่รู้เลยรึว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” เม็ดทรายหยอกเพื่อนแรงๆ
“เออเน่อะ แต่ไม่เคยมา และถึงมาก็ไม่มีความรู้เรื่องอะไรแบบนี้เลยอ่ะ” น้ำฝนซึ่งไม่มีความรู้มากนักเรื่องชายหาด แต่สนอกสนใจด้านสิ่งแวดล้อมตอบเพื่อน
“เห็นกองหินไกลๆตรงโน้นไหม ยาวๆออกไปในทะเลน่ะ เค้าเรียกกันว่า เขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ หรือ Jetty” (https://beachlover.net/jetty/)
“ยาวมากเลยนะ ลองวัดระยะดูมันมากกว่าครึ่งโลอีก” หยกผู้มีทักษะการค้นข้อมูลมากกว่าน้องๆตามประสานักศึกษาปริญญาโทพูดพลางเอาหน้าจอ Smartphone ที่เปิด Application Google Earth ให้น้องๆดู
“อยากเห็นหาดอีกฝั่งแล้วซิ ไปกันต่อเลยไหม” ทั้งสามรีบจ้ำขึ้นรถด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อมาถึงชายหาดทางฝั่งทิศเหนือของปากน้ำเทพา เม็ดทรายวิ่งถลาลงไปที่ชายหาดพลางพูดว่า “โห! เป็นแบบที่อาจารย์สอนในห้องเป๊ะเลยนะเนี่ย”
“อะไร ยังไง เล่ามาซิ” หยกถามขณะที่มือและตายังง่วนอยู่กับภาพ Google Earth ในมือถือ
“คือไอ้กองหินยาวๆที่พี่เห็นอ่ะ มันจะดักตะกอนทรายเอาไว้ฝั่งโน้น ที่ตะกี้เราเดินกันจนเหนื่อยจากรถถึงชายหาดน่ะ มันคือทรายที่ถูกดักไว้จากไอ้ตัวนี้แหล่ะ”
“แล้วตรงนี้มันก็เลยถูกกัดเซาะตามหลัก Physics ใช่เป่า” หยกพูดพลางวาดภาพ Jetty บนพื้นทรายประกอบ
“นี่พวกนักวิทยาศาสตร์กับวิศวกรคุยอะไรกัน ช่วยแปลให้นักกฎหมายเข้าใจแบบง่ายๆได้ไหมเนี่ย” น้ำฝนงุนงงกับบทสนทนาที่ดูเหมือนตัวเองจะเป็นคนนอกในเรื่องราวนี้
“แบบนี้ไงฝน เวลาที่คลื่นวิ่ง …………” (https://beachlover.net/jetty/) “พอเข้าใจไหมอ่ะ”
“อืม…เข้าใจง่ายดีนะ แล้วเรื่องง่ายๆแบบนี้ คนที่สร้างเค้าไม่เข้าใจหรือไง ทำไมเค้ายังสร้างมันหล่ะ ถ้ารู้ว่ามันจะทำให้ชายหาดตรงนี้มีผลกระทบอ่ะ” น้ำฝนยังสนใจต่อเนื่องจากคำตอบของเม็ดทราย “นี่รู้ไหม แบบนี้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับหน่วยงานรัฐที่สร้างไอ้กองหินยื่นๆนั้นได้เลยนะ” ฝนเริ่มเติมประเด็นเชิงกฎหมายที่ได้ร่ำเรียนมาลงไปในวงสนทนา
“หือ! …แบบนั้นได้ด้วยรึ ประชาชนฟ้องรัฐได้ด้วยรึ” หยกละจากหน้าจอข้อมูล Google earth ของเธอเพื่อร่วมวงสนทนานี้
“ตอนเรียนกฎหมายสิ่งแวดล้อมอ่ะพี่ อาจารย์ที่สอนเค้ายกกรณีศึกษาข้อพิพาทชายหาดที่ชาวบ้านฟ้องรัฐมาสอนแหล่ะ ฝนจำได้แม่นมาก เพราะมีอาจารย์รับเชิญที่เป็นวิศวกรมาจากกรุงเทพฯมาพูดเรื่องนี้ ทำให้เข้าใจข้อมูลเชิงกายภาพมากขึ้น พอมาประกอบร่างกับความรู้เรื่องกฎหมายสิ่งแวดล้อม ที่อาจารย์สอน ภาพมันชัดมากเลยอ่ะ”
เมื่อน้ำฝนเล่าเรื่องราวคดีชายหาดสะกอมที่ชาวบ้านฟ้องกรมเจ้าท่าให้ทั้งคู่ฟังจบ ทั้งสามก็มาถึงทิศเหนือของปากร่องน้ำสะกอมพอดี
“โครงสร้างนี้เองรึนี่ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการฟ้องร้องคดีปกครองคดีแรกในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับชายหาดเมื่อปี 2551” น้ำฝนพูดพลางกระโดดไปมาบนกองหิน “แกเรียกมันว่าอะไรนะ … จำไม่ได้แล้วอ่ะ” น้ำฝนถามเพื่อนตามประสานักกฎหมายที่มักจดจำศัพท์แสงทางเทคนิคไม่ค่อยได้
“เขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ หรือ Jetty ยังไงหล่ะ” เม็ดทรายที่ดูจะตื่นเต้นกว่าใครยิ่งได้รู้ว่ามีการฟ้องร้องเป็นคดีความกันที่นี่ด้วยแล้ว ยิ่งดูมีพลังในการค่อยๆอธิบายวัตถุประสงค์ของ Jetty ให้เพื่อนร่วมทริปฟังอย่างละเอียด
“นี่แกอธิบายได้เกือบเหมือนอาจารย์รับเชิญคนนั้นที่มาจากกรุงเทพฯเลยอ่ะ” น้ำฝนกล่าวชื่นชมเพื่อน
“อ้าว ลืมไปแล้วรึว่าชั้นก็ว่าที่วิศวกรเชียวน้า ไม่แปลกที่วิศวกรจะอธิบายเรื่องนี้ได้เหมือนๆกัน ก็มันเป็นไปตามทฤษฎีเป๊ะเลยนี่นา”
“หาดมันหายไปเยอะมากเลยเน่อะ” หยกเปิดภาพ Google Earth ในแต่ละช่วงเวลาของพื้นที่นี้ให้ทุกคนได้ดูผ่านหน้าจอ
“ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของที่ดินตรงโน้นจะลุกขึ้นมาฟ้องร้องทวงพื้นที่ตัวเองคืนจากรัฐ” “พี่ดูจาก Google แล้วเห็นว่ามันกัดเซาะไปยาวเหมือนกันแฮ่ะจากกองหินนี้” หยกพยายามให้ ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้าใจเชิงกายภาพของพื้นที่มากยิ่งขึ้น
“จริงๆยังมีตรงโน้นไกลๆอีกที่นะ ตรงบ้านโคกสักที่ชาวบ้านเป็นโจทย์ยื่นฟ้องน่ะ” น้ำฝนพูดพลางชี้ไปทางทิศเหนือ
ทั้งสามคนวิพากวิจารณ์การดำเนินของภาครัฐต่อเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยขยายผลจากกรณีชายหาดสะกอมกันอย่างสนุกสนานตลอดทาง ตามประสานักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมคอเดียวกัน
“เราแวะทักทายเจ้าย๊ะกันหน่อยไหมพี่หยก ทางผ่านพอดี” ฝนรีบบอกก่อนที่รถจะวิ่งเลยผ่านบ้านสวนกง อ.จะนะ
“ดีเหมือนกัน เผื่อมีอาหารทะเลแห้งให้ซื้อกลับหาดใหญ่บ้าง” หยกกล่าวพลางตบไฟและเลี้ยวหัวรถเข้าสู่บ้านสวนกง
“พี่ไปจอดตรงสันทรายเลยนะ และค่อยเดินย้อนมา” น้ำฝนพูดพร้อมกดโทรศัพท์หารุ่นน้องที่คุ้นเคย