Home

ข่าว

ราชกิจจานุเบกษา “กำแพงกันคลื่นต้องทำ EIA ” มีผลบังคับใช้ทันที

ที่มา: https://www.komchadluek.net/quality-life/environment/550610 เว็บไซต์ “ราชกิจจานุเบกษา” ประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2566  โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดประเภทโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 48  แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2536 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังนี้

สำรวจข้อมูลความลึกท้องน้ำ พื้นที่หาดบ้านด่านหยิด ถลาง จ.ภูเก็ต

ที่มาข่าว: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 25 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนธรณีวิทยาชายฝั่งลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความลึกท้องน้ำ โดยใช้เครื่องมือหยั่งความลึกท้องน้ำ (Echo Sounder) พื้นที่หาดบ้านด่านหยิด ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พื้นที่สำรวจนี้อยู่ในระบบหาดท่าฉัตรไชย ( T8B246 ) โดยมีเป้าหมายในการสำรวจรวมทั้งหมด 27 แนว โดยมีแนวสำรวจแบบขนานกับชายฝั่ง 6 แนว แนวตั้งฉากกับชายฝั่ง 20 แนว และแนวทแยง1 แนว มีระยะห่างระหว่างแนวสำรวจ 50 ม. คิดเป็นระยะทางในการสำรวจทั้งสิ้น 12.83 กม. ปัจจุบันสำรวจเรียบร้อยแล้วทั้ง 27 แนว ผลการสำรวจเบื้องต้นพบว่า พื้นที่สำรวจมีความลึกท้องน้ำประมาณ -0.03 ไปจนถึง -4.22 เมตร และมีความลาดชันประมาณ 0 – 17 องศา ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้จะนำไปเป็นฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และประเมินความเปราะบางของพื้นที่ชายฝั่งต่อการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดภูเก็ตฝั่งตะวันออกต่อไป

ติดตามการปักไม้ไผ่ แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ป่าชายเลนบ้านเกาะแมว จ.จันทบุรี

ที่มาข่าว: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 20 เมษายน 2566 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยวิธีการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น โดยมีนายปรานต์ ดิลกคุณากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง พร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) ตลอดจนผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรม ทช. ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ พื้นที่ป่าชายเลน บ้านเกาะแมว ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี สำหรับในพื้นที่บ้านเกาะแมวแห่งนี้ กรมทช. ดำเนินการในปี พ.ศ. 2556 ระยะทาง 1,000 เมตร และในปี พ.ศ. 2558 ระยะทาง 2,000 เมตร โดยทช. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำโครงการวิจัยการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศชายฝั่งทะเล (หาดโคลน) ภายหลังการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น ท้องที่จังหวัดจันทบุรี ในปี พ.ศ. 2563 โดยศึกษาในพื้นที่ป่าชายเลนบ้านเกาะแมว ซึ่งศึกษาโครงสร้างป่า องค์ประกอบของชนิดไม้ป่าชายเลน ความหลากหลายของชนิดพันธุ์ไม้ป่าชายเลน […]

ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทะเลชายฝั่ง ลงพื้นที่ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านปากดวด ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 5 มกราคม 2566 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนวิศวกรรมชายฝั่ง ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ลงพื้นที่ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านปากดวด ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในระบบหาดหาดเสาเภา-ท่าศาลา (T6A149) โดยติดตั้งรั้วดักทรายขนานกับแนวชายฝั่งระยะทาง 600 เมตร จากการสำรวจพบว่าหลังแนวรั้วดักทรายมีตะกอนทรายสะสมตัวสูงขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ประมาณ 0.70 – 0.90 เมตร โดยรั้วดักทรายอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ได้รับความเสียหายจากคลื่นลมมรสุมที่มีความรุนแรงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และไม่พบการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติม เบื้องต้นสรุปได้ว่าการติดตั้งรั้วไม้ดักตะกอนทรายสามารถช่วยฟื้นฟูตะกอนทรายชายหาดและลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งใด้ ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งจะสำรวจข้อมูลและติดตามผลสัมฤทธิ์ของการติดตั้งรั้วดักทราย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังสิ้นสุดฤดูมรสุม ต่อไป

คนสมุยคัดค้านกำแพงกันคลื่น

ที่มา: https://www.thairath.co.th ชาวบ้านริมชายหาดและผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างหนัก กรณีกรมโยธาธิการและผังเมืองจะทำโครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่หาดแม่น้ำและหาดบางมะขาม ซึ่งน่าจะเป็นโครงการนำร่องก่อนขยายไปยังหาดอื่นๆ โดยได้เปิดรับฟังความเห็น ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียไปเมื่อวันที่ 27 ก.ย. และ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของกรมโยธาฯบ่งบอกชัดเจนว่าจะทำ กำแพงหรือเขื่อนคอนกรีต ซึ่งเป็นโครงสร้างแข็ง ถึงขนาดจ้างบริษัทเอกชนมาสำรวจออกแบบไว้แล้ว ชาวบ้านจึงส่งตัวแทนในนาม กลุ่มรักษ์หาดเกาะสมุยไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมโยธาฯเพื่อขอให้ยุติโครงการดังกล่าว สาเหตุที่ชาวบ้านคัดค้านการสร้างกำแพงกันคลื่นบนชายหาดเนื่องจากชายหาดเกาะสมุยมีลักษณะ เป็นอ่าวที่มีแหลมโอบล้อมอยู่ทั้ง 2 ด้าน และ มีคันแนวปะการังตลอดแนวชายฝั่ง ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ต่างกับ ชายหาดที่ทอดยาวบนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการกัดเซาะค่อนข้างมาก และการสร้างกำแพงกันคลื่นยังเป็นสาเหตุให้หาดทรายหาย เกิดการกัดเซาะพื้นที่ด้านข้างปลายเขื่อนไปเรื่อยๆ (ส่วนใหญ่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวจึงไม่มีใครออกมาเรียกร้องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม) ด้วยสภาพภูมิศาสตร์แตกต่างกัน ชาวบ้านบนเกาะสมุยจึงไม่ต้องการให้เอาฐานความคิดจากหาดทรายแผ่นดินใหญ่ไปใช้กับหาดทรายตามเกาะแก่ง และด้วยลักษณะทางภูมิอากาศของเกาะสมุย มีอิทธิพลของลมที่พัดเข้าหาเกาะตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 8 ทิศ ได้แก่ ลมตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้ (ลมตะเภา) ลมใต้ (ลมสลาตัน) ลมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมพัดยา) ลมตะวันตก ลมตะวันตกเฉียงเหนือ (ลมพัดหลวง) ลมเหนือ (ลมว่าว) และลมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมอุตรา) ลมทั้ง 8 […]

ทช. ลงสำรวจพื้นที่ชายฝั่ง เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ลงสำรวจพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ที่มีการนำเสนอโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ประจำปีงบประมาณ 2566 ของหน่วยงานราชการ โดยจังหวัดเพชรบุรี มีโครงการเสริมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะบริเวณชายหาดชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ระยะที่ 1 โดยกรมเจ้าท่า ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีโครงการที่เสนอในพื้นที่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง (2) โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ถนนปิ่นอนุสรณ์ต่อเนื่องบริเวณกองบังคับการกองบิน 5 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงบริเวณค่ายลูกเสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง (3) โครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นบริเวณร่องน้ำห้วยยาง ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมเจ้าท่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลภาพถ่ายในอดีต ภาพถ่ายปัจจุบัน ภาพบินโดรน […]

กรมทะเลฯ สำรวจความลึกท้องน้ำ ชายฝั่งภูเก็ต

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจความลึกท้องน้ำ พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต สู่การบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่ง และแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ วันที่ 29 ตุลาคม 2565 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดย ส่วนธรณีวิทยาชายฝั่ง ลงพื้นที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อหาความลึกท้องน้ำโดยใช้เรือสำรวจอัตโนมัติ CHC Apache 3 ด้วยระบบเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GNSS แบบ RTK ร่วมกับเครื่องหยั่งน้ำ Echo Sounder แบบความถี่เดียว โดยการสำรวจครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่สำรวจประมาณ 18,000 ตร.ม. แบ่งแนวสำรวจออกเป็น 20 แนว ผลการสำรวจพบว่า ความลึกเฉลี่ยของพื้นท้องทะเลใกล้ฝั่งหาดสุรินทร์ห่างจากแนวชายฝั่งออกไปประมาณ 200 เมตร มีความลึกระหว่าง -2.0 ถึง -7.8 เมตร ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งจะนำผลการสำรวจไปจัดทำแผนที่ความลึกท้องน้ำในพื้นที่หาดดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดการชายฝั่งต่อไป

กลุ่มรักหาดสมุยร้องกรมโยธาฯให้ยุติโครงการ

ที่มา: https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH วันนี้ เวลา 14.30 น. กรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงวัตถุประสงค์ “โครงการศึกษาแนวทางและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อำเภอเกาะสมุย บริเวณหาดแม่น้ำและหาดบ้านบางมะขาม จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ต่อกลุ่มรักหาดเกาะสมุย วันนี้ (25 ตุลาคม 2565) เวลา 14.30 น. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองมอบหมายให้ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการศึกษาแนวทางและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จำนวน 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดแม่น้ำ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่น้ำ และพื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดบ้านบางมะขาม หมู่ที่ 5 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกลุ่มรักหาดเกาะสมุย ซึ่งได้เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อจะไปดำเนินการพิจารณาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมยืนยันและให้ความมั่นใจกับกลุ่มรักหาดเกาะสมุย ว่ากรมฯ ยังไม่มีแผนที่จะก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อำเภอเกาะสมุย บริเวณหาดแม่น้ำและหาดบ้านบางมะขาม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายสมมิตร์ สมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกรม นายสุวพงษ์ […]

หาดพัทยาพัง! รอบที่เท่าไหร่แล้ว?

ที่มา: https://web.facebook.com/STVPattaya เรื่องมันจบยาก…ฝนตกทุกครั้ง ชายหาดพัทยาพังทุกเที่ยว ชาวบ้านถามหาแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ดีแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาน้ำท่วมขัง นอกจากจะเป็นปัญหาผูกขาดที่อยู่คู่กับเมืองพัทยามาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าแก้ไขไม่เด็ดขาด เบ็ดเสร็จเสียที ทั้งที่ผ่านมาแม้ว่าเมืองพัทยาจะมีการตั้งงบประมาณและโครงการต่างๆเพื่อรองรับแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง หลายรอบ หลายยุคสมัย หลายสมัยการปกครอง หมดงบประมาณไปหลายร้อยล้านบาท ทั้งโครงการแก้น้ำท่วมบนถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นสายหลัก ตลาดนาเกลือ หนองใหญ่ ถนนเลียบทางรถไฟ เขาตาโล เขาน้อย ซอยบัวขาว ถนนพัทยาสาย 3 หรือแม้แต่ถนนพัทยาสายเลียบชายหาด และที่เด่นชัดที่สร้างภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อการท่องเที่ยว คือการระบายน้ำฝนที่ปะปนกับน้ำเสียลงสู่ทะเล รวมและปริมาณน้ำที่หลาลงบนชายหาดพัทยา ที่กรมเจ้าท่าเป็นเจ้าภาพในการทุ่มงบประมาณ 400 กว่าล้านบาทในการเสริมทรายในระยะ 50 เมตรจากแนวฟุตบาทเพื่อเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ด้วยพบว่ามีนัยยะของการกัดเซาะอย่างรุนแรง แต่ทุกครั้งตามข้อตกลงก่อนดำเนินการที่เมืองพัทยาตบปากรับคำว่าจะจัดทำระบบดักน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำพัดทรายไหลลงสู่ทะเล แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีพายุฝนตกต่อเนื่องลงครั้งใด เมืองพัทยาก็ต้องประสบพบเจอกับปัญหาท่วมขังซ้ำซากแบบนี้ทุกครั้ง แม้จะตอบได้ว่าปัจจุบันมีการระบายน้ำที่รวดเร็วขึ้นก็ตาม โดทุกครั้งมัก จะมีเหตุผลที่วาเมืองพัทยาอยู่ในพื้นที่ต่ำที่ต้องรองรับมวลน้ำจากเทศบาลข้างเคียงที่มีพื้นที่สูงกว่าถึง 60 เมตร ในขณะที่ท่อระบายน้ำเดิมของเมืองพัทยาที่ใช้กันมาแต่อดีตรวมระยะทางนับพันกิโลเมตรนั้นมีขนาดความกว้างไม่เกิน 60-800 ม.ม.เท่านั้น ส่วนโครงการที่จัดทำไปก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นการจัดทำเพื่อให้มีการระบายน้ำที่รวดเร็วมากขึ้นและลดความเสียต่อทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้น้อยที่สุด โดยขณะที่กำลังรอแผนแม่บทของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่รัฐบาลมอบหมายจะให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมในงบประมาณนับหมื่นล้านบาท ซึ่งยังคงตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการเมื่อใด ปัจจุบันสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็การใช้งบประมาณในการนำกำลังคนและเครื่องจักรลงพื้นที่ชายหาดพัทยาเพื่อเกลี่ยทรายให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยเร็วที่สุด เพราะเมื่อเกิดปัญหาน้ำหลากครั้งใด ก็จะมีภาพความเสียหายต่อชายหาดเกิดขึ้นเมื่อนั้น กรณีนี้มีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตานักท่องเที่ยวออกไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ปัจจุบันเมืองพัทยาได้ถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของ […]

กรมโยธาธิการฯ จัดเวทีรับฟังชายฝั่งทะเลปะเสยะวอ

ที่มา: https://www.facebook.com/profile.php?id=100070314642518 วันนี้ (10 ตุลาคม 2565) กรมโยธาธิการฯ ดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภายใต้งานออกเเบบเเละศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ระยะที่ 4 ในเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน มีประชาชนในพื้นที่ เเละนักวิชาการ เข้าร่วมเวที เเละให้ข้อห่วงกังวลต่อโครงการดังกล่าวว่า หากดำเนินการเลือกมาตรการไม่ถูกต้อง เหมาะสมอาจกระทบต่อชายฝั่งทะเลได้ในระยะยาว ในเวทีดังกล่าวนั้น เป็นการรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 จะมีการจัดเวทีในครั้งต่อไป ในขณะที่พื้นที่เกาะสมุยก็มีการศึกษาในลักษณะเดียวกันเช่นกัน ต้องติดตามดูว่ากรมโยธาฯจะดำเนินการอย่างไรกับพื้นที่ชายหาดปะเสยะวอต่อไป

see more…

สถานการณ์ชายฝั่งทะเล

รากโกงกางเทียม (อีกรอบ) ณ หาดนางทอง

เมื่อปลายปีก่อน Beach Lover ได้เคยพาสำรวจโครงการรากโกงกางเทียมเพื่อป้องกันชายฝั่ง ณ หาดนางทอง เขาหลักไปแล้ว ติดตามได้จากโพส https://beachlover.net/ระเนระนาด-หาดนางทอง-เขาหลัก/ ครั้งนี้ขอพาชมซากที่ยังหลงเหลืออยู่ของรากโกงกางเทียมกันอีกซักรอบในช่วงต้นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพโดยรวมแทบจะไม่เหลือรากโกงกางเทียมที่ทำจากยางให้เห็นแล้ว เกือบทั้งหมดหลุดออกจากฐาน มีบางส่วนจมอยู่ใต้ทราย นอกจากนั้นยังพบว่าตัวฐานที่เป็นเสาสำหรับยึดรากโกงกางเทียมเอนไปมาและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ติดตั้งไว้เดิม นอกจากนั้นยังพบว่ามีรอยแตกร้าวในแนวดิ่งเหมือนกันทุกต้น คาดว่าเกิดจากแรงปะทะของคลื่น ชม VDO clip การเดินสำรวจได้ที่ https://youtu.be/9zTpKvD0q88 บริเวณโดยรอบยังพบซากของฐานและรากโกงกางเทียมกระจายเป็นหย่อมๆ คาดว่าอาจถูกคลื่นซัดหลุดออกจากตำแหน่งติดตั้ง และมีการเก็บซากมากองไว้รวมกัน นอกจากนั้นยังพบว่า พื้นที่รอบๆโครงสร้างนี้ยังคงต้องใช้โครงสร้างป้องกันชายฝั่งแบบเดิมเหมือนก่อนที่จะมีโครงการนี้เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งกันต่อไป ภาพทั้งหมดถ่ายเมื่อ 23 พ.ค.2566

หาดบางดี ยังสบายดี?

Beach Lover เคยเล่าเรื่องราวของหาดบางดี จ.นครศรีธรรมราชมาแล้วก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีกระแสการต่อต้านโครงสร้างกำแพงกันคลื่นในเวทีรับฟังความคิดเห็นเมื่อปีที่แล้ว ติดตามได้จากโพสเก่าๆ ในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือนี้ Beach Lover ได้มีโอกาสกลับไปสำรวจสภาพของชายหาดบางดีอีกครั้งหนึ่ง พบว่าชายหาดโดยรวมยังสมบูรณ์ ยังไม่มีการโค่นล้มของต้นไม้ริมทะเลจากคลื่นในช่วงมรสุม แต่พบว่าชายหาดส่วนบนตัดชันขึ้นจากคลื่นที่รุนแรงในช่วงมรสุม ซึ่งเป็นผลกระทบที่คาดการณ์ได้จากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นปี ผู้ประกอบการร้านอาหารเครื่องดื่มริมทะเลเล่าให้เราฟังว่า ช่วงปลายปีก่อนจะเข้าช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมากจนคลื่นซัดเข้ามาถึงถนนด้านใน ร้านริมทะเลปิดร้านไป 1-2 วันและขนของออกจากพื้นที่ แต่เหตุการณ์นี้เกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ระดับน้ำก็ลดลงตามปกติ โดยที่ชายหาดมิได้เกิดความเสียหายอะไรเพราะเป็นเพียงปลายของคลื่นที่หมดพลังแล้วเท่านั้นที่รุกเข้ามาด้านในฝั่ง #ภาพทั้งหมดในโพสนี้ ถ่ายเมื่อ ม.ค.2566

ตลิ่งงาม … งามแบบตะโกน!

เกาะสมุยนับว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งทะเลอ่าวไทย แม้การเดินทางจะใช้เวลานานไปสักหน่อยเนื่องจากต้องต่อรถและเรือหลายทอด  แต่เมื่อถึงเกาะแล้ว น้อยคนที่จะไม่หลงรักเกาะสมุย Beach Lover ได้ลงพื้นที่สำรวจชายหาดบนเกาะสมุยหลายรอบติดตามได้จากโพสเก่าๆ ครั้งนี้ ขอพาชมชายหาดด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Beach Lover ยังไม่เคยเขียนถึงมาก่อน ชายหาดฝั่งนี้เป็นตำแหน่งที่คลื่นลมค่อนข้างสงบจากมรสุมตะวันออกเพราะอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โรงแรมหรูหลายแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่แถบนี้  หาดที่จะพาชมคือหาด ”ตลิ่งงาม” ปลายหาดทางทิศใต้เป็นที่ตั้งของโรงแรม InterContinental  เลยจากโรงแรมนี้ไปทางทิศใต้ ยังอยู่ในเขตติดต่อของหาดตลิ่่งงาม เป็นหาดที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เข้าถึงได้ด้วยถนนเล็กๆเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ที่พักริมทะเลเท่าที่เห็นมีขนาดเล็กและหลายแห่งคล้ายวิลล่าส่วนตัวมากกว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าพัก ทั้งสองหาดที่อยู่ติดกันนี้ มีลักษณะเป็นหาดทรายไม่ขาวมาก และ ขนาดไม่ได้ละเอียดมาก แต่เมื่อประกอบกับน้ำทะเลใส ท้องฟ้าสวย ไร้เมฆเจือปน ได้ขับให้หาดตลิ่งงาม ณ ช่วงเวลานี้  “งามแบบตะโกน”  # ภาพทั้งหมดในโพสนี้ ถ่ายเมื่อ พ.ค.2566

กำแพงกระสอบป้องกันแบบชั่วคราว ณ หาดม่วงงาม

ชายหาดม่วงงาม หมู่ 3 ตำบลม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีประชากรกว่า 3,000 คน มีที่อยู่อาศัยตั้งเรียงรายประชิดชายฝั่งตลอดทั้งแนว ส่งผลให้ยามฤดูมรสุม พื้นที่ริมทะเลแถบนี้มักได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าชายหาดหมู่อื่นๆของม่วงงาม Beach Lover  เคยพาชมพื้นที่นี้ไปแล้วช่วงก่อนมรสุม ในเวลานั้นพบว่าชุมชนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับคลื่นใหญ่ลมแรงในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นมรสุมประจำถิ่นของทุกปีโดยใช้กระสอบทรายขนาดเล็ก ติดตามอ่านได้จากโพส https://beachlover.net/หาดม่วงงาม-เตรียมรับมรสุมแล้ว/ Beach Lover ได้ลงสำรวจพื้นที่นี้อีกครั้งในวันที่ 14 มีนาคม 2566 พบว่ากระสอบทรายที่วางไว้เดิมเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือมรสุม ส่วนมากยังอยู่ในตำแหน่งเดิม และยังคงมีสภาพดี ในขณะที่บางส่วนกระจัดกระจายอยู่บนชายหาดโดยถูกทรายกลบไปบ้างแล้ว นอกจากนั้นยังพบเสาไม้โผล่ขึ้นมาริมชายหาดบางส่วน ไม่แน่ใจว่าสร้างไว้เมื่อใด และพบเศษท่อนไม้ซากไม้บนชายหาดที่เกิดขึ้นคลื่นซัดขึ้นมากองในช่วงมรสุม  เมื่อสำรวจทางทิศใต้ของหมู่ 3 ไม่พบโครงสร้างกระสอบหรือเสาไม้ และไม่พบร่องรอยของการกัดเซาะชายฝั่ง พบเพียงผ้าพลาสติกที่ชาวบ้านขึงไว้เพื่อกันทรายและลมพัดเข้าบ้านซึ่งมักพบเห็นเป็นปกติในช่วงมรสุมสำหรับบ้านเรือนที่อยู่ประชิดชายหาด (VDO clip: https://www.youtube.com/watch?v=gYdX-rjOBig) ชาวบ้านเล่าให้เราฟังว่า จากเวลานี้ไปน่าจะไม่มีคลื่นและน้ำใหญ่ระดับที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงอีกแล้ว น่าจะหมดช่วงมรสุมแล้ว ที่ผ่านมาสังเกตว่าช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมาค่อนข้างมาล่าช้าและยาวนานกว่าปีก่อน ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด

หาดแม่รำพึง ยังสบายดี?

Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของชายหาดแม่รำพึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วเมื่อสองปีก่อน ติดตามได้จาก https://beachlover.net/ปาบึกกำลังจะเปลี่ยนหาดe/ โดยในครั้งนั้นได้นำเสนอว่า หาดแม่รำพึงนี้ กำลังจะมีโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในรูปแบบของกำแพงกันคลื่น เจ้าของงานคือกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา STS Engineering Consultant จำกัด ศึกษาออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จไปเมื่อปี 2562 โดยในครั้งนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเกิดโครงการกำแพงกันคลื่นขึ้น ณ ตำแหน่งใดของชายหาดเป็นเฟสแรก กรมโยธาฯได้บรรจุงบประมาณเพื่อก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึงไว้ในปีงบประมาณ 2564 และต่อเนื่องมาถึงปี 2567 ด้วยงบประมาณรวม 79.078 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างกำแพงกันคลื่นสามรูปแบบบนชายหาดแม่รำพึง ความยาว 805 เมตร (ข้อมูลจากร่างงบประมาณเล่มขาวคาดแดงปี 2566 แต่จากเวทีรับฟังความคิดเห็นมีความยาว 966 เมตร) เมื่อประมาณต้นปี 2565 ได้เกิดกระแส ไม่เห็นด้วยกันโครงการนี้มากขึ้นโดย “กลุ่ม Save หาดแม่รำพึง” ที่เป็นกลุ่มหลักในการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ (https://beachlover.net/ชาวบ้านบางสะพานจี้กรมโยธาฯ-ทบทวนโครงการสร้างเขื่อนกันตลิ่งมูลค่า-79-ล้าน/) ระบุถึงความไม่จำเป็นในหลายประการรวมถึงข้อห่วงกังวลต่างๆ จากนั้นก็มีการยื่นหนังสือร้องเรียนและขอข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ชอบธรรมของโครงการนี้อย่างรุนแรงอีกครั้ง สืบเนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นนั้นเป็นการคัดลอกข้อมูลจากจังหวัดสงขลามาใส่ในรายงาน แม้จะเป็นข้อมูลประกอบรายงานในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญนัก แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า กระบวนการทำและจัดส่งรายงานนั้นดำเนินการด้วยความไม่รอบคอบ (https://beachlover.net/กำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง-ประจวบคีรีขันธ์-๙๖๖-เมตร-บนคำถาม/) […]

ร้อยเมตรสุดท้ายของชายหาด

พื้นที่นี้ตั้งอยู่ในตําบลสามร้อยยอด อําเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นชายหาดส่วนสุดท้ายที่ยาวต่อเนื่องมาจากเขากะโหลก ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ตลอดระยะทางประมาณ 4,530 เมตร ก่อนถึงชายหาดส่วนสุดท้ายนี้ ไม่หลงเหลือสภาพชายหาดธรรมชาติแล้ว เนื่องจากมีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งรูปแบบกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง ดําเนินการก่อสร้างโดยสํานักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ทางทิศใต้ของพื้นที่หาดผืนสุดท้ายนี้ คือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ และมีการใช้ประโยชน์เป็นชุมชนประมงด้านในคลอง น่าแปลกใจว่า เหตุใดตอนก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงที่ยาวต่อเนื่องมาจากเขากะโหลกเป็นระยะทางกว่า 4.53 กิโลเมตร ในปี 2555 จึงได้เว้นช่วงชายหาดผืนสุดท้ายนี้ไว้ประมาณ 120 เมตร เหตุใดจึงไม่ได้ออกแบบก่อสร้างให้จรดโครงสร้างปากร่องน้ำ นับเป็นโครงการที่น่าตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย Beach Lover ลงพื้นที่สำรวจในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 พบว่า มีกองหินขนาดเล็กวางระเกะระกะบนบางส่วนของชายหาด แต่ยังไม่พบร่องรอยคลื่นกัดเซาะจนถนนได้รับความเสียหาย โดยถนนเส้นนี้วิ่งมาจรดปากคลองเท่านั้น ไม่ได้เป็นเส้นทางหลักเพื่อวิ่งเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นแต่อย่างใด ในปี 2565 ท้องถิ่นได้ทำเรื่องร้องขอโครงสร้างป้องกันพื้นที่ชายหาดผืนสุดท้ายนี้ต่อกรมโยธาธิการและผังเมือง คาดเดาได้ว่า กรมจะใช้วิธีคิดแบบเดิมๆคือป้องกันไปเสียให้จบๆ เพราะเหลืออีกแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้น ซึ่งอาจหมายความว่าเราจะได้กำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงในรูปแบบเดิมกับที่มีอยู่แล้วกว่า 4.53 กิโลเมตร หากกรมฯปรับเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหาใหม่ อาจคิดได้ว่า เหลือเพียงแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้นที่เป็นหาดทรายธรรมชาติผืนสุดท้ายของชายหาดที่ยาว 4.65 […]

พบโกงกางเทียม บน หาดทราย

Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของ โครงสร้างป้องกันชายฝั่งชนิดหนึ่งที่เรียกขานกันว่า “ซีออส C-Aoss หรือ โกงกางเทียม” (https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2020/20200612-17v1-C-Aoss.pdf) ไปบ้างแล้วในโพสเก่าๆ ติดตามได้จาก หาดนางทอง เขาหลัก พังงา Youtube https://www.youtube.com/watch?v=Rugopmws9fg ระเนระนาด @ หาดนางทอง (https://beachlover.net/ระเนระนาด-หาดนางทอง-เขาหลัก/) Beach Lover ได้ลงสำรวจภาคสนาม (21 ธันวาคม 2565) และพบว่ามีความพยายามใช้โครงสร้างนี้เพื่อป้องกันชายหาด ณ หาดสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการเดินเท้าสำรวจไม่พบป้ายระบุว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ รายละเอียดของโครงสร้าง รวมถึงงบประมาณที่ใช้ พบว่า ตัวแท่งเสาหลักที่ทำจากเนื้อไม้ผสมพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง(High Density Polyethylene : HDPE) หรือตัวต้นโกงกางเทียมได้ถูกปักลงบนหาดทรายแล้วจำนวน 4 และ 6 แถว โดยใช้รถเจาะที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนตัวรากไม้เทียมที่มีส่วนผสมของยางพาราธรรมชาติร้อยละ 35 ของส่วนผสมทั้งหมด ยังไม่ถูกประกอบเข้ากับเสาหลัก พบว่าวางใส่ถุงกระสอบขนาดใหญ่อยู่บนชายหาดด้านหลังแท่งเสาหลัก เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆพบว่ามีกลิ่นคล้ายยางรถยนต์ชัดเจนมากจากรากไม้เทียมนี้ ทางทิศใต้ของบริเวณที่คาดว่าเป็นพื้นที่ก่อสร้างนี้มีลักษณะเป็นหาดทรายยาว โดยยังไม่พบโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง และยังไม่พบหลักฐานของการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน ส่วนทางทิศเหนือของพื้นที่ก่อสร้างนี้เป็นกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงใหญ่ สร้างโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองระยะทางประมาณ 1.5 […]

3 เรื่องราวที่มีผู้อ่านมากที่สุดแห่งปี 2565

Beach Lover ได้เริ่มนำเสนอเรื่องราว องค์ความรู้ เรื่องชายหาดทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีเนื้อหาที่เป็น Original content ทั้งหมด ยกเว้นหมวด “ข่าว” และบางส่วนของหมวด “วิชาการ” โดยในปี 2565 ได้เพิ่มหมวด “การเดินทางของเม็ดทราย” (https://beachlover.net/การเดินทางของเม็ดทราย/) ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวของชายหาดต่างๆผ่านตัวละคร จากจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มากกว่าหมวดเนื้อหาหนักๆที่เป็นวิชาการเสียอีก ในปี 2565 มี 3 เรื่องราวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ (Click ที่ชื่อเรื่องเพื่อนำสู่เนื้อหาฉบับเต็ม) พาชมหาดขั้นบันไดแห่งใหม่ของเมืองเพชร! กำแพงกันคลื่น … ไปต่อหรือพอแค่นี้ คดีประวัติศาสตร์ “หาดกัดเพราะรัฐสร้าง” คาบสมุทรตากใบ นราธิวาส เรายังคงตั้งใจนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเนื้อหาที่ยึดโยงกับหลักวิชาการโดยไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ด้วยความเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า “ความรู้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้”

ชมหาดขั้นบันไดสีเขียวมรกต

Beach Lover ได้พาติดตามโครงการกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได บริเวณชายหาดชะอำใต้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ค้นหาได้จาก Search Icon มุมขวาบน ครั้งนี้ขอพาชมโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดส่วนท้ายสุด ด้านทิศใต้ของชายหาดขะอำใต้ ที่ยังเหลือเก็บงานพื้นผิวขั้นบันไดอีกเล็กน้อย (ภาพเมื่อ 22ธันวาคม2565) พบว่า ด้านหน้ากำแพงไม่มีชายหาดหลงเหลืออยู่เลย และพบว่ามีสาหร่ายสีเขียวขึ้นตามขั้นบันไดส่วนที่ใกล้กับระดับน้ำตามรูป

กำแพงกันคลื่น กับ EIA

ท่ามกลางกระแสการร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำเอาโครงสร้างป้องกันชายฝั่งประเภทกำแพงกันคลื่นกลับเข้าไปอยู่ในประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในรายการของโครงสร้างชายฝั่งทะเลที่จำเป็นต้องจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนพิจารณาใช้โครงสร้างนี้เพื่อป้องกันชายฝั่ง ตามข่าวได้จาก https://www.facebook.com/Beachforlife.BFL และ https://www.facebook.com/greensouthfoundation รวมถึงองค์กรและสื่อด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ Beach Lover ซึ่งเป็น Website ที่ให้องค์ความรู้และถ่ายทอดข้อมูลสถานการณ์ชายฝั่งทะเลมาตลอดกว่า 4 ปี ขอชวนผู้ติดตามอ่านบทความกึ่งวิชาการได้จาก https://beachlover.net/กำแพงกันคลื่น-ไปต่อหรื-2/ หรือเข้าไปในหมวด “วิชาการ” และค้นหาบทความชื่อ “กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้”

see more…

สถานการณ์ชายฝั่งทะเล

รากโกงกางเทียม (อีกรอบ) ณ หาดนางทอง

เมื่อปลายปีก่อน Beach Lover ได้เคยพาสำรวจโครงการรากโกงกางเทียมเพื่อป้องกันชายฝั่ง ณ หาดนางทอง เขาหลักไปแล้ว ติดตามได้จากโพส https://beachlover.net/ระเนระนาด-หาดนางทอง-เขาหลัก/ ครั้งนี้ขอพาชมซากที่ยังหลงเหลืออยู่ของรากโกงกางเทียมกันอีกซักรอบในช่วงต้นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพโดยรวมแทบจะไม่เหลือรากโกงกางเทียมที่ทำจากยางให้เห็นแล้ว เกือบทั้งหมดหลุดออกจากฐาน มีบางส่วนจมอยู่ใต้ทราย นอกจากนั้นยังพบว่าตัวฐานที่เป็นเสาสำหรับยึดรากโกงกางเทียมเอนไปมาและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ติดตั้งไว้เดิม นอกจากนั้นยังพบว่ามีรอยแตกร้าวในแนวดิ่งเหมือนกันทุกต้น คาดว่าเกิดจากแรงปะทะของคลื่น ชม VDO clip การเดินสำรวจได้ที่ https://youtu.be/9zTpKvD0q88 บริเวณโดยรอบยังพบซากของฐานและรากโกงกางเทียมกระจายเป็นหย่อมๆ คาดว่าอาจถูกคลื่นซัดหลุดออกจากตำแหน่งติดตั้ง และมีการเก็บซากมากองไว้รวมกัน นอกจากนั้นยังพบว่า พื้นที่รอบๆโครงสร้างนี้ยังคงต้องใช้โครงสร้างป้องกันชายฝั่งแบบเดิมเหมือนก่อนที่จะมีโครงการนี้เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งกันต่อไป ภาพทั้งหมดถ่ายเมื่อ 23 พ.ค.2566

หาดบางดี ยังสบายดี?

Beach Lover เคยเล่าเรื่องราวของหาดบางดี จ.นครศรีธรรมราชมาแล้วก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีกระแสการต่อต้านโครงสร้างกำแพงกันคลื่นในเวทีรับฟังความคิดเห็นเมื่อปีที่แล้ว ติดตามได้จากโพสเก่าๆ ในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือนี้ Beach Lover ได้มีโอกาสกลับไปสำรวจสภาพของชายหาดบางดีอีกครั้งหนึ่ง พบว่าชายหาดโดยรวมยังสมบูรณ์ ยังไม่มีการโค่นล้มของต้นไม้ริมทะเลจากคลื่นในช่วงมรสุม แต่พบว่าชายหาดส่วนบนตัดชันขึ้นจากคลื่นที่รุนแรงในช่วงมรสุม ซึ่งเป็นผลกระทบที่คาดการณ์ได้จากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นปี ผู้ประกอบการร้านอาหารเครื่องดื่มริมทะเลเล่าให้เราฟังว่า ช่วงปลายปีก่อนจะเข้าช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมากจนคลื่นซัดเข้ามาถึงถนนด้านใน ร้านริมทะเลปิดร้านไป 1-2 วันและขนของออกจากพื้นที่ แต่เหตุการณ์นี้เกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ระดับน้ำก็ลดลงตามปกติ โดยที่ชายหาดมิได้เกิดความเสียหายอะไรเพราะเป็นเพียงปลายของคลื่นที่หมดพลังแล้วเท่านั้นที่รุกเข้ามาด้านในฝั่ง #ภาพทั้งหมดในโพสนี้ ถ่ายเมื่อ ม.ค.2566

ตลิ่งงาม … งามแบบตะโกน!

เกาะสมุยนับว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งทะเลอ่าวไทย แม้การเดินทางจะใช้เวลานานไปสักหน่อยเนื่องจากต้องต่อรถและเรือหลายทอด  แต่เมื่อถึงเกาะแล้ว น้อยคนที่จะไม่หลงรักเกาะสมุย Beach Lover ได้ลงพื้นที่สำรวจชายหาดบนเกาะสมุยหลายรอบติดตามได้จากโพสเก่าๆ ครั้งนี้ ขอพาชมชายหาดด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Beach Lover ยังไม่เคยเขียนถึงมาก่อน ชายหาดฝั่งนี้เป็นตำแหน่งที่คลื่นลมค่อนข้างสงบจากมรสุมตะวันออกเพราะอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โรงแรมหรูหลายแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่แถบนี้  หาดที่จะพาชมคือหาด ”ตลิ่งงาม” ปลายหาดทางทิศใต้เป็นที่ตั้งของโรงแรม InterContinental  เลยจากโรงแรมนี้ไปทางทิศใต้ ยังอยู่ในเขตติดต่อของหาดตลิ่่งงาม เป็นหาดที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เข้าถึงได้ด้วยถนนเล็กๆเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ที่พักริมทะเลเท่าที่เห็นมีขนาดเล็กและหลายแห่งคล้ายวิลล่าส่วนตัวมากกว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าพัก ทั้งสองหาดที่อยู่ติดกันนี้ มีลักษณะเป็นหาดทรายไม่ขาวมาก และ ขนาดไม่ได้ละเอียดมาก แต่เมื่อประกอบกับน้ำทะเลใส ท้องฟ้าสวย ไร้เมฆเจือปน ได้ขับให้หาดตลิ่งงาม ณ ช่วงเวลานี้  “งามแบบตะโกน”  # ภาพทั้งหมดในโพสนี้ ถ่ายเมื่อ พ.ค.2566

กำแพงกระสอบป้องกันแบบชั่วคราว ณ หาดม่วงงาม

ชายหาดม่วงงาม หมู่ 3 ตำบลม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีประชากรกว่า 3,000 คน มีที่อยู่อาศัยตั้งเรียงรายประชิดชายฝั่งตลอดทั้งแนว ส่งผลให้ยามฤดูมรสุม พื้นที่ริมทะเลแถบนี้มักได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าชายหาดหมู่อื่นๆของม่วงงาม Beach Lover  เคยพาชมพื้นที่นี้ไปแล้วช่วงก่อนมรสุม ในเวลานั้นพบว่าชุมชนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับคลื่นใหญ่ลมแรงในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นมรสุมประจำถิ่นของทุกปีโดยใช้กระสอบทรายขนาดเล็ก ติดตามอ่านได้จากโพส https://beachlover.net/หาดม่วงงาม-เตรียมรับมรสุมแล้ว/ Beach Lover ได้ลงสำรวจพื้นที่นี้อีกครั้งในวันที่ 14 มีนาคม 2566 พบว่ากระสอบทรายที่วางไว้เดิมเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือมรสุม ส่วนมากยังอยู่ในตำแหน่งเดิม และยังคงมีสภาพดี ในขณะที่บางส่วนกระจัดกระจายอยู่บนชายหาดโดยถูกทรายกลบไปบ้างแล้ว นอกจากนั้นยังพบเสาไม้โผล่ขึ้นมาริมชายหาดบางส่วน ไม่แน่ใจว่าสร้างไว้เมื่อใด และพบเศษท่อนไม้ซากไม้บนชายหาดที่เกิดขึ้นคลื่นซัดขึ้นมากองในช่วงมรสุม  เมื่อสำรวจทางทิศใต้ของหมู่ 3 ไม่พบโครงสร้างกระสอบหรือเสาไม้ และไม่พบร่องรอยของการกัดเซาะชายฝั่ง พบเพียงผ้าพลาสติกที่ชาวบ้านขึงไว้เพื่อกันทรายและลมพัดเข้าบ้านซึ่งมักพบเห็นเป็นปกติในช่วงมรสุมสำหรับบ้านเรือนที่อยู่ประชิดชายหาด (VDO clip: https://www.youtube.com/watch?v=gYdX-rjOBig) ชาวบ้านเล่าให้เราฟังว่า จากเวลานี้ไปน่าจะไม่มีคลื่นและน้ำใหญ่ระดับที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงอีกแล้ว น่าจะหมดช่วงมรสุมแล้ว ที่ผ่านมาสังเกตว่าช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมาค่อนข้างมาล่าช้าและยาวนานกว่าปีก่อน ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด

หาดแม่รำพึง ยังสบายดี?

Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของชายหาดแม่รำพึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วเมื่อสองปีก่อน ติดตามได้จาก https://beachlover.net/ปาบึกกำลังจะเปลี่ยนหาดe/ โดยในครั้งนั้นได้นำเสนอว่า หาดแม่รำพึงนี้ กำลังจะมีโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในรูปแบบของกำแพงกันคลื่น เจ้าของงานคือกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา STS Engineering Consultant จำกัด ศึกษาออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จไปเมื่อปี 2562 โดยในครั้งนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเกิดโครงการกำแพงกันคลื่นขึ้น ณ ตำแหน่งใดของชายหาดเป็นเฟสแรก กรมโยธาฯได้บรรจุงบประมาณเพื่อก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึงไว้ในปีงบประมาณ 2564 และต่อเนื่องมาถึงปี 2567 ด้วยงบประมาณรวม 79.078 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างกำแพงกันคลื่นสามรูปแบบบนชายหาดแม่รำพึง ความยาว 805 เมตร (ข้อมูลจากร่างงบประมาณเล่มขาวคาดแดงปี 2566 แต่จากเวทีรับฟังความคิดเห็นมีความยาว 966 เมตร) เมื่อประมาณต้นปี 2565 ได้เกิดกระแส ไม่เห็นด้วยกันโครงการนี้มากขึ้นโดย “กลุ่ม Save หาดแม่รำพึง” ที่เป็นกลุ่มหลักในการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ (https://beachlover.net/ชาวบ้านบางสะพานจี้กรมโยธาฯ-ทบทวนโครงการสร้างเขื่อนกันตลิ่งมูลค่า-79-ล้าน/) ระบุถึงความไม่จำเป็นในหลายประการรวมถึงข้อห่วงกังวลต่างๆ จากนั้นก็มีการยื่นหนังสือร้องเรียนและขอข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ชอบธรรมของโครงการนี้อย่างรุนแรงอีกครั้ง สืบเนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นนั้นเป็นการคัดลอกข้อมูลจากจังหวัดสงขลามาใส่ในรายงาน แม้จะเป็นข้อมูลประกอบรายงานในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญนัก แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า กระบวนการทำและจัดส่งรายงานนั้นดำเนินการด้วยความไม่รอบคอบ (https://beachlover.net/กำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง-ประจวบคีรีขันธ์-๙๖๖-เมตร-บนคำถาม/) […]

ร้อยเมตรสุดท้ายของชายหาด

พื้นที่นี้ตั้งอยู่ในตําบลสามร้อยยอด อําเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นชายหาดส่วนสุดท้ายที่ยาวต่อเนื่องมาจากเขากะโหลก ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ตลอดระยะทางประมาณ 4,530 เมตร ก่อนถึงชายหาดส่วนสุดท้ายนี้ ไม่หลงเหลือสภาพชายหาดธรรมชาติแล้ว เนื่องจากมีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งรูปแบบกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง ดําเนินการก่อสร้างโดยสํานักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ทางทิศใต้ของพื้นที่หาดผืนสุดท้ายนี้ คือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ และมีการใช้ประโยชน์เป็นชุมชนประมงด้านในคลอง น่าแปลกใจว่า เหตุใดตอนก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงที่ยาวต่อเนื่องมาจากเขากะโหลกเป็นระยะทางกว่า 4.53 กิโลเมตร ในปี 2555 จึงได้เว้นช่วงชายหาดผืนสุดท้ายนี้ไว้ประมาณ 120 เมตร เหตุใดจึงไม่ได้ออกแบบก่อสร้างให้จรดโครงสร้างปากร่องน้ำ นับเป็นโครงการที่น่าตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย Beach Lover ลงพื้นที่สำรวจในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 พบว่า มีกองหินขนาดเล็กวางระเกะระกะบนบางส่วนของชายหาด แต่ยังไม่พบร่องรอยคลื่นกัดเซาะจนถนนได้รับความเสียหาย โดยถนนเส้นนี้วิ่งมาจรดปากคลองเท่านั้น ไม่ได้เป็นเส้นทางหลักเพื่อวิ่งเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นแต่อย่างใด ในปี 2565 ท้องถิ่นได้ทำเรื่องร้องขอโครงสร้างป้องกันพื้นที่ชายหาดผืนสุดท้ายนี้ต่อกรมโยธาธิการและผังเมือง คาดเดาได้ว่า กรมจะใช้วิธีคิดแบบเดิมๆคือป้องกันไปเสียให้จบๆ เพราะเหลืออีกแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้น ซึ่งอาจหมายความว่าเราจะได้กำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงในรูปแบบเดิมกับที่มีอยู่แล้วกว่า 4.53 กิโลเมตร หากกรมฯปรับเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหาใหม่ อาจคิดได้ว่า เหลือเพียงแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้นที่เป็นหาดทรายธรรมชาติผืนสุดท้ายของชายหาดที่ยาว 4.65 […]

พบโกงกางเทียม บน หาดทราย

Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของ โครงสร้างป้องกันชายฝั่งชนิดหนึ่งที่เรียกขานกันว่า “ซีออส C-Aoss หรือ โกงกางเทียม” (https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2020/20200612-17v1-C-Aoss.pdf) ไปบ้างแล้วในโพสเก่าๆ ติดตามได้จาก หาดนางทอง เขาหลัก พังงา Youtube https://www.youtube.com/watch?v=Rugopmws9fg ระเนระนาด @ หาดนางทอง (https://beachlover.net/ระเนระนาด-หาดนางทอง-เขาหลัก/) Beach Lover ได้ลงสำรวจภาคสนาม (21 ธันวาคม 2565) และพบว่ามีความพยายามใช้โครงสร้างนี้เพื่อป้องกันชายหาด ณ หาดสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการเดินเท้าสำรวจไม่พบป้ายระบุว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ รายละเอียดของโครงสร้าง รวมถึงงบประมาณที่ใช้ พบว่า ตัวแท่งเสาหลักที่ทำจากเนื้อไม้ผสมพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง(High Density Polyethylene : HDPE) หรือตัวต้นโกงกางเทียมได้ถูกปักลงบนหาดทรายแล้วจำนวน 4 และ 6 แถว โดยใช้รถเจาะที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนตัวรากไม้เทียมที่มีส่วนผสมของยางพาราธรรมชาติร้อยละ 35 ของส่วนผสมทั้งหมด ยังไม่ถูกประกอบเข้ากับเสาหลัก พบว่าวางใส่ถุงกระสอบขนาดใหญ่อยู่บนชายหาดด้านหลังแท่งเสาหลัก เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆพบว่ามีกลิ่นคล้ายยางรถยนต์ชัดเจนมากจากรากไม้เทียมนี้ ทางทิศใต้ของบริเวณที่คาดว่าเป็นพื้นที่ก่อสร้างนี้มีลักษณะเป็นหาดทรายยาว โดยยังไม่พบโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง และยังไม่พบหลักฐานของการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน ส่วนทางทิศเหนือของพื้นที่ก่อสร้างนี้เป็นกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงใหญ่ สร้างโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองระยะทางประมาณ 1.5 […]

3 เรื่องราวที่มีผู้อ่านมากที่สุดแห่งปี 2565

Beach Lover ได้เริ่มนำเสนอเรื่องราว องค์ความรู้ เรื่องชายหาดทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีเนื้อหาที่เป็น Original content ทั้งหมด ยกเว้นหมวด “ข่าว” และบางส่วนของหมวด “วิชาการ” โดยในปี 2565 ได้เพิ่มหมวด “การเดินทางของเม็ดทราย” (https://beachlover.net/การเดินทางของเม็ดทราย/) ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวของชายหาดต่างๆผ่านตัวละคร จากจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มากกว่าหมวดเนื้อหาหนักๆที่เป็นวิชาการเสียอีก ในปี 2565 มี 3 เรื่องราวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ (Click ที่ชื่อเรื่องเพื่อนำสู่เนื้อหาฉบับเต็ม) พาชมหาดขั้นบันไดแห่งใหม่ของเมืองเพชร! กำแพงกันคลื่น … ไปต่อหรือพอแค่นี้ คดีประวัติศาสตร์ “หาดกัดเพราะรัฐสร้าง” คาบสมุทรตากใบ นราธิวาส เรายังคงตั้งใจนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเนื้อหาที่ยึดโยงกับหลักวิชาการโดยไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ด้วยความเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า “ความรู้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้”

ชมหาดขั้นบันไดสีเขียวมรกต

Beach Lover ได้พาติดตามโครงการกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได บริเวณชายหาดชะอำใต้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ค้นหาได้จาก Search Icon มุมขวาบน ครั้งนี้ขอพาชมโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดส่วนท้ายสุด ด้านทิศใต้ของชายหาดขะอำใต้ ที่ยังเหลือเก็บงานพื้นผิวขั้นบันไดอีกเล็กน้อย (ภาพเมื่อ 22ธันวาคม2565) พบว่า ด้านหน้ากำแพงไม่มีชายหาดหลงเหลืออยู่เลย และพบว่ามีสาหร่ายสีเขียวขึ้นตามขั้นบันไดส่วนที่ใกล้กับระดับน้ำตามรูป

กำแพงกันคลื่น กับ EIA

ท่ามกลางกระแสการร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำเอาโครงสร้างป้องกันชายฝั่งประเภทกำแพงกันคลื่นกลับเข้าไปอยู่ในประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในรายการของโครงสร้างชายฝั่งทะเลที่จำเป็นต้องจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนพิจารณาใช้โครงสร้างนี้เพื่อป้องกันชายฝั่ง ตามข่าวได้จาก https://www.facebook.com/Beachforlife.BFL และ https://www.facebook.com/greensouthfoundation รวมถึงองค์กรและสื่อด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ Beach Lover ซึ่งเป็น Website ที่ให้องค์ความรู้และถ่ายทอดข้อมูลสถานการณ์ชายฝั่งทะเลมาตลอดกว่า 4 ปี ขอชวนผู้ติดตามอ่านบทความกึ่งวิชาการได้จาก https://beachlover.net/กำแพงกันคลื่น-ไปต่อหรื-2/ หรือเข้าไปในหมวด “วิชาการ” และค้นหาบทความชื่อ “กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้”

see more…

ข่าว

ราชกิจจานุเบกษา “กำแพงกันคลื่นต้องทำ EIA ” มีผลบังคับใช้ทันที

ที่มา: https://www.komchadluek.net/quality-life/environment/550610 เว็บไซต์ “ราชกิจจานุเบกษา” ประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2566  โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดประเภทโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 48  แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2536 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังนี้

สำรวจข้อมูลความลึกท้องน้ำ พื้นที่หาดบ้านด่านหยิด ถลาง จ.ภูเก็ต

ที่มาข่าว: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 25 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนธรณีวิทยาชายฝั่งลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความลึกท้องน้ำ โดยใช้เครื่องมือหยั่งความลึกท้องน้ำ (Echo Sounder) พื้นที่หาดบ้านด่านหยิด ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พื้นที่สำรวจนี้อยู่ในระบบหาดท่าฉัตรไชย ( T8B246 ) โดยมีเป้าหมายในการสำรวจรวมทั้งหมด 27 แนว โดยมีแนวสำรวจแบบขนานกับชายฝั่ง 6 แนว แนวตั้งฉากกับชายฝั่ง 20 แนว และแนวทแยง1 แนว มีระยะห่างระหว่างแนวสำรวจ 50 ม. คิดเป็นระยะทางในการสำรวจทั้งสิ้น 12.83 กม. ปัจจุบันสำรวจเรียบร้อยแล้วทั้ง 27 แนว ผลการสำรวจเบื้องต้นพบว่า พื้นที่สำรวจมีความลึกท้องน้ำประมาณ -0.03 ไปจนถึง -4.22 เมตร และมีความลาดชันประมาณ 0 – 17 องศา ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้จะนำไปเป็นฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และประเมินความเปราะบางของพื้นที่ชายฝั่งต่อการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดภูเก็ตฝั่งตะวันออกต่อไป

ติดตามการปักไม้ไผ่ แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ป่าชายเลนบ้านเกาะแมว จ.จันทบุรี

ที่มาข่าว: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 20 เมษายน 2566 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยวิธีการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น โดยมีนายปรานต์ ดิลกคุณากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง พร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) ตลอดจนผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรม ทช. ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ พื้นที่ป่าชายเลน บ้านเกาะแมว ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี สำหรับในพื้นที่บ้านเกาะแมวแห่งนี้ กรมทช. ดำเนินการในปี พ.ศ. 2556 ระยะทาง 1,000 เมตร และในปี พ.ศ. 2558 ระยะทาง 2,000 เมตร โดยทช. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำโครงการวิจัยการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศชายฝั่งทะเล (หาดโคลน) ภายหลังการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น ท้องที่จังหวัดจันทบุรี ในปี พ.ศ. 2563 โดยศึกษาในพื้นที่ป่าชายเลนบ้านเกาะแมว ซึ่งศึกษาโครงสร้างป่า องค์ประกอบของชนิดไม้ป่าชายเลน ความหลากหลายของชนิดพันธุ์ไม้ป่าชายเลน […]

ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทะเลชายฝั่ง ลงพื้นที่ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านปากดวด ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 5 มกราคม 2566 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนวิศวกรรมชายฝั่ง ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ลงพื้นที่ติดตามประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านปากดวด ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในระบบหาดหาดเสาเภา-ท่าศาลา (T6A149) โดยติดตั้งรั้วดักทรายขนานกับแนวชายฝั่งระยะทาง 600 เมตร จากการสำรวจพบว่าหลังแนวรั้วดักทรายมีตะกอนทรายสะสมตัวสูงขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ประมาณ 0.70 – 0.90 เมตร โดยรั้วดักทรายอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ได้รับความเสียหายจากคลื่นลมมรสุมที่มีความรุนแรงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และไม่พบการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติม เบื้องต้นสรุปได้ว่าการติดตั้งรั้วไม้ดักตะกอนทรายสามารถช่วยฟื้นฟูตะกอนทรายชายหาดและลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งใด้ ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งจะสำรวจข้อมูลและติดตามผลสัมฤทธิ์ของการติดตั้งรั้วดักทราย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังสิ้นสุดฤดูมรสุม ต่อไป

คนสมุยคัดค้านกำแพงกันคลื่น

ที่มา: https://www.thairath.co.th ชาวบ้านริมชายหาดและผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างหนัก กรณีกรมโยธาธิการและผังเมืองจะทำโครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่หาดแม่น้ำและหาดบางมะขาม ซึ่งน่าจะเป็นโครงการนำร่องก่อนขยายไปยังหาดอื่นๆ โดยได้เปิดรับฟังความเห็น ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียไปเมื่อวันที่ 27 ก.ย. และ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของกรมโยธาฯบ่งบอกชัดเจนว่าจะทำ กำแพงหรือเขื่อนคอนกรีต ซึ่งเป็นโครงสร้างแข็ง ถึงขนาดจ้างบริษัทเอกชนมาสำรวจออกแบบไว้แล้ว ชาวบ้านจึงส่งตัวแทนในนาม กลุ่มรักษ์หาดเกาะสมุยไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมโยธาฯเพื่อขอให้ยุติโครงการดังกล่าว สาเหตุที่ชาวบ้านคัดค้านการสร้างกำแพงกันคลื่นบนชายหาดเนื่องจากชายหาดเกาะสมุยมีลักษณะ เป็นอ่าวที่มีแหลมโอบล้อมอยู่ทั้ง 2 ด้าน และ มีคันแนวปะการังตลอดแนวชายฝั่ง ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ต่างกับ ชายหาดที่ทอดยาวบนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการกัดเซาะค่อนข้างมาก และการสร้างกำแพงกันคลื่นยังเป็นสาเหตุให้หาดทรายหาย เกิดการกัดเซาะพื้นที่ด้านข้างปลายเขื่อนไปเรื่อยๆ (ส่วนใหญ่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวจึงไม่มีใครออกมาเรียกร้องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม) ด้วยสภาพภูมิศาสตร์แตกต่างกัน ชาวบ้านบนเกาะสมุยจึงไม่ต้องการให้เอาฐานความคิดจากหาดทรายแผ่นดินใหญ่ไปใช้กับหาดทรายตามเกาะแก่ง และด้วยลักษณะทางภูมิอากาศของเกาะสมุย มีอิทธิพลของลมที่พัดเข้าหาเกาะตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 8 ทิศ ได้แก่ ลมตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้ (ลมตะเภา) ลมใต้ (ลมสลาตัน) ลมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมพัดยา) ลมตะวันตก ลมตะวันตกเฉียงเหนือ (ลมพัดหลวง) ลมเหนือ (ลมว่าว) และลมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมอุตรา) ลมทั้ง 8 […]

ทช. ลงสำรวจพื้นที่ชายฝั่ง เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ลงสำรวจพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ที่มีการนำเสนอโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ประจำปีงบประมาณ 2566 ของหน่วยงานราชการ โดยจังหวัดเพชรบุรี มีโครงการเสริมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะบริเวณชายหาดชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ระยะที่ 1 โดยกรมเจ้าท่า ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีโครงการที่เสนอในพื้นที่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง (2) โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ถนนปิ่นอนุสรณ์ต่อเนื่องบริเวณกองบังคับการกองบิน 5 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงบริเวณค่ายลูกเสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง (3) โครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นบริเวณร่องน้ำห้วยยาง ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมเจ้าท่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลภาพถ่ายในอดีต ภาพถ่ายปัจจุบัน ภาพบินโดรน […]

กรมทะเลฯ สำรวจความลึกท้องน้ำ ชายฝั่งภูเก็ต

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจความลึกท้องน้ำ พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต สู่การบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่ง และแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ วันที่ 29 ตุลาคม 2565 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดย ส่วนธรณีวิทยาชายฝั่ง ลงพื้นที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อหาความลึกท้องน้ำโดยใช้เรือสำรวจอัตโนมัติ CHC Apache 3 ด้วยระบบเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GNSS แบบ RTK ร่วมกับเครื่องหยั่งน้ำ Echo Sounder แบบความถี่เดียว โดยการสำรวจครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่สำรวจประมาณ 18,000 ตร.ม. แบ่งแนวสำรวจออกเป็น 20 แนว ผลการสำรวจพบว่า ความลึกเฉลี่ยของพื้นท้องทะเลใกล้ฝั่งหาดสุรินทร์ห่างจากแนวชายฝั่งออกไปประมาณ 200 เมตร มีความลึกระหว่าง -2.0 ถึง -7.8 เมตร ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งจะนำผลการสำรวจไปจัดทำแผนที่ความลึกท้องน้ำในพื้นที่หาดดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดการชายฝั่งต่อไป

กลุ่มรักหาดสมุยร้องกรมโยธาฯให้ยุติโครงการ

ที่มา: https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH วันนี้ เวลา 14.30 น. กรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงวัตถุประสงค์ “โครงการศึกษาแนวทางและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อำเภอเกาะสมุย บริเวณหาดแม่น้ำและหาดบ้านบางมะขาม จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ต่อกลุ่มรักหาดเกาะสมุย วันนี้ (25 ตุลาคม 2565) เวลา 14.30 น. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองมอบหมายให้ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการศึกษาแนวทางและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จำนวน 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดแม่น้ำ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่น้ำ และพื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดบ้านบางมะขาม หมู่ที่ 5 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกลุ่มรักหาดเกาะสมุย ซึ่งได้เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อจะไปดำเนินการพิจารณาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมยืนยันและให้ความมั่นใจกับกลุ่มรักหาดเกาะสมุย ว่ากรมฯ ยังไม่มีแผนที่จะก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อำเภอเกาะสมุย บริเวณหาดแม่น้ำและหาดบ้านบางมะขาม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายสมมิตร์ สมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกรม นายสุวพงษ์ […]

หาดพัทยาพัง! รอบที่เท่าไหร่แล้ว?

ที่มา: https://web.facebook.com/STVPattaya เรื่องมันจบยาก…ฝนตกทุกครั้ง ชายหาดพัทยาพังทุกเที่ยว ชาวบ้านถามหาแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ดีแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาน้ำท่วมขัง นอกจากจะเป็นปัญหาผูกขาดที่อยู่คู่กับเมืองพัทยามาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าแก้ไขไม่เด็ดขาด เบ็ดเสร็จเสียที ทั้งที่ผ่านมาแม้ว่าเมืองพัทยาจะมีการตั้งงบประมาณและโครงการต่างๆเพื่อรองรับแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง หลายรอบ หลายยุคสมัย หลายสมัยการปกครอง หมดงบประมาณไปหลายร้อยล้านบาท ทั้งโครงการแก้น้ำท่วมบนถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นสายหลัก ตลาดนาเกลือ หนองใหญ่ ถนนเลียบทางรถไฟ เขาตาโล เขาน้อย ซอยบัวขาว ถนนพัทยาสาย 3 หรือแม้แต่ถนนพัทยาสายเลียบชายหาด และที่เด่นชัดที่สร้างภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อการท่องเที่ยว คือการระบายน้ำฝนที่ปะปนกับน้ำเสียลงสู่ทะเล รวมและปริมาณน้ำที่หลาลงบนชายหาดพัทยา ที่กรมเจ้าท่าเป็นเจ้าภาพในการทุ่มงบประมาณ 400 กว่าล้านบาทในการเสริมทรายในระยะ 50 เมตรจากแนวฟุตบาทเพื่อเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ด้วยพบว่ามีนัยยะของการกัดเซาะอย่างรุนแรง แต่ทุกครั้งตามข้อตกลงก่อนดำเนินการที่เมืองพัทยาตบปากรับคำว่าจะจัดทำระบบดักน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำพัดทรายไหลลงสู่ทะเล แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีพายุฝนตกต่อเนื่องลงครั้งใด เมืองพัทยาก็ต้องประสบพบเจอกับปัญหาท่วมขังซ้ำซากแบบนี้ทุกครั้ง แม้จะตอบได้ว่าปัจจุบันมีการระบายน้ำที่รวดเร็วขึ้นก็ตาม โดทุกครั้งมัก จะมีเหตุผลที่วาเมืองพัทยาอยู่ในพื้นที่ต่ำที่ต้องรองรับมวลน้ำจากเทศบาลข้างเคียงที่มีพื้นที่สูงกว่าถึง 60 เมตร ในขณะที่ท่อระบายน้ำเดิมของเมืองพัทยาที่ใช้กันมาแต่อดีตรวมระยะทางนับพันกิโลเมตรนั้นมีขนาดความกว้างไม่เกิน 60-800 ม.ม.เท่านั้น ส่วนโครงการที่จัดทำไปก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นการจัดทำเพื่อให้มีการระบายน้ำที่รวดเร็วมากขึ้นและลดความเสียต่อทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้น้อยที่สุด โดยขณะที่กำลังรอแผนแม่บทของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่รัฐบาลมอบหมายจะให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมในงบประมาณนับหมื่นล้านบาท ซึ่งยังคงตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการเมื่อใด ปัจจุบันสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็การใช้งบประมาณในการนำกำลังคนและเครื่องจักรลงพื้นที่ชายหาดพัทยาเพื่อเกลี่ยทรายให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยเร็วที่สุด เพราะเมื่อเกิดปัญหาน้ำหลากครั้งใด ก็จะมีภาพความเสียหายต่อชายหาดเกิดขึ้นเมื่อนั้น กรณีนี้มีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตานักท่องเที่ยวออกไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ปัจจุบันเมืองพัทยาได้ถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของ […]

กรมโยธาธิการฯ จัดเวทีรับฟังชายฝั่งทะเลปะเสยะวอ

ที่มา: https://www.facebook.com/profile.php?id=100070314642518 วันนี้ (10 ตุลาคม 2565) กรมโยธาธิการฯ ดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภายใต้งานออกเเบบเเละศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ระยะที่ 4 ในเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน มีประชาชนในพื้นที่ เเละนักวิชาการ เข้าร่วมเวที เเละให้ข้อห่วงกังวลต่อโครงการดังกล่าวว่า หากดำเนินการเลือกมาตรการไม่ถูกต้อง เหมาะสมอาจกระทบต่อชายฝั่งทะเลได้ในระยะยาว ในเวทีดังกล่าวนั้น เป็นการรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 จะมีการจัดเวทีในครั้งต่อไป ในขณะที่พื้นที่เกาะสมุยก็มีการศึกษาในลักษณะเดียวกันเช่นกัน ต้องติดตามดูว่ากรมโยธาฯจะดำเนินการอย่างไรกับพื้นที่ชายหาดปะเสยะวอต่อไป

see more…