Home

ข่าว

พาเดินอยู่ในวังวน ที่จุดชมวิวชายฝั่ง

ที่มา: https://www.facebook.com/artofth De Panne เป็นเมืองหนึ่งในประเทศเบลเยี่ยม ที่มีธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะชายหาดยาวและทุ่งหญ้าที่มาบรรจบกัน บริเวณชายหาดนี้จึงเหมาะมากในการสร้างแลนด์มาร์คสำคัญ Westerpunt คือจุดชมวิวที่ออกแบบโดย Studio Moto ตั้งอยู่ในจุดที่เชื่อมกับเมือง Dunkirk ของฝรั่งเศส ด้วยคอนเซปต์ที่ว่า ‘การเดินทางคือจุดหมาย’ หรืออาจเรียกได้ว่า ‘ไม่ว่าจุดหมายจะเป็นอะไร อย่าลืมมองเห็นคุณค่าของเรื่องราวระหว่างการเดินทาง’ โดยปกติแล้ว การเดินชมวิวริมหาดจะเป็นเส้นตรงยาว แต่ในคราวนี้เส้นทางนั้นถูกม้วน โดยเอาเส้นบันไดตรงมาหักมุม 108 องศา บรรจบกันกลายเป็นลูป และมีชานพักอยู่ที่ทุกมุม เมื่อเดินวนขึ้นลงไปเรื่อยๆ มุมมองทิวทัศน์ก็จะต่างออกไป ด้วยรูปทรงนี้ ทำให้ถึงแม้น้ำทะเลจะระดับสูงขึ้น ก็ยังสามารถเดินขึ้นไปได้อยู่เสมอ ผลงานนี้สร้างจากคอนกรีตที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องการการดูแลยุ่งยาก และสามารถตั้งอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง ตัวบันไดยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเสารับแรงอีกด้วย เรียกว่าทั้งหมด ทั้งรูปทรง โครงสร้าง และการใช้งาน กลายเป็นเรื่องเดียวกัน สีของคอนกรีตกลืนไปกับหาดทราย และด้วยลวดลายของแผ่นไม้แม่แบบคอนกรีต ก็ยังช่วยทำให้ผลงานดูมีรายละเอียดเป้นธรรมชาติ กลืนไปริ้วทราย ต้นหญ้าและเส้นขอบฟ้าอีกด้วย ราวกับสิ่งนี้ผุดขึ้นมาเองเลยทีเดียว

ลงมือแล้ว!! กำแพงกันคลื่นหาด Katoku

ที่มา: https://www.facebook.com/katokuhama Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของหาด Kotoku บนเกาะ Amami เกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นไปแล้วตอนหนึ่ง ติดตามได้จาก https://beachlover.net/katoku-sw/ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการกลับมาดำเนินการก่อสร้างที่ Katoku โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่จังหวัดและพนักงานจากบริษัท Marufuku ได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่และประกาศว่าจะวางแท่งคอนกรีตบนชายหาดและดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการเพิ่งย้ายมาประจำการในเดือนเมษายน ชาวบ้านในพื้นที่จึงจำเป็นต้องเริ่มอธิบายเหตุการณ์และข้อกังวลที่เกิดขึ้นทั้งหมดใหม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จังหวัดยังข่มขู่ชาวบ้านที่ยื่นคำร้องขอตรวจสอบโครงการ โดยอ้างว่าจะดำเนินคดีหากเข้ามาขัดขวางการก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นการกระทำตามคำสั่งของผู้ว่า Shiota และถือเป็นการเลือกปฏิบัติและการคุกคามทางกฎหมายที่ไม่สนใจความคิดเห็นของชาวบ้านที่เพิ่งยื่นคำร้อง ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านยังคงพยายามสื่อสารกับเจ้าหน้าที่จังหวัด ถึงแม้ว่าภารกิจของเจ้าหน้าที่คือการดำเนินโครงการที่เป็นปัญหาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านเชื่อว่าการสื่อสารและแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมพวกเขาถึงรัก Katoku  ทำไมพวกเขาจึงอยากจะรักษาไว้ให้เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมเพื่อลูกหลาน WWF ได้กล่าวในการประชุมที่ Amami Oshima ว่า “ระบบที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้นั้นขึ้นอยู่กับความหลากหลายทางชีวภาพ” ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาสิ่งที่เหลืออยู่ Katoku เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่หายาก เนื่องจากแทบไม่เหลือพื้นที่แบบนี้ในหมู่เกาะ Ryukyu แล้ว ส่วนที่หลงเหลืออยู่ก็กำลังจะถูกทำลาย ตามข่าวนี้ ชาวบ้านได้ขอตั้งคำถามถึงแนวทางของเจ้าหน้าที่จังหวัด Kagoshima ที่เพิกเฉยและข่มขู่ผู้ที่พยายามปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งไม่ใช่วิธีการจัดการแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของ UNESCO ที่ถูกต้อง […]

น้ำทะเลเป็นสีดำหาดหอยขาว แหลมงอบ จังหวัดตราด

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทะเล ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังได้รับแจ้งพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณหาดหอยขาว ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) โดยได้รับการร้องเรียนจากคุณณัชมน เตชอำพร ผ่านทางเว็บไซต์กรมฯ พบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณหาดหอยขาว ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ทำการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการในพื้นที่ ทราบว่าพบตะกอนสีดำในช่วงนี้ทุกปี และทำการสำรวจเบื้องต้น 2 สถานี (HK1-2) พบว่าสภาพน้ำทะเลมีตะกอนสีดำ ไม่มีกลิ่น และพบเศษวัสดุสีดำเกยตลอดแนวหาด มีลักษณะคล้ายตะกอนของเศษอินทรีย์สารจากกิ่งไม้ใบไม้ที่เน่าและย่อยสลาย เมื่อมีคลื่นลมแรงจะกวนตะกอนด้านล่างขึ้นมาทำให้น้ำทะเลบริเวณชายฝั่งและชายหาดมีตะกอนสีดำ ทั้งนี้ไม่ใช่คราบน้ำมัน จากนั้นทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำทะเล โดยมีค่าความเป็นกรดและด่าง 8.08-8.15 อุณหภูมิ 29.0-31.1 องศาเซลเซียส ความเค็ม 21.2-21.3 ส่วนในพันส่วน และปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 5.15-6.12 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 1 […]

ฝนถล่มเกาะภูเก็ต ส่งผลต่อชายหาดอย่างไร

ฺBeach Lover ชวนมองสถานการณ์ฝนถล่มเกาะภูเก็ตในช่วงวันที่ 29-30 มิถุนายน 2567 ตามข่าวบางส่วนดังนี้ น้ำท่วมภูเก็ตเสียหายหนักทั้ง 3 อำเภอ: น้ำท่วมขังถนนหลายสาย รถเล็กสัญจรลำบาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มีการอพยพประชาชนในบางพื้นที่ (มติชนออนไลน์, https://www.matichon.co.th/region/news_4656712) น้ำท่วมภูเก็ตอ่วม ทำเครื่องบินลงจอดไม่ได้ รวม 14 เที่ยวบิน จนท.เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือ: น้ำท่วมขังบริเวณทางวิ่งของสนามบินนานาชาติภูเก็ต ทำให้ต้องยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบินหลายเที่ยว (มติชนออนไลน์,https://www.matichon.co.th/region/news_4655815) “น้ำท่วม” ภูเก็ตทำเครื่องบินลงจอดไม่ได้ 14 เที่ยวบิน: สนามบินภูเก็ตต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก (ฐานเศรษฐกิจ, https://www.thansettakij.com/business/tourism/600512) Beach Lover ขอชวนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันของฝนตกหนักและน้ำท่วมบนแผ่นดิน กับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ชายฝั่งบรเวณท้ายน้ำดังนี้ ฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ (Upstream) เช่น บนภูเขา ในแผ่นดิน สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงชายหาดในพื้นที่ท้ายน้ำ(Downstream) เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันดังนี้ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นทันทีที่น้ำจำนวนนี้ไหลบ่าล้นพื้นที่ชายฝั่ง นั่นคือทรายบนชายหาดอาจถูกน้ำฝนเซาะเป็นร่องตามทางน้ำและไหลออกไปนอกจากฝั่งอย่างรวดเร็วความความแรงของน้ำและแรงโน้มถ่วงของโลก ดังที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งที่ชายหาดพัทยาตามโพส https://beachlover.net/อีกแล้ว-ฝนถล่มหาดพัทยา/ และ https://beachlover.net/ฝนตกหนักที่พัทยาทำหาดพ/ และ https://beachlover.net/หาดพังรับฝนหนัก-อีกแล้ว/ และโพสเก่าๆในเวบนี้ ค้นหาได้จาก search icon มุมขวาบนของเวบ เมื่อผ่านช่วงเวลาฝนตกหนักและตะกอนบนแผ่นดินไหลลงทะเลเป็นจำนวนมากไประยะหนึ่ง ในบางพื้นที่อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องดังต่อไปนี้ […]

พบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังได้รับแจ้งเหตุพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี วันที่ 16 มิถุนายน 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการประสานงานสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) กรณีแจ้งเหตุพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 จาการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศบาลพัทยาเพิ่มเติม ทราบว่าท่อส่งน้ำเสียด้วยแรงดันสถานีสูบน้ำเสียพัทยารั่ว และได้ดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้สำรวจเบื้องต้น 3 สถานี ได้แก่ ประภาคาร ท่าเรือแหลมบาลีฮาย และหาดพัทยา โดยสถานีประภาคารสภาพน้ำทะเลกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่พบสัตว์น้ำตาย ส่วนแหลมบาลีฮาย และหาดพัทยา สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น จากนั้นทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำทะเล โดยมีค่าความเป็นกรดและด่าง 7.86-8.00 อุณหภูมิ 31.7-32.7 องศาเซลเซียส ความเค็ม 30.8-31.2 ส่วนในพันส่วน และปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 5.20-5.80 […]

สำรวจการเปลี่ยนแปลงชายหาด อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล

ที่มา: https://www.facebook.com/mnpoc.trang3 วันที่ 24 – 31 พฤษภาคม 2567 ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สำรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาด บริเวณอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล จำนวน 2 สถานี ได้แก่ หาดแหลมสน เกาะอาดัง จำนวน 17 แนวสำรวจ และหาดทรายขาว เกาะราวี จำนวน 6 แนวสำรวจ เบื้องต้นพบว่า บริเวณหาดแหลมสน เกาะอาดัง สภาพชายฝั่งส่วนใหญ่มีลักษณะคงสภาพ พบชายฝั่งถูกกัดเซาะบริเวณฝั่งทิศตะวันตกของแหลมสน เนื่องจากเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากคลื่นลมมากกว่าบริเวณอื่น ๆ บริเวณหาดทรายขาว เกาะราวี สภาพชายฝั่งส่วนใหญ่มีลักษณะถูกกัดเซาะ โดยเฉพาะบริเวณด้านทิศตะวันออกของหาด พบชายฝั่งคงสภาพบางส่วน บริเวณทิศใต้ของหาดทรายขาว โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์เชิงลึกต่อไป

สำรวจการเปลี่ยนแปลงเส้นแนวชายฝั่งหลังการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ห้วงน้ำขาว จังหวัดตราด

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 27 เมษายน 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่ง ลงพื้นที่ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งอยู่ในระบบหาดบ้านแหลมศอก (T1D009) เพื่อสำรวจการเปลี่ยนแปลงเส้นแนวชายฝั่งหลังการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น โดยสำรวจพื้นที่ดังกล่าว ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ครอบคลุมระยะทางไม้ไผ่ประมาณ 3,200 เมตร พื้นที่ประมาณ 180 ไร่ ผลจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า บริเวณหลังแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่น มีพรรณไม้ป่าชายเลน ได้แก่ ต้นโกงกาง และแสมทะเล ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จะนำข้อมูลดังกล่าว มาวิเคราะห์ผลการเปลี่ยนแปลงหลังดำเนินโครงการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ต่อไป

ศาลปกครองยกฟ้อง คดีคัดค้านการสร้างกำแพงชายหาด Katoku เกาะ Amami จ.Kagoshima ประเทศญี่ปุ่น

อ่านข่าวฉบับภาษาญี่ปุ่นได้จาก: https://www3.nhk.or.jp/lnews/kagoshima/20240424/5050026677.html ภาพประกอบโดย: Beach Lover เมื่อ พ.ย.2566 วันที่ 24 เมษายน 2567 ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องกรณีที่ชาวบ้าน 10 คน ยื่นเรื่องฟ้องหน่วยงานของรัฐให้ยุติการก่อสร้างโครงสร้างกำแพงกันคลื่น ป้องกันชายหาด Katoku ที่ใช้งบประมาณกว่า 340 ล้านเยน โดยระบุว่าจะเป็นการทำลายทรัพยากรชายหาดที่มีคุณค่า เนื่องจากหาดนี้อยู่ติดกับเขตที่ถูก Unesco ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ในอดีต ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องกรณีนี้ไปแล้ว 1 รอบ แต่ชาวบ้านได้รวมตัวกันยื่นอุทธรณ์พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องชายหาดแห่งนี้หลายครั้ง รวมถึงสำรวจข้อมูล beach profile นำส่งต่อศาลเพื่อแสดงให้เห็นว่าชายหาดแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างกำแพงกันคลื่น เนื่องจากไม่มีการกัดเซาะอย่างรุนแรง การกัดเซาะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากพายุรุนแรงเมื่อ 10 ปีก่อน และไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีกเลย จากเสียงคัดค้านจากผู้คนที่ต้องการปกป้องธรรมชาติ ทางจังหวัดจึงลดขนาดของเขื่อนลงจาก 530 เมตร เหลือเพียง 180 เมตร เมื่อ 6 ปีก่อน และเมื่อสองปีก่อน มีการนำรถขุด เครื่องจักรหนัก และวัสดุก่อสร้างมาวางไว้ที่ชายฝั่ง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากชาวบ้านต่อต้านจนถึงปัจจุบัน ในคำตัดสินของศาลชั้นสองเมื่อวันที่ 24 […]

สำรวจหาค่าระดับความลึกท้องน้ำบริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล เกาะลิบง จังหวัดตรัง

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 12 มีนาคม 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนธรณีวิทยาชายฝั่ง ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่สำรวจหาค่าระดับความลึกท้องน้ำบริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล เกาะลิบง จังหวัดตรัง โดยเรือสำรวจหยั่งน้ำอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายในการสำรวจ 12 แนว จากทั้งหมด 28 แนว มีระยะห่างระหว่างแนวประมาณ 300 เมตร ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จะส่งมอบข้อมูลที่ได้จากการสำรวจในครั้งนี้ให้คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเลในบริเวณจังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ เพื่อไปใช้ในการวิเคราะห์หาสาเหตุการเสื่อมโทรมของแนวหญ้าทะเลในพื้นที่ต่อไป

สำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย ชายหาดตำบลกลาย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านบางสาร ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 12 มีนาคม 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนวิศวกรรมชายฝั่ง ลงพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านบางสาร ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย (Sand fence) ด้วยเครื่องมือหาพิกัดดาวเทียมRTK GNSS Network โดยรั้วดักทรายมีความยาว 570 เมตร ปักรูปแบบซิกแซก ใช้ไม้ความยาว 3 เมตร ปักลึกลงดิน 2 เมตร (ดำเนินการติดตั้งในปี พ.ศ. 2565) มีแนวสำรวจทั้งหมด 21 แนว ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งประมาณ 1,000 เมตร เป็นการสำรวจในช่วงหลังฤดูมรสุม ผลสำรวจพบว่าด้านทิศใต้ใกล้เขื่อนป้องกันคลื่นนอกชายฝั่ง รั้วดักทรายหลุดพังเสียหายจากคลื่นในช่วงฤดูมรสุมเป็นระยะทาง 180 เมตร และช่วงถัดมา แนวไม้อยู่ในสภาพล้มเอียงเข้าหาฝั่ง ระยะทาง 50 เมตร […]

see more…

สถานการณ์ชายฝั่งทะเล

พาชมความคืบหน้างานก่อสร้างหาดสนกระซิบ กันอีกรอบ

Beach Lover ได้เคยพาชมสภาพของชายหาดลับใกล้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง หรือหาด สนกระซิบ ไปแล้วหลายครั้ง ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยใช้ไอคอน Search ด้านบนขวา ครั้งนี้ Beach Lover เดินเท้าสำรวจหาดสนกระซิบกันอีกรอบในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่ามีบางส่วนของโครงสร้างที่เสร็จเกือบสมบูรณ์แล้วคือโครงสร้างช่วงปากคลองทางทิศตะวันตกของหาด โดยพบว่าเป็นโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบลาดเอียง เกือบทั้งหมดของโครงสร้างวางตัวลงบนชายหาด ในส่วนของโครงสร้างทางทิศตะวันออก หรือตัวโครงสร้างหลักป้องกันชายหาดนั้น พบว่ามีการตอกเสาเข็มลงไปบนชายหาดตลอดทั้งแนวแต่ยังไม่มีการขึ้นโครงสร้างกำแพงแต่อย่างใด แม้จะหมดสัญญาจ้างงานไปแล้วก็ตาม Beach Lover จะนำเสนอความคืบหน้าต่อในโอกาสถัดไป

แหลมกุ่ม หาดเงียบไร้ผู้คน

หาดแหลมกุ่ม สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปคงไม่คุ้นหูนัก ด้วยเหตุที่ว่า จ.ประจวบฯนั้นมีหาดท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อมากมาย แหลมกุ่มจึงเป็นชายหาดที่ผู้คนท้องถิ่น ใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชาวประมงใช้เพื่อการจอดเรือ หาดแหลมกุ่มตั้งอยู่ใน ตำบลนาหูกวาง อ.ทับสะแก ห่างจากถนนใหญ่ 4 กิโลเมตร ทิศเหนือติดกับหาดทับสะแกโดยมีหัวแหลมกั้น ส่วนทิศใต้เชื่อมต่อกับหาดโคกตาหอม ชายหาดมีความลาดชันต่ำ น้ำไม่ลึกมาก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ Beach Lover  เดินเท้าสำรวจตลอดแนวหาดไร้ผู้คน สันทรายชายหาดยังสมบูรณ์ มีต้นสนและพืชปกคลุม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มีซุ้มศาลาสำหรับชมทิวทัศน์ หรือนั่งรับประทานอาหาร โดยมีร้านอาหารและที่พักอย่างจำกัดมากๆ บรรยากาศแม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เงียบสงบมาก หากใครต้องการหาดประจวบฯ ในบรรยากาศที่ค่อนข้างสันโดษ หาดนี้ถือว่าไม่ควรพลาด

หาดทรายน้อย หาดลับ…แห่งหัวหิน

หัวหิน เป็นเทศบาลเมืองแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ตั้งของพระราชวังไกลกังวล ศูนย์ราชการอำเภอหรือที่ว่าการอำเภอ ย่านธุรกิจประจำอำเภอหัวหิน และเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยและระดับโลก นอกจากนี้ เทศบาลเมืองหัวหินยังเป็นเทศบาลที่มีประชากรมากที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และในภาคตะวันตกของประเทศไทย (https://th.wikipedia.org/wiki/เทศบาลเมืองหัวหิน) หากกล่าวถึงหาดหัวหิน ทุกคนน่าจะนึกถึงชายหาดขาวยาวต่อเนื่องมากกว่าสิบกิโลเมตร มีโรงแรมร้านอาหารประชิดชายหาดมากมาย กำแพงกันเขตที่ดินเอกชนกับชายหาดตลอดทั้งแนว น้อยคนที่จะกล่าวถึงหาดกระเปาะเล็กๆ ถัดจากวัดเขาเต่าลงมาทางทิศใต้ของชายหาด ที่นี่มีชื่อเรียกขานกันว่า หาดทรายน้อย เป็นชายหาดกระเปาะที่อยู่ระหว่างหัวหาดที่เป็นโขดหิน ความยาวชายหาดประมาณ 360 เมตร มีที่พัก ร้านอาหารแบบแผงลอย และร่มเตียงบริการอย่างจำกัด ชายหาดนี้นอกจากจะเล่นน้ำได้อย่างสบายแล้ว พื้นที่ชายหาดค่อนข้างกว้าง สามารถมานอนอาบแดด เล่นกีฬาชายหาด ได้อย่างสบาย หัวหาดฝั่งทิศเหนือ สามารถปีนขึ้นไปชมมุมสูงของหาดทรายน้อยได้ รวมถึงมองเห็นทิวทัศน์ไปทางหาดหัวหินได้สุดลูกหูลูกตา บนจุดชมวิว ยังมีภูมิทัศน์ของโขดหินที่สวยงามแปลกตาไปจากที่พบเห็นบริเวณหาดหัวหินและบริเวณใกล้เคียงเรียกว่าหากมาที่นี่จะได้ครบทั้งบรรยากาศ ทะเล ภูเขา และหาดทราย ในคราวเดียว

ติดตามงานป้องกันชายฝั่ง หาดแม่รำพึง

หาดแม่รำพึง ตั้งอยู่ ณ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ เป็นหาดทรายยาวต่อเนื่อง 4.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากคลองแม่รำพึงทางทิศตะวันออกจนถึงคลองบางสะพานทางทิศตะวันตก Beach Lover เคยนำเสนอเรื่องราวของหาดแม่รำพึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการคัดค้านโครงการป้องกันชายฝั่งของกรมโยธาธิการและผังเมืองเมื่อต้นปี 2565 ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยการค้นหาคำว่า “หาดแม่รำพึง” จากช่อง search ด้านขวาบน ช่วงต้นเดือนมิถุนายน Beach Lover ได้มีโอกาสเดินเท้าสำรวจชายหาดแห่งนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง พบว่ามีการเปิดพื้นที่หน้าชายหาดขนาดใหญ่เพื่องานฐานรากของกำแพง โดยโครงสร้างที่กำลังก่อสร้างนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ตำแหน่ง และระยะงานก่อสร้าง (ความยาวโครงสร้าง) ไปตามมติของคณะทำงานที่ทาง จ.ประจวบฯ ได้ตั้งขึ้นโดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กล่าวโดยสรุปคือมีการปรับขนาดให้เล็กลงและขยับแนวโครงสร้างให้ประชิดฝั่งเพิ่มมากขึ้น เท่าที่เดินเท้าสำรวจพบว่ามีการเปิดพื้นที่ก่อสร้างในระยะแรกประมาณ 300 เมตร ตั้งแต่หน้าบางสะพานรีสอร์ทลงมาทางทิศใต้ของหาดถึงหน้าลานปูนสาธารณะของท้องถิ่น โดยมีการขุดทรายหน้าหาดออกเป็นระยะกว้างประมาณ 20 เมตร (แตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ) บางตำแหน่งมีการลงโครงสร้างไปบ้างแล้ว บางตำแหน่งลงเข็มพืด ในขณะอีกพื้นที่กำลังขุดหน้าหาดเพื่อทำการเปิดพื้นที่ทำงาน บางพื้นที่นำเสาเข็มมาวางรอไว้ น่าติดตามต่อไปว่า โครงการที่เคยเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนอย่างรุนแรง และคลี่คลายลงได้แล้วนั้น จะดำเนินงานต่อไปตามฉันทามติที่ได้ตกลงไว้ร่วมกันหรือไม่

หาดขั้นบันได ณ อ่าวน้อย

อ่าวน้อย เป็นหนึ่งในสามอ่าวของ จ.ประจวบฯ นับว่าเป็นอ่าวที่เล็กที่สุดในบรรดาสามอ่าวรองจาก อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว กล่าวคือมีความยาวชายหาดประมาณ 1.2 กิโลเมตร Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของอ่าวน้อยไปหลายครั้งแล้ว โดยพื้นที่อ่าวน้อยนั้นเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องคดีชายหาด โดยประชาชนฟ้องรัฐในคดีปกครอง ติดตามได้จากหมวดคดีชายหาด ต้นเดือน มิ.ย.2567 Beach Lover ได้กลับมาอ่าวน้อยอีกรอบในช่วงเวลาน้ำลงต่ำ พบว่า กำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดยังอยู่ในสภาพไม่แตกต่างจากเดิมตอนที่เสร็จใหม่ๆมากนัก เพียงแต่พบสนิมเหล็กบนราวรั้วกันตก บริเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างเฟสที่หนึ่ง  พบร่องรอยน้ำกระเซ็นข้ามโครงสร้างบนิเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างทางทิศเหนือจนเกิดเป็นหลุดบ่อด้านหลังสันกำแพงกันคลื่นบางส่วน

สวยสมบูรณ์ตลอดปี…ที่นี่อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาว เป็นหนึ่งในสามอ่าวของ จ.ประจวบฯ ตั้งอยู่ในเขตทหารที่เรียกว่า กองบิน 5 ทางทิศใต้ของอ่าวประจวบฯ โดยมีเขาล้อมหมวกคั่นระหว่างอ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว อ่าวมะนาวมีความยาวชายหาดประมาณ 3.5 กิโลเมตร บางส่วนของชายหาดเป็นที่พักสวัสดิการของกองบิน บางส่วนให้เช่าเป็นร้านอาหารริมทะเล มีร่มเตียงให้บริการ และบางส่วนเป็นหาดธรรมชาติที่ไม่มีร่มเตียง โรงแรม ร้านอาหาร กีดขวางสายตา Beach Lover ขอพาชมบางส่วนของชายหาดทางทิศใต้ติดกับเขาคลองวาฬที่ยังคงเป็นชายหาดธรรมชาติ สมบูรณ์ไปด้วยทิวสน และต้นไม้ชายหาด ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 ผู้ประกอบการร่มเตียงผ้าใบให้ข้อมูลกับเราว่า บางปีที่ทรายหน้าหาดหดหายไปมากๆ ทหารจะเอาทรายที่อยู่นอกอ่าวมาถมพื้นที่หาดให้มีความกว้างเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ อ่าวมะนาวที่อยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศนี้มีสภาพสวย สมบูรณ์ตลอดทั้งปี เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะกองทัพอากาศสามารถจัดสรรงบประมาณมาดูแลและบริหารจัดการได้โดยไม่ติดขัด  เอาเข้าจริงๆแล้วหาดที่อื่นๆก็ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแบบนี้เช่นกัน เพราะการมีชายหาดที่สมบูรณ์สวยงาม จะยกระดับคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้สูงมากขึ้น และนั่นอาจหมายถึงเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นด้วย

กำแพงกันคลื่นหลากหลายแบบ ณ อ่าวประจวบ ช่วง ถ.ปิ่นอนุสรณ์

กำแพงกันคลื่น อ่าวประจวบบริเวณนีั (ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย) มีการดำเนินการสร้างและซ่อมแซมมาในหลายวาระโอกาส ด้วยโครงสร้างที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่ปี ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร บางส่วนของสันด้านบนกำแพง ถูกออกแบบให้กว้างและพัฒนาเป็นลานกิจกรรม ทางเดินออกกำลังกาย และทางจักรยาน จากการเดินเท้าสำรวจพบว่า มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นกำแพงแบบขั้นบันไดเหมือนกัน ก็มีลักษณะของขั้นบันไดที่แตกต่างกัน คาดว่าถูกสร้างในช่วงเวลาที่ต่างกัน และพบบางส่วนของโครงสร้างที่ชำรุดเสียหายบริเวณใกล้กับเขาตาม่องล่าย ซึ่งชาวบ้านมักใช้เป็นที่จอดเรือประมงขนาดเล็ก กำแพงกันคลื่นตลอดแนวตั้งแต่ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย ที่เห็นอย่างหลากหลายรูปแบบนี้ ยามน้ำลงจะพบชายหาดด้านหน้ากำแพงอยู่บ้าง มากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละโซนพื้นที่

ไม่หลงเหลือความเป็นชายหาดแล้วที่คลองวาฬ

หาดคลองวาฬ เป็นชายหาดที่ติดกับอ่าวมะนาวมีคลองวาฬเชื่อมต่อกับทะเลสองฝั่งคลองเป็นป่าชายเลน  บริเวณหาดคลองวาฬเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีความเงียบสงบ ความยาวของหาดประมาณ 4 กม. เป็นชายหาดทรายผสมเลน มีร้านอาหาร ที่พัก   ชุมชนชายฝั่ง  โครงการป้องกันชายฝั่งบริเเวณนี้ในอดีตมีองค์ประกอบคือ (1)  เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่งยาว 300  ม. บนชายหาด สร้างเมื่อ ก.ย.2547 (2)  สวนสาธารณะบนชายหาดคลองวาฬ ซึ่งประกอบด้วยลานเอนกประสงค์   ถนนคอนกรีตเสริม  เหล็ก ลานจอดรถ รางระบายน้ำ    ทางดินถมพร้อมเกรดปรับแต่ง   พร้อมปรับภูมิทัศน์ ดำเนินการพร้อมเขื่อนป้องกันตลิ่งเมื่อปี  2547 (3)  เขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งแบบหินทิ้งจำนวน 11 ตัว ความยาวตัวละ 50 ม. จำนวน 5 ตัว และยาวตัวละ 100 ม. จำนวน 6 ตัว ตลอดแนวชายฝั่งยาวประมาณ 1.3 ก.ม. สร้างเมื่อปี 2548 แสดงดังรูปที่ 1 เมื่อมีการสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งชายหาดด้านหน้ากำแพงจะค่อยๆหดหายได้ เนื่องมาจากแรงปะทะของคลื่นที่วิ่งเข้ากระทบกำแพงแล้วสะท้อนออก ส่งผลให้ทรายด้านหน้ากำแพงถูกดึงหายออกไปด้านนอกฝั่ง ยังคงเห็นชายหาดโผล่พ้นน้ำบ้างยามน้ำลงบางครั้งเท่านั้น เรือประมงชาวบ้านที่เคยใช้พื้นที่ชายหาดเป็นที่จอดเรือจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แบบเดิม ในส่วนของเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งนั้น ได้ส่งผลให้คลื่นที่เข้ามาปะทะอ่อนกำลังลงด้านหลังเขื่อนกันคลื่นและเกิดการทับถมของตะกอนทรายด้านหลัง  ซึ่งทำให้ชายหาดระหว่างช่องเปิดของเขื่อนแต่ละตัวนั้นเกิดการกัดเซาะเว้าโค้งเป็นวงเสี้ยวพระจันทร์  พื้นที่ชายหาดด้านหน้าบริเวณที่มีการปรับภูมิทัศน์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันคลื่นนั้น สามารถมองเห็นหาดได้ยามน้ำลงบางครั้ง การขึ้นลงชายหาดเป็นไปได้ยากยิ่งเพราะต้องปีนข้ามสันและแนวลาดของกำแพงซึ่งอยู่สูงกว่าชายหาดมาก ส่วนในฤดูมรสุมคลื่นที่วิ่งเข้ามาปะทะกำแพงแนวดิ่งส่งผลให้มีน้ำทะเลกระเซ็นข้ามสันกำแพงขึ้นมาบนทางเดินริมกำแพงบ้าง แสดงดังรูปที่ […]

สำรวจงานเติมทรายหาดจอมเทียน มิ.ย.2567

ที่ผ่านมา Beach Lover ได้พาสำรวจชายหาดจอมเทียนทั้งก่อนและหลังการเติมทรายมาแล้วหลายรอบ เช่น https://beachlover.net/พาชม-เติมทรายชายหาดจอมเทียน-อีกครั้ง/ , https://beachlover.net/พาชม-เติมทรายชายหาดจอมเ/, https://beachlover.net/ส่องงานเติมทรายชายหาดจ/ รวมถึงสืบค้นได้จาก Icon search คำว่า “จอมเทียน” Beach Lover ได้มีโอกาสสำรวจหาดจอมเทียนอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 ตลอดทั้งแนว ทั้งนี้ไม่แน่ใจเลยว่า งานเติมทรายของชายหาดนี้ที่ดำเนินการโดยกรมเจ้าท่านั้นเสร็จสิ้นตลอดทุกเฟสทั้งแนวชายฝั่งหรือยัง เนื่องจากไม่เห็นรั้วเพื่อปิดพื้นที่ก่อสร้างอีกแล้ว แต่ยังพบเรือขุดและพ่นทรายจอดอยู่นอกชายฝั่ง เมื่อเดินเท้าสำรวจชายหาดตั้งแต่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่หาดยินยอม หาดดงตาล เรื่องลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหาดจอมเทียนจนเข้าเขตพื้นที่นาจอมเทียนถึงร้านอาหารลุงไสว ที่เป็นเขตสิ้นสุดงานก่อสร้าง มีสภาพชายหาดดังรูป พบว่า มีการทำทางขึ้นลงบันได และป้ายชื่อหาด เพิ่มเติมจากครั้งก่อนที่ Beach Lover ได้ลงมาสำรวจ พบว่าชายหาดจอมเทียนที่ถูกเติมทรายในระยะแรกๆยังมีสภาพไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก ชายหาดยังคงกว้างประมาณ 40-50 เมตร โดยพบว่าการตัด Slope ชายหาดเป็นสองระดับตามที่ได้ก่อสร้างไว้นั้นหายไปจนหมด หาดทรายกลืนกันเป็น Slope เดียวไม่ต่างจากหาดพัทยา ที่ Beach Lover พาสำรวจในช่วงเวลาใกล้ๆกัน (https://beachlover.net/pataya-after-sunset/)

พาสำรวจกำแพงแนวดิ่ง อ่าวประจวบ ยามน้ำลงต่ำ

ประจวบฯเมืองสามอ่าว ได้แก่ อ่าวน้อย อ่าวมะนาว และอ่าวประจวบฯ ในสามอ่าวนี้มีเพียงอ่าวเดียวที่มีกำแพงกันคลื่นเกือบตลอดทั้งแนว (เว้นปากคลองบางนางรม) คือ อ่าวประจวบฯ Beach Lover ของพาสำรวจกำแพงกันคลื่นในโซนปากคลองบางนางรมถึงกองบินที่ 5 อ่าวมะนาว ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบแนวดิ่งเหมือนกันตลอดทั้งแนว ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ยามน้ำลงต่ำ จะเผยให้เห็นชายหาดด้านหน้ากำแพงอยู่บ้าง โดยมีระดับต่ำกว่าสันกำแพงแตกต่างกันในแต่ละตำแหน่ง โดยเฉลี่ยแล้วชายหาดมีระดับต่ำกว่าสันกำแพงประมาณ 1.8 เมตร และเมื่อสังเกตจากคราบน้ำบนชายหาดแล้วพบว่า ยามน้ำขึ้นสูงสุด ระดับน้ำจะขึ้นไปจนแตะตีนกำแพงเลย กำแพงกันคลื่นอ่าวประจวบนี้ สร้างแบบตั้งตรง (แนวดิ่ง) เมื่อ 2545 โดยสำนักโยธาธิการและผังเมือง จ.ประจวบฯ รวมระยะทางของโครงสร้าง 2,429 เมตร ตั้งแต่ปากคลองบางนางรม จนถึงขอบเขตรั้วทางทิศเหนือของกองบินที่ 5 อ่าวมะนาว พื้นที่ด้านบนของกำแพงแนวดิ่งนี้ ทำเป็นทางเดินเท้าขนาดใหญ่ ถัดไปเป็นถนนที่สามารถจอดรถริมทะเลได้เลย โดยในช่วงฤดูมรสุมของทุกปี น้ำทะเลจะยกระดับสูงขึ้นมาก รวมถึงคลื่นก็มักจะทวีความรุนแรงมากกว่าช่วงเวลาปกติ สภาพของกำแพงและถนนเลียบหาดแห่งนี้ จะถูกคลื่นที่วิ่งเข้าปะทะกำแพงกันคลื่นกระโจนข้ามมายังถนน จนน้ำระบายไม่ทันตามภาพด้านล่าง และก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบระบายน้ำเนื่องจากทรายที่มากับคลื่นบางส่วนได้เข้าไปอุดตันในระบบ รวมถึงทางเดินเท้าเลียบทะเลก็เกิดความเสียหายตามภาพด้านล่าง เนื่องจากแรงของคลื่นที่เข้ากระแทก เมื่อเดินเท้าสำรวจตลอดทั้งแนว พบท่อระบบน้ำออกสู่ทะเลหลายตำแหน่ง โดยพบว่า เกิดการเป็นร่อง […]

see more…

สถานการณ์ชายฝั่งทะเล

พาชมความคืบหน้างานก่อสร้างหาดสนกระซิบ กันอีกรอบ

Beach Lover ได้เคยพาชมสภาพของชายหาดลับใกล้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง หรือหาด สนกระซิบ ไปแล้วหลายครั้ง ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยใช้ไอคอน Search ด้านบนขวา ครั้งนี้ Beach Lover เดินเท้าสำรวจหาดสนกระซิบกันอีกรอบในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่ามีบางส่วนของโครงสร้างที่เสร็จเกือบสมบูรณ์แล้วคือโครงสร้างช่วงปากคลองทางทิศตะวันตกของหาด โดยพบว่าเป็นโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบลาดเอียง เกือบทั้งหมดของโครงสร้างวางตัวลงบนชายหาด ในส่วนของโครงสร้างทางทิศตะวันออก หรือตัวโครงสร้างหลักป้องกันชายหาดนั้น พบว่ามีการตอกเสาเข็มลงไปบนชายหาดตลอดทั้งแนวแต่ยังไม่มีการขึ้นโครงสร้างกำแพงแต่อย่างใด แม้จะหมดสัญญาจ้างงานไปแล้วก็ตาม Beach Lover จะนำเสนอความคืบหน้าต่อในโอกาสถัดไป

แหลมกุ่ม หาดเงียบไร้ผู้คน

หาดแหลมกุ่ม สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปคงไม่คุ้นหูนัก ด้วยเหตุที่ว่า จ.ประจวบฯนั้นมีหาดท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อมากมาย แหลมกุ่มจึงเป็นชายหาดที่ผู้คนท้องถิ่น ใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชาวประมงใช้เพื่อการจอดเรือ หาดแหลมกุ่มตั้งอยู่ใน ตำบลนาหูกวาง อ.ทับสะแก ห่างจากถนนใหญ่ 4 กิโลเมตร ทิศเหนือติดกับหาดทับสะแกโดยมีหัวแหลมกั้น ส่วนทิศใต้เชื่อมต่อกับหาดโคกตาหอม ชายหาดมีความลาดชันต่ำ น้ำไม่ลึกมาก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ Beach Lover  เดินเท้าสำรวจตลอดแนวหาดไร้ผู้คน สันทรายชายหาดยังสมบูรณ์ มีต้นสนและพืชปกคลุม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มีซุ้มศาลาสำหรับชมทิวทัศน์ หรือนั่งรับประทานอาหาร โดยมีร้านอาหารและที่พักอย่างจำกัดมากๆ บรรยากาศแม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เงียบสงบมาก หากใครต้องการหาดประจวบฯ ในบรรยากาศที่ค่อนข้างสันโดษ หาดนี้ถือว่าไม่ควรพลาด

หาดทรายน้อย หาดลับ…แห่งหัวหิน

หัวหิน เป็นเทศบาลเมืองแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ตั้งของพระราชวังไกลกังวล ศูนย์ราชการอำเภอหรือที่ว่าการอำเภอ ย่านธุรกิจประจำอำเภอหัวหิน และเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยและระดับโลก นอกจากนี้ เทศบาลเมืองหัวหินยังเป็นเทศบาลที่มีประชากรมากที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และในภาคตะวันตกของประเทศไทย (https://th.wikipedia.org/wiki/เทศบาลเมืองหัวหิน) หากกล่าวถึงหาดหัวหิน ทุกคนน่าจะนึกถึงชายหาดขาวยาวต่อเนื่องมากกว่าสิบกิโลเมตร มีโรงแรมร้านอาหารประชิดชายหาดมากมาย กำแพงกันเขตที่ดินเอกชนกับชายหาดตลอดทั้งแนว น้อยคนที่จะกล่าวถึงหาดกระเปาะเล็กๆ ถัดจากวัดเขาเต่าลงมาทางทิศใต้ของชายหาด ที่นี่มีชื่อเรียกขานกันว่า หาดทรายน้อย เป็นชายหาดกระเปาะที่อยู่ระหว่างหัวหาดที่เป็นโขดหิน ความยาวชายหาดประมาณ 360 เมตร มีที่พัก ร้านอาหารแบบแผงลอย และร่มเตียงบริการอย่างจำกัด ชายหาดนี้นอกจากจะเล่นน้ำได้อย่างสบายแล้ว พื้นที่ชายหาดค่อนข้างกว้าง สามารถมานอนอาบแดด เล่นกีฬาชายหาด ได้อย่างสบาย หัวหาดฝั่งทิศเหนือ สามารถปีนขึ้นไปชมมุมสูงของหาดทรายน้อยได้ รวมถึงมองเห็นทิวทัศน์ไปทางหาดหัวหินได้สุดลูกหูลูกตา บนจุดชมวิว ยังมีภูมิทัศน์ของโขดหินที่สวยงามแปลกตาไปจากที่พบเห็นบริเวณหาดหัวหินและบริเวณใกล้เคียงเรียกว่าหากมาที่นี่จะได้ครบทั้งบรรยากาศ ทะเล ภูเขา และหาดทราย ในคราวเดียว

ติดตามงานป้องกันชายฝั่ง หาดแม่รำพึง

หาดแม่รำพึง ตั้งอยู่ ณ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ เป็นหาดทรายยาวต่อเนื่อง 4.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากคลองแม่รำพึงทางทิศตะวันออกจนถึงคลองบางสะพานทางทิศตะวันตก Beach Lover เคยนำเสนอเรื่องราวของหาดแม่รำพึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการคัดค้านโครงการป้องกันชายฝั่งของกรมโยธาธิการและผังเมืองเมื่อต้นปี 2565 ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยการค้นหาคำว่า “หาดแม่รำพึง” จากช่อง search ด้านขวาบน ช่วงต้นเดือนมิถุนายน Beach Lover ได้มีโอกาสเดินเท้าสำรวจชายหาดแห่งนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง พบว่ามีการเปิดพื้นที่หน้าชายหาดขนาดใหญ่เพื่องานฐานรากของกำแพง โดยโครงสร้างที่กำลังก่อสร้างนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ตำแหน่ง และระยะงานก่อสร้าง (ความยาวโครงสร้าง) ไปตามมติของคณะทำงานที่ทาง จ.ประจวบฯ ได้ตั้งขึ้นโดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กล่าวโดยสรุปคือมีการปรับขนาดให้เล็กลงและขยับแนวโครงสร้างให้ประชิดฝั่งเพิ่มมากขึ้น เท่าที่เดินเท้าสำรวจพบว่ามีการเปิดพื้นที่ก่อสร้างในระยะแรกประมาณ 300 เมตร ตั้งแต่หน้าบางสะพานรีสอร์ทลงมาทางทิศใต้ของหาดถึงหน้าลานปูนสาธารณะของท้องถิ่น โดยมีการขุดทรายหน้าหาดออกเป็นระยะกว้างประมาณ 20 เมตร (แตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ) บางตำแหน่งมีการลงโครงสร้างไปบ้างแล้ว บางตำแหน่งลงเข็มพืด ในขณะอีกพื้นที่กำลังขุดหน้าหาดเพื่อทำการเปิดพื้นที่ทำงาน บางพื้นที่นำเสาเข็มมาวางรอไว้ น่าติดตามต่อไปว่า โครงการที่เคยเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนอย่างรุนแรง และคลี่คลายลงได้แล้วนั้น จะดำเนินงานต่อไปตามฉันทามติที่ได้ตกลงไว้ร่วมกันหรือไม่

หาดขั้นบันได ณ อ่าวน้อย

อ่าวน้อย เป็นหนึ่งในสามอ่าวของ จ.ประจวบฯ นับว่าเป็นอ่าวที่เล็กที่สุดในบรรดาสามอ่าวรองจาก อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว กล่าวคือมีความยาวชายหาดประมาณ 1.2 กิโลเมตร Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของอ่าวน้อยไปหลายครั้งแล้ว โดยพื้นที่อ่าวน้อยนั้นเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องคดีชายหาด โดยประชาชนฟ้องรัฐในคดีปกครอง ติดตามได้จากหมวดคดีชายหาด ต้นเดือน มิ.ย.2567 Beach Lover ได้กลับมาอ่าวน้อยอีกรอบในช่วงเวลาน้ำลงต่ำ พบว่า กำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดยังอยู่ในสภาพไม่แตกต่างจากเดิมตอนที่เสร็จใหม่ๆมากนัก เพียงแต่พบสนิมเหล็กบนราวรั้วกันตก บริเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างเฟสที่หนึ่ง  พบร่องรอยน้ำกระเซ็นข้ามโครงสร้างบนิเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างทางทิศเหนือจนเกิดเป็นหลุดบ่อด้านหลังสันกำแพงกันคลื่นบางส่วน

สวยสมบูรณ์ตลอดปี…ที่นี่อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาว เป็นหนึ่งในสามอ่าวของ จ.ประจวบฯ ตั้งอยู่ในเขตทหารที่เรียกว่า กองบิน 5 ทางทิศใต้ของอ่าวประจวบฯ โดยมีเขาล้อมหมวกคั่นระหว่างอ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว อ่าวมะนาวมีความยาวชายหาดประมาณ 3.5 กิโลเมตร บางส่วนของชายหาดเป็นที่พักสวัสดิการของกองบิน บางส่วนให้เช่าเป็นร้านอาหารริมทะเล มีร่มเตียงให้บริการ และบางส่วนเป็นหาดธรรมชาติที่ไม่มีร่มเตียง โรงแรม ร้านอาหาร กีดขวางสายตา Beach Lover ขอพาชมบางส่วนของชายหาดทางทิศใต้ติดกับเขาคลองวาฬที่ยังคงเป็นชายหาดธรรมชาติ สมบูรณ์ไปด้วยทิวสน และต้นไม้ชายหาด ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 ผู้ประกอบการร่มเตียงผ้าใบให้ข้อมูลกับเราว่า บางปีที่ทรายหน้าหาดหดหายไปมากๆ ทหารจะเอาทรายที่อยู่นอกอ่าวมาถมพื้นที่หาดให้มีความกว้างเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ อ่าวมะนาวที่อยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศนี้มีสภาพสวย สมบูรณ์ตลอดทั้งปี เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะกองทัพอากาศสามารถจัดสรรงบประมาณมาดูแลและบริหารจัดการได้โดยไม่ติดขัด  เอาเข้าจริงๆแล้วหาดที่อื่นๆก็ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแบบนี้เช่นกัน เพราะการมีชายหาดที่สมบูรณ์สวยงาม จะยกระดับคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้สูงมากขึ้น และนั่นอาจหมายถึงเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นด้วย

กำแพงกันคลื่นหลากหลายแบบ ณ อ่าวประจวบ ช่วง ถ.ปิ่นอนุสรณ์

กำแพงกันคลื่น อ่าวประจวบบริเวณนีั (ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย) มีการดำเนินการสร้างและซ่อมแซมมาในหลายวาระโอกาส ด้วยโครงสร้างที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่ปี ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร บางส่วนของสันด้านบนกำแพง ถูกออกแบบให้กว้างและพัฒนาเป็นลานกิจกรรม ทางเดินออกกำลังกาย และทางจักรยาน จากการเดินเท้าสำรวจพบว่า มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นกำแพงแบบขั้นบันไดเหมือนกัน ก็มีลักษณะของขั้นบันไดที่แตกต่างกัน คาดว่าถูกสร้างในช่วงเวลาที่ต่างกัน และพบบางส่วนของโครงสร้างที่ชำรุดเสียหายบริเวณใกล้กับเขาตาม่องล่าย ซึ่งชาวบ้านมักใช้เป็นที่จอดเรือประมงขนาดเล็ก กำแพงกันคลื่นตลอดแนวตั้งแต่ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย ที่เห็นอย่างหลากหลายรูปแบบนี้ ยามน้ำลงจะพบชายหาดด้านหน้ากำแพงอยู่บ้าง มากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละโซนพื้นที่

ไม่หลงเหลือความเป็นชายหาดแล้วที่คลองวาฬ

หาดคลองวาฬ เป็นชายหาดที่ติดกับอ่าวมะนาวมีคลองวาฬเชื่อมต่อกับทะเลสองฝั่งคลองเป็นป่าชายเลน  บริเวณหาดคลองวาฬเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีความเงียบสงบ ความยาวของหาดประมาณ 4 กม. เป็นชายหาดทรายผสมเลน มีร้านอาหาร ที่พัก   ชุมชนชายฝั่ง  โครงการป้องกันชายฝั่งบริเเวณนี้ในอดีตมีองค์ประกอบคือ (1)  เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่งยาว 300  ม. บนชายหาด สร้างเมื่อ ก.ย.2547 (2)  สวนสาธารณะบนชายหาดคลองวาฬ ซึ่งประกอบด้วยลานเอนกประสงค์   ถนนคอนกรีตเสริม  เหล็ก ลานจอดรถ รางระบายน้ำ    ทางดินถมพร้อมเกรดปรับแต่ง   พร้อมปรับภูมิทัศน์ ดำเนินการพร้อมเขื่อนป้องกันตลิ่งเมื่อปี  2547 (3)  เขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งแบบหินทิ้งจำนวน 11 ตัว ความยาวตัวละ 50 ม. จำนวน 5 ตัว และยาวตัวละ 100 ม. จำนวน 6 ตัว ตลอดแนวชายฝั่งยาวประมาณ 1.3 ก.ม. สร้างเมื่อปี 2548 แสดงดังรูปที่ 1 เมื่อมีการสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งชายหาดด้านหน้ากำแพงจะค่อยๆหดหายได้ เนื่องมาจากแรงปะทะของคลื่นที่วิ่งเข้ากระทบกำแพงแล้วสะท้อนออก ส่งผลให้ทรายด้านหน้ากำแพงถูกดึงหายออกไปด้านนอกฝั่ง ยังคงเห็นชายหาดโผล่พ้นน้ำบ้างยามน้ำลงบางครั้งเท่านั้น เรือประมงชาวบ้านที่เคยใช้พื้นที่ชายหาดเป็นที่จอดเรือจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แบบเดิม ในส่วนของเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งนั้น ได้ส่งผลให้คลื่นที่เข้ามาปะทะอ่อนกำลังลงด้านหลังเขื่อนกันคลื่นและเกิดการทับถมของตะกอนทรายด้านหลัง  ซึ่งทำให้ชายหาดระหว่างช่องเปิดของเขื่อนแต่ละตัวนั้นเกิดการกัดเซาะเว้าโค้งเป็นวงเสี้ยวพระจันทร์  พื้นที่ชายหาดด้านหน้าบริเวณที่มีการปรับภูมิทัศน์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันคลื่นนั้น สามารถมองเห็นหาดได้ยามน้ำลงบางครั้ง การขึ้นลงชายหาดเป็นไปได้ยากยิ่งเพราะต้องปีนข้ามสันและแนวลาดของกำแพงซึ่งอยู่สูงกว่าชายหาดมาก ส่วนในฤดูมรสุมคลื่นที่วิ่งเข้ามาปะทะกำแพงแนวดิ่งส่งผลให้มีน้ำทะเลกระเซ็นข้ามสันกำแพงขึ้นมาบนทางเดินริมกำแพงบ้าง แสดงดังรูปที่ […]

สำรวจงานเติมทรายหาดจอมเทียน มิ.ย.2567

ที่ผ่านมา Beach Lover ได้พาสำรวจชายหาดจอมเทียนทั้งก่อนและหลังการเติมทรายมาแล้วหลายรอบ เช่น https://beachlover.net/พาชม-เติมทรายชายหาดจอมเทียน-อีกครั้ง/ , https://beachlover.net/พาชม-เติมทรายชายหาดจอมเ/, https://beachlover.net/ส่องงานเติมทรายชายหาดจ/ รวมถึงสืบค้นได้จาก Icon search คำว่า “จอมเทียน” Beach Lover ได้มีโอกาสสำรวจหาดจอมเทียนอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 ตลอดทั้งแนว ทั้งนี้ไม่แน่ใจเลยว่า งานเติมทรายของชายหาดนี้ที่ดำเนินการโดยกรมเจ้าท่านั้นเสร็จสิ้นตลอดทุกเฟสทั้งแนวชายฝั่งหรือยัง เนื่องจากไม่เห็นรั้วเพื่อปิดพื้นที่ก่อสร้างอีกแล้ว แต่ยังพบเรือขุดและพ่นทรายจอดอยู่นอกชายฝั่ง เมื่อเดินเท้าสำรวจชายหาดตั้งแต่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่หาดยินยอม หาดดงตาล เรื่องลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหาดจอมเทียนจนเข้าเขตพื้นที่นาจอมเทียนถึงร้านอาหารลุงไสว ที่เป็นเขตสิ้นสุดงานก่อสร้าง มีสภาพชายหาดดังรูป พบว่า มีการทำทางขึ้นลงบันได และป้ายชื่อหาด เพิ่มเติมจากครั้งก่อนที่ Beach Lover ได้ลงมาสำรวจ พบว่าชายหาดจอมเทียนที่ถูกเติมทรายในระยะแรกๆยังมีสภาพไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก ชายหาดยังคงกว้างประมาณ 40-50 เมตร โดยพบว่าการตัด Slope ชายหาดเป็นสองระดับตามที่ได้ก่อสร้างไว้นั้นหายไปจนหมด หาดทรายกลืนกันเป็น Slope เดียวไม่ต่างจากหาดพัทยา ที่ Beach Lover พาสำรวจในช่วงเวลาใกล้ๆกัน (https://beachlover.net/pataya-after-sunset/)

พาสำรวจกำแพงแนวดิ่ง อ่าวประจวบ ยามน้ำลงต่ำ

ประจวบฯเมืองสามอ่าว ได้แก่ อ่าวน้อย อ่าวมะนาว และอ่าวประจวบฯ ในสามอ่าวนี้มีเพียงอ่าวเดียวที่มีกำแพงกันคลื่นเกือบตลอดทั้งแนว (เว้นปากคลองบางนางรม) คือ อ่าวประจวบฯ Beach Lover ของพาสำรวจกำแพงกันคลื่นในโซนปากคลองบางนางรมถึงกองบินที่ 5 อ่าวมะนาว ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบแนวดิ่งเหมือนกันตลอดทั้งแนว ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ยามน้ำลงต่ำ จะเผยให้เห็นชายหาดด้านหน้ากำแพงอยู่บ้าง โดยมีระดับต่ำกว่าสันกำแพงแตกต่างกันในแต่ละตำแหน่ง โดยเฉลี่ยแล้วชายหาดมีระดับต่ำกว่าสันกำแพงประมาณ 1.8 เมตร และเมื่อสังเกตจากคราบน้ำบนชายหาดแล้วพบว่า ยามน้ำขึ้นสูงสุด ระดับน้ำจะขึ้นไปจนแตะตีนกำแพงเลย กำแพงกันคลื่นอ่าวประจวบนี้ สร้างแบบตั้งตรง (แนวดิ่ง) เมื่อ 2545 โดยสำนักโยธาธิการและผังเมือง จ.ประจวบฯ รวมระยะทางของโครงสร้าง 2,429 เมตร ตั้งแต่ปากคลองบางนางรม จนถึงขอบเขตรั้วทางทิศเหนือของกองบินที่ 5 อ่าวมะนาว พื้นที่ด้านบนของกำแพงแนวดิ่งนี้ ทำเป็นทางเดินเท้าขนาดใหญ่ ถัดไปเป็นถนนที่สามารถจอดรถริมทะเลได้เลย โดยในช่วงฤดูมรสุมของทุกปี น้ำทะเลจะยกระดับสูงขึ้นมาก รวมถึงคลื่นก็มักจะทวีความรุนแรงมากกว่าช่วงเวลาปกติ สภาพของกำแพงและถนนเลียบหาดแห่งนี้ จะถูกคลื่นที่วิ่งเข้าปะทะกำแพงกันคลื่นกระโจนข้ามมายังถนน จนน้ำระบายไม่ทันตามภาพด้านล่าง และก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบระบายน้ำเนื่องจากทรายที่มากับคลื่นบางส่วนได้เข้าไปอุดตันในระบบ รวมถึงทางเดินเท้าเลียบทะเลก็เกิดความเสียหายตามภาพด้านล่าง เนื่องจากแรงของคลื่นที่เข้ากระแทก เมื่อเดินเท้าสำรวจตลอดทั้งแนว พบท่อระบบน้ำออกสู่ทะเลหลายตำแหน่ง โดยพบว่า เกิดการเป็นร่อง […]

see more…

ข่าว

พาเดินอยู่ในวังวน ที่จุดชมวิวชายฝั่ง

ที่มา: https://www.facebook.com/artofth De Panne เป็นเมืองหนึ่งในประเทศเบลเยี่ยม ที่มีธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะชายหาดยาวและทุ่งหญ้าที่มาบรรจบกัน บริเวณชายหาดนี้จึงเหมาะมากในการสร้างแลนด์มาร์คสำคัญ Westerpunt คือจุดชมวิวที่ออกแบบโดย Studio Moto ตั้งอยู่ในจุดที่เชื่อมกับเมือง Dunkirk ของฝรั่งเศส ด้วยคอนเซปต์ที่ว่า ‘การเดินทางคือจุดหมาย’ หรืออาจเรียกได้ว่า ‘ไม่ว่าจุดหมายจะเป็นอะไร อย่าลืมมองเห็นคุณค่าของเรื่องราวระหว่างการเดินทาง’ โดยปกติแล้ว การเดินชมวิวริมหาดจะเป็นเส้นตรงยาว แต่ในคราวนี้เส้นทางนั้นถูกม้วน โดยเอาเส้นบันไดตรงมาหักมุม 108 องศา บรรจบกันกลายเป็นลูป และมีชานพักอยู่ที่ทุกมุม เมื่อเดินวนขึ้นลงไปเรื่อยๆ มุมมองทิวทัศน์ก็จะต่างออกไป ด้วยรูปทรงนี้ ทำให้ถึงแม้น้ำทะเลจะระดับสูงขึ้น ก็ยังสามารถเดินขึ้นไปได้อยู่เสมอ ผลงานนี้สร้างจากคอนกรีตที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องการการดูแลยุ่งยาก และสามารถตั้งอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง ตัวบันไดยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเสารับแรงอีกด้วย เรียกว่าทั้งหมด ทั้งรูปทรง โครงสร้าง และการใช้งาน กลายเป็นเรื่องเดียวกัน สีของคอนกรีตกลืนไปกับหาดทราย และด้วยลวดลายของแผ่นไม้แม่แบบคอนกรีต ก็ยังช่วยทำให้ผลงานดูมีรายละเอียดเป้นธรรมชาติ กลืนไปริ้วทราย ต้นหญ้าและเส้นขอบฟ้าอีกด้วย ราวกับสิ่งนี้ผุดขึ้นมาเองเลยทีเดียว

ลงมือแล้ว!! กำแพงกันคลื่นหาด Katoku

ที่มา: https://www.facebook.com/katokuhama Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของหาด Kotoku บนเกาะ Amami เกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นไปแล้วตอนหนึ่ง ติดตามได้จาก https://beachlover.net/katoku-sw/ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการกลับมาดำเนินการก่อสร้างที่ Katoku โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่จังหวัดและพนักงานจากบริษัท Marufuku ได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่และประกาศว่าจะวางแท่งคอนกรีตบนชายหาดและดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการเพิ่งย้ายมาประจำการในเดือนเมษายน ชาวบ้านในพื้นที่จึงจำเป็นต้องเริ่มอธิบายเหตุการณ์และข้อกังวลที่เกิดขึ้นทั้งหมดใหม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จังหวัดยังข่มขู่ชาวบ้านที่ยื่นคำร้องขอตรวจสอบโครงการ โดยอ้างว่าจะดำเนินคดีหากเข้ามาขัดขวางการก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นการกระทำตามคำสั่งของผู้ว่า Shiota และถือเป็นการเลือกปฏิบัติและการคุกคามทางกฎหมายที่ไม่สนใจความคิดเห็นของชาวบ้านที่เพิ่งยื่นคำร้อง ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านยังคงพยายามสื่อสารกับเจ้าหน้าที่จังหวัด ถึงแม้ว่าภารกิจของเจ้าหน้าที่คือการดำเนินโครงการที่เป็นปัญหาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านเชื่อว่าการสื่อสารและแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมพวกเขาถึงรัก Katoku  ทำไมพวกเขาจึงอยากจะรักษาไว้ให้เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมเพื่อลูกหลาน WWF ได้กล่าวในการประชุมที่ Amami Oshima ว่า “ระบบที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้นั้นขึ้นอยู่กับความหลากหลายทางชีวภาพ” ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาสิ่งที่เหลืออยู่ Katoku เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่หายาก เนื่องจากแทบไม่เหลือพื้นที่แบบนี้ในหมู่เกาะ Ryukyu แล้ว ส่วนที่หลงเหลืออยู่ก็กำลังจะถูกทำลาย ตามข่าวนี้ ชาวบ้านได้ขอตั้งคำถามถึงแนวทางของเจ้าหน้าที่จังหวัด Kagoshima ที่เพิกเฉยและข่มขู่ผู้ที่พยายามปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งไม่ใช่วิธีการจัดการแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของ UNESCO ที่ถูกต้อง […]

น้ำทะเลเป็นสีดำหาดหอยขาว แหลมงอบ จังหวัดตราด

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทะเล ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังได้รับแจ้งพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณหาดหอยขาว ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) โดยได้รับการร้องเรียนจากคุณณัชมน เตชอำพร ผ่านทางเว็บไซต์กรมฯ พบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณหาดหอยขาว ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ทำการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการในพื้นที่ ทราบว่าพบตะกอนสีดำในช่วงนี้ทุกปี และทำการสำรวจเบื้องต้น 2 สถานี (HK1-2) พบว่าสภาพน้ำทะเลมีตะกอนสีดำ ไม่มีกลิ่น และพบเศษวัสดุสีดำเกยตลอดแนวหาด มีลักษณะคล้ายตะกอนของเศษอินทรีย์สารจากกิ่งไม้ใบไม้ที่เน่าและย่อยสลาย เมื่อมีคลื่นลมแรงจะกวนตะกอนด้านล่างขึ้นมาทำให้น้ำทะเลบริเวณชายฝั่งและชายหาดมีตะกอนสีดำ ทั้งนี้ไม่ใช่คราบน้ำมัน จากนั้นทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำทะเล โดยมีค่าความเป็นกรดและด่าง 8.08-8.15 อุณหภูมิ 29.0-31.1 องศาเซลเซียส ความเค็ม 21.2-21.3 ส่วนในพันส่วน และปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 5.15-6.12 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 1 […]

ฝนถล่มเกาะภูเก็ต ส่งผลต่อชายหาดอย่างไร

ฺBeach Lover ชวนมองสถานการณ์ฝนถล่มเกาะภูเก็ตในช่วงวันที่ 29-30 มิถุนายน 2567 ตามข่าวบางส่วนดังนี้ น้ำท่วมภูเก็ตเสียหายหนักทั้ง 3 อำเภอ: น้ำท่วมขังถนนหลายสาย รถเล็กสัญจรลำบาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มีการอพยพประชาชนในบางพื้นที่ (มติชนออนไลน์, https://www.matichon.co.th/region/news_4656712) น้ำท่วมภูเก็ตอ่วม ทำเครื่องบินลงจอดไม่ได้ รวม 14 เที่ยวบิน จนท.เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือ: น้ำท่วมขังบริเวณทางวิ่งของสนามบินนานาชาติภูเก็ต ทำให้ต้องยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบินหลายเที่ยว (มติชนออนไลน์,https://www.matichon.co.th/region/news_4655815) “น้ำท่วม” ภูเก็ตทำเครื่องบินลงจอดไม่ได้ 14 เที่ยวบิน: สนามบินภูเก็ตต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก (ฐานเศรษฐกิจ, https://www.thansettakij.com/business/tourism/600512) Beach Lover ขอชวนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันของฝนตกหนักและน้ำท่วมบนแผ่นดิน กับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ชายฝั่งบรเวณท้ายน้ำดังนี้ ฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ (Upstream) เช่น บนภูเขา ในแผ่นดิน สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงชายหาดในพื้นที่ท้ายน้ำ(Downstream) เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันดังนี้ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นทันทีที่น้ำจำนวนนี้ไหลบ่าล้นพื้นที่ชายฝั่ง นั่นคือทรายบนชายหาดอาจถูกน้ำฝนเซาะเป็นร่องตามทางน้ำและไหลออกไปนอกจากฝั่งอย่างรวดเร็วความความแรงของน้ำและแรงโน้มถ่วงของโลก ดังที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งที่ชายหาดพัทยาตามโพส https://beachlover.net/อีกแล้ว-ฝนถล่มหาดพัทยา/ และ https://beachlover.net/ฝนตกหนักที่พัทยาทำหาดพ/ และ https://beachlover.net/หาดพังรับฝนหนัก-อีกแล้ว/ และโพสเก่าๆในเวบนี้ ค้นหาได้จาก search icon มุมขวาบนของเวบ เมื่อผ่านช่วงเวลาฝนตกหนักและตะกอนบนแผ่นดินไหลลงทะเลเป็นจำนวนมากไประยะหนึ่ง ในบางพื้นที่อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องดังต่อไปนี้ […]

พบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังได้รับแจ้งเหตุพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี วันที่ 16 มิถุนายน 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการประสานงานสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) กรณีแจ้งเหตุพบน้ำทะเลเป็นสีดำบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 จาการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศบาลพัทยาเพิ่มเติม ทราบว่าท่อส่งน้ำเสียด้วยแรงดันสถานีสูบน้ำเสียพัทยารั่ว และได้ดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้สำรวจเบื้องต้น 3 สถานี ได้แก่ ประภาคาร ท่าเรือแหลมบาลีฮาย และหาดพัทยา โดยสถานีประภาคารสภาพน้ำทะเลกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่พบสัตว์น้ำตาย ส่วนแหลมบาลีฮาย และหาดพัทยา สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น จากนั้นทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำทะเล โดยมีค่าความเป็นกรดและด่าง 7.86-8.00 อุณหภูมิ 31.7-32.7 องศาเซลเซียส ความเค็ม 30.8-31.2 ส่วนในพันส่วน และปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 5.20-5.80 […]

สำรวจการเปลี่ยนแปลงชายหาด อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล

ที่มา: https://www.facebook.com/mnpoc.trang3 วันที่ 24 – 31 พฤษภาคม 2567 ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สำรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาด บริเวณอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล จำนวน 2 สถานี ได้แก่ หาดแหลมสน เกาะอาดัง จำนวน 17 แนวสำรวจ และหาดทรายขาว เกาะราวี จำนวน 6 แนวสำรวจ เบื้องต้นพบว่า บริเวณหาดแหลมสน เกาะอาดัง สภาพชายฝั่งส่วนใหญ่มีลักษณะคงสภาพ พบชายฝั่งถูกกัดเซาะบริเวณฝั่งทิศตะวันตกของแหลมสน เนื่องจากเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากคลื่นลมมากกว่าบริเวณอื่น ๆ บริเวณหาดทรายขาว เกาะราวี สภาพชายฝั่งส่วนใหญ่มีลักษณะถูกกัดเซาะ โดยเฉพาะบริเวณด้านทิศตะวันออกของหาด พบชายฝั่งคงสภาพบางส่วน บริเวณทิศใต้ของหาดทรายขาว โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์เชิงลึกต่อไป

สำรวจการเปลี่ยนแปลงเส้นแนวชายฝั่งหลังการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ห้วงน้ำขาว จังหวัดตราด

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 27 เมษายน 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่ง ลงพื้นที่ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งอยู่ในระบบหาดบ้านแหลมศอก (T1D009) เพื่อสำรวจการเปลี่ยนแปลงเส้นแนวชายฝั่งหลังการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น โดยสำรวจพื้นที่ดังกล่าว ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ครอบคลุมระยะทางไม้ไผ่ประมาณ 3,200 เมตร พื้นที่ประมาณ 180 ไร่ ผลจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า บริเวณหลังแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่น มีพรรณไม้ป่าชายเลน ได้แก่ ต้นโกงกาง และแสมทะเล ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จะนำข้อมูลดังกล่าว มาวิเคราะห์ผลการเปลี่ยนแปลงหลังดำเนินโครงการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ต่อไป

ศาลปกครองยกฟ้อง คดีคัดค้านการสร้างกำแพงชายหาด Katoku เกาะ Amami จ.Kagoshima ประเทศญี่ปุ่น

อ่านข่าวฉบับภาษาญี่ปุ่นได้จาก: https://www3.nhk.or.jp/lnews/kagoshima/20240424/5050026677.html ภาพประกอบโดย: Beach Lover เมื่อ พ.ย.2566 วันที่ 24 เมษายน 2567 ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องกรณีที่ชาวบ้าน 10 คน ยื่นเรื่องฟ้องหน่วยงานของรัฐให้ยุติการก่อสร้างโครงสร้างกำแพงกันคลื่น ป้องกันชายหาด Katoku ที่ใช้งบประมาณกว่า 340 ล้านเยน โดยระบุว่าจะเป็นการทำลายทรัพยากรชายหาดที่มีคุณค่า เนื่องจากหาดนี้อยู่ติดกับเขตที่ถูก Unesco ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ในอดีต ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องกรณีนี้ไปแล้ว 1 รอบ แต่ชาวบ้านได้รวมตัวกันยื่นอุทธรณ์พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องชายหาดแห่งนี้หลายครั้ง รวมถึงสำรวจข้อมูล beach profile นำส่งต่อศาลเพื่อแสดงให้เห็นว่าชายหาดแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างกำแพงกันคลื่น เนื่องจากไม่มีการกัดเซาะอย่างรุนแรง การกัดเซาะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากพายุรุนแรงเมื่อ 10 ปีก่อน และไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีกเลย จากเสียงคัดค้านจากผู้คนที่ต้องการปกป้องธรรมชาติ ทางจังหวัดจึงลดขนาดของเขื่อนลงจาก 530 เมตร เหลือเพียง 180 เมตร เมื่อ 6 ปีก่อน และเมื่อสองปีก่อน มีการนำรถขุด เครื่องจักรหนัก และวัสดุก่อสร้างมาวางไว้ที่ชายฝั่ง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากชาวบ้านต่อต้านจนถึงปัจจุบัน ในคำตัดสินของศาลชั้นสองเมื่อวันที่ 24 […]

สำรวจหาค่าระดับความลึกท้องน้ำบริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล เกาะลิบง จังหวัดตรัง

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 12 มีนาคม 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนธรณีวิทยาชายฝั่ง ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่สำรวจหาค่าระดับความลึกท้องน้ำบริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล เกาะลิบง จังหวัดตรัง โดยเรือสำรวจหยั่งน้ำอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายในการสำรวจ 12 แนว จากทั้งหมด 28 แนว มีระยะห่างระหว่างแนวประมาณ 300 เมตร ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จะส่งมอบข้อมูลที่ได้จากการสำรวจในครั้งนี้ให้คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเลในบริเวณจังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ เพื่อไปใช้ในการวิเคราะห์หาสาเหตุการเสื่อมโทรมของแนวหญ้าทะเลในพื้นที่ต่อไป

สำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย ชายหาดตำบลกลาย

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย (Sand fence) บริเวณชายหาดบ้านบางสาร ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 12 มีนาคม 2567 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง โดยส่วนวิศวกรรมชายฝั่ง ลงพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านบางสาร ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสำรวจและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งหลังการติดตั้งรั้วดักทราย (Sand fence) ด้วยเครื่องมือหาพิกัดดาวเทียมRTK GNSS Network โดยรั้วดักทรายมีความยาว 570 เมตร ปักรูปแบบซิกแซก ใช้ไม้ความยาว 3 เมตร ปักลึกลงดิน 2 เมตร (ดำเนินการติดตั้งในปี พ.ศ. 2565) มีแนวสำรวจทั้งหมด 21 แนว ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งประมาณ 1,000 เมตร เป็นการสำรวจในช่วงหลังฤดูมรสุม ผลสำรวจพบว่าด้านทิศใต้ใกล้เขื่อนป้องกันคลื่นนอกชายฝั่ง รั้วดักทรายหลุดพังเสียหายจากคลื่นในช่วงฤดูมรสุมเป็นระยะทาง 180 เมตร และช่วงถัดมา แนวไม้อยู่ในสภาพล้มเอียงเข้าหาฝั่ง ระยะทาง 50 เมตร […]

see more…