พายุ กับ มรสุม แตกต่างกันอย่างไร

Beach Lover ลงพื้นที่ชายฝั่งทะเลเพื่อสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์พายุและลมมรสุมในหลายพื้นที่ และต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี เมื่อสอบถามชาวบ้านถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นมักได้คำตอบคล้ายๆกันคือพายุเข้า ทั้งๆที่ในช่วงเวลานั้นไม่มีพายุเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากลมมรสุมตามฤดูกาลที่อาจมีกำลังแรงขึ้นกว่าปกติ จึงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งมากกว่าปกติ จนชาวบ้านคิดว่าคลื่นใหญ่ลมแรงที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายหาดหน้าบ้านคือพายุ Beach Lover ขอชวนมองความแตกต่างของพายุและมรสุม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยพายุและมรสุมเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและลม แต่มีความแตกต่างกันในหลายประเด็น: 1. ลักษณะการเกิด: 2. ขอบเขตและระยะเวลา: 3. ผลกระทบ: สรุปว่า พายุเป็นระบบลมที่หมุนวนรุนแรง เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น และมีผลกระทบรุนแรงในพื้นที่จำกัด ส่วนมรสุมเป็นระบบลมขนาดใหญ่ที่พัดประจำฤดู มีระยะเวลานาน และมีผลกระทบต่อสภาพอากาศและฤดูกาลในวงกว้าง ความเข้าใจลักษณะและความแตกต่างดังกล่าวจะสามารถทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของพายุและมรสุมที่อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเราได้ และสามารถปรับตัวและอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย

Beachlover

October 7, 2024

ทรายทะเล ใช้ในงานก่อสร้างได้หรือไม่?

ทรายทะเลแม้มีอยู่มากมายตามชายฝั่ง แต่การนำมาใช้ในงานก่อสร้างจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากมีข้อจำกัดสำคัญที่อาจส่งผลต่อคุณภาพและความทนทานของโครงสร้าง ปัญหาจากเกลือ: เกลือที่แทรกซึมอยู่ในทรายทะเลเป็นอุปสรรคสำคัญ เกลือเหล่านี้เมื่อทำปฏิกิริยากับความชื้นและเหล็กเสริมภายในคอนกรีต จะก่อให้เกิดสนิมและการกัดกร่อน ทำให้โครงสร้างอ่อนแอลงในระยะยาว อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้ทรายทะเลโดยไม่ผ่านกระบวนการล้างเกลืออย่างเหมาะสม อาจประสบปัญหาแตกร้าว ผุพัง หรือทรุดตัวก่อนเวลาอันควร ขนาดและสิ่งเจือปน: ทรายทะเลมีลักษณะเฉพาะ คือมีขนาดเม็ดทรายที่ละเอียดกว่าทรายแม่น้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการยึดเกาะของคอนกรีต นอกจากนี้ ทรายทะเลยังอาจมีสิ่งเจือปนอื่น ๆ เช่น เศษเปลือกหอย ซากปะการัง หรือสารอินทรีย์ ซึ่งอาจลดคุณภาพของคอนกรีตลง หากไม่ผ่านกระบวนการคัดแยกและทำความสะอาดอย่างดี การใช้งานที่จำกัด: แม้จะมีข้อจำกัด แต่ทรายทะเลที่ผ่านการล้างเกลือและคัดแยกสิ่งเจือปนอย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างบางประเภทได้ เช่น งานถมดิน งานปรับพื้นที่ หรืองานคอนกรีตที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก อย่างไรก็ตาม การใช้ทรายทะเลในงานโครงสร้างหลักที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น เสา คาน หรือพื้น อาจไม่เหมาะสมนัก ทางเลือกและข้อควรระวัง: ก่อนตัดสินใจใช้ทรายทะเล ควรพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น ทรายแม่น้ำ หรือทรายบดจากหิน ซึ่งอาจมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานก่อสร้างมากกว่า นอกจากนี้ การนำทรายทะเลมาใช้อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การกัดเซาะชายฝั่ง หรือทำลายระบบนิเวศทางทะเล ดังนั้น ควรคำนึงถึงผลกระทบเหล่านี้และปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยสรุปคือทรายทะเลสามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการเตรียมทรายที่เหมาะสม และพิจารณาข้อจำกัดในการใช้งานอย่างรอบคอบ

Beachlover

October 5, 2024

SimaPro สำหรับการประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) ของการก่อสร้างโครงสร้างทางทะเล

SimaPro สามารถใช้สำหรับการประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) ของการก่อสร้างโครงสร้างทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านขั้นตอนต่อไปนี้: ด้วยการทำตามขั้นตอนและข้อควรพิจารณาเหล่านี้ คุณสามารถใช้ SimaPro เพื่อดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตอย่างครอบคลุมของการก่อสร้างโครงสร้างทางทะเล สนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทะเลที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

Beachlover

October 3, 2024

ทำไม น้ำทะเลขึ้นลงแต่ละแห่งไม่เท่ากัน

น้ำทะเลขึ้นลงแต่ละแห่งไม่เท่ากันเนื่องจากปัจจัยหลายประการ: นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อระดับน้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละพื้นที่ เช่น กระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ของน้ำขนาดใหญ่ในมหาสมุทรที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิ ความเค็ม และการหมุนของโลก และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อรูปแบบและความรุนแรงของน้ำขึ้นน้ำลงในอนาคต แล้ว Tidal range ที่มากที่สุดในโลก อยู่ที่ไหน? Bay of Fundy ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรัฐ Nova Scotia และ New Brunswick ในประเทศแคนาดา เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีช่วงน้ำขึ้นน้ำลงที่มากที่สุดในโลก ด้วยความแตกต่างสูงสุดถึง 16.3 เมตร (53.5 ฟุต) ระหว่างระดับน้ำขึ้นและน้ำลงสูงสุด ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้เกิดจากรูปทรงเฉพาะของอ่าว Bay of Fundy ที่มีลักษณะคล้ายกรวย เมื่อน้ำขึ้น น้ำทะเลจำนวนมหาศาลจะถูกบีบให้ไหลเข้ามาในพื้นที่ที่แคบลงเรื่อย ๆ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงมากในช่วงน้ำขึ้น ลองนึกภาพว่าคุณกำลังยืนอยู่บนชายหาดใน Bay of Fundy ในช่วงน้ำลง คุณจะเห็นท้องทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล และอาจจะเห็นเรือประมงเกยตื้นอยู่บนพื้นทราย แต่เมื่อน้ำขึ้น น้ำทะเลจะเริ่มไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว และภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ระดับน้ำจะสูงขึ้นจนท่วมพื้นที่ที่เคยเป็นชายหาดทั้งหมด เรือประมงที่เคยเกยตื้นจะลอยขึ้นมา และคุณอาจจะต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผาเพื่อชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ […]

Beachlover

October 1, 2024

ปรากฏการณ์สัตว์ทะเลตายเกยชายหาด

จากภาพข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับปรากฏการณ์หอยตายเกยชายหาด ปลาตายลอยเกลื่อนในทะเล โดยมีการคาดการณ์กันไปต่างๆนานาถึงสัญญาณเตือนภัยพิบัติร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย เพื่อความเข้าใจเรื่องราวแบบไม่ตื่นตระหนก Beach Lover ขอพาศึกษาปรากฏการณ์นี้ไปด้วยกัน ปรากฏการณ์สัตว์ทะเลตายเกยหาดนั้นเป็นสัญญาณเตือนถึงความไม่สมดุลของระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากธรรมชาติและจากการกระทำของมนุษย์ สาเหตุจากธรรมชาติ สาเหตุจากมนุษย์ ปรากฏการณ์สัตว์ทะเลตายเกยหาดจึงเป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ลดมลพิษทางน้ำ ควบคุมการทำประมง และส่งเสริมการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาทะเลให้อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นหลังต่อไป

Beachlover

September 28, 2024

รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ คืออะไร

พายุ (Storm) ขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นทั้งบนภาคพื้นทวีปและในมหาสมุทร เมื่อพัฒนาจนกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ที่สามารถสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งมีชีวิต บนพื้นผิวโลก  นักพยากรณ์อากาศจะจัด ความรุนแรงของพายุ ตามมาตรวัดของสำนักงานหรือกรมอุตุนิยมวิทยาในแต่ละภูมิภาคที่พายุเหล่านั้นก่อตัวขึ้น ในเบื้องต้น พายุหมุนเขตร้อนจะถูกจัดประเภทตามหลักเกณฑ์พื้นฐาน คือ รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ หรือ Return Period คือ ค่าทางสถิติที่บ่งบอกถึงระยะเวลาเฉลี่ยที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากันหรือมากกว่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำนายเวลาที่แน่นอนได้ แต่ก็ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงในระยะยาว ความสำคัญของรอบปีการเกิดซ้ำของพายุ ข้อควรจำ ตัวอย่าง แม้ว่าเหตุการณ์ที่มีรอบปีการเกิดซ้ำสูงจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติทุกระดับจึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ เรามีวิธีการวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุอย่างไร การวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ มีหลากหลายวิธีที่ใช้กัน โดยทั่วไปแล้ว จะอาศัยข้อมูลทางสถิติของเหตุการณ์ในอดีต เพื่อประเมินโอกาสการเกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงใกล้เคียงกันในอนาคต วิธีการที่นิยมใช้มีดังนี้: นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ เช่น: การเลือกวิธีการวิเคราะห์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ลักษณะของข้อมูล, วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์,และทรัพยากรที่มีอยู่

Beachlover

September 27, 2024

หาดแบบไหนที่ปูลมชอบ

ปูลม หรือ Ghost crab เป็นปูทะเลขนาดเล็กในสกุล Ocypode อยู่ในวงศ์ Ocypodidae อันเป็นวงศ์เดียวกันกับปูก้ามดาบด้วย ปูลมมักถูกจำสับสนกับปูทหาร ซึ่งอยู่ในสกุล Mictyris ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ปูลมจะมีลำตัวที่ใหญ่กว่ามาก และมีกระดองเป็นรูปสี่เหลี่ยม ปูลมจะไม่ปั้นทรายเป็นก้อนเหมือนปูทหาร แต่จะใช้ก้ามคีบอาหารจำพวกซากพืช ซากสัตว์ และอินทรีย์สารต่าง ๆ เข้าปาก ปูลม เป็นสัตว์ที่น่าสนใจ มีลักษณะเด่นคือกระดองสีขาวหรือสีทรายกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้พรางตัวจากศัตรูได้ดี พวกมันมีขาที่แข็งแรงและว่องไว เหมาะสำหรับการขุดรูและวิ่งบนพื้นทราย ปูลมเป็นนักวิ่งที่เร็วมาก สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 4 เมตรต่อวินาที ปูลมมีขาเดินทั้งหมด 4 คู่ ปูลมจะวิ่งหรือเดินทางด้านข้าง เวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง ปูลมจะใช้ขาคู่ที่ 1 และคู่ที่ 4 วิ่งเท่านั้น และยิ่งตกใจมากก็จะวิ่งเร็วมากเท่านั้น ปูลมจะผสมพันธุ์โดยอาศัยอิทธิพลของดวงจันทร์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเมียจะอยู่ในหลุมสักพักรอให้ไข่ได้รับการพัฒนา และเมื่อน้ำขึ้นสูงตัวเมียจะออกจากหลุม และเมื่อน้ำซัดเข้าหาตัวก็จะยกตัวขึ้น-ลงแรงๆเพื่อสะบัดไข่ให้ลอยออกไปในทะเล ปูลมมักเลือกอาศัยตามชายหาดที่มีลักษณะเฉพาะตัว หาดทรายละเอียดเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะปูลมใช้ก้ามขุดรู เพื่อหลบภัยและวางไข่ ทรายที่ละเอียดจะอ่อนนุ่มและง่ายต่อการขุด นอกจากนี้ หาดทรายละเอียดมักมีน้ำท่วมไม่ถึง ทำให้ปูลมสามารถสร้างรูที่ปลอดภัยและคงทนได้ ความสะอาดของชายหาดก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน […]

Beachlover

September 25, 2024

ลม และ คลื่น สัมพันธ์กันอย่างไร

ลมและคลื่นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและซับซ้อน โดยลมทำหน้าที่เป็นผู้สร้างและควบคุมคลื่นในทะเล มหาสมุทร และแหล่งน้ำต่าง ๆ กระบวนการกำเนิดคลื่นจากลม: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อขนาดและลักษณะของคลื่น: ลมเป็นผู้สร้างและควบคุมคลื่นในธรรมชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างลมและคลื่นเป็นไปตามกฎฟิสิกส์ที่ซับซ้อน ลักษณะของคลื่นที่เกิดขึ้นจะเป็นผลจากการทำงานร่วมกันของปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะความเร็วลม ระยะทางที่ลมพัดผ่าน และระยะเวลาที่ลมพัด การทำความเข้าใจในความสัมพันธ์นี้ จะทำให้เข้าใจกระบวนการชายฝั่งทะเลได้ดีขึ้น

Beachlover

September 23, 2024

“กัดเซาะชายฝั่ง” สาธารณภัยที่อาจไม่เหลือแม้แผ่นดิน

บทความเป็น Original content หากนำบางส่วนของบทความไปใช้ประโยชน์ กรุณาอ้างอิงด้วย “ภัยพิบัติอื่นเมื่อเหตุการณ์สงบลง เรายังคงเหลือผืนแผ่นดิน แต่ภัยจากการกัดเซาะชายฝั่งเมื่อผ่านพ้นไป เรามิอาจคาดเดาได้ว่าแผ่นดินจะกลับคืนมาเหมือนดังเดิมได้หรือไม่ และเมื่อไหร่” ชายฝั่งทะเลตลอดแนว 3,151 กิโลเมตร ของประเทศไทยใน 23 จังหวัด กำลังตกอยู่ในสภาวะที่ถูกคุกคามทั้งจากธรรมชาติและด้วยน้ำมือของมนุษย์เอง “กัดเซาะชายฝั่ง” ภัยนี้กำลังค่อยๆกลืนกินผืนแผ่นดินที่มนุษย์ใช้ประโยชน์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน บางสถานการณ์นั้นอาจพบเห็นผลกระทบทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง หรือในบางสถานการณ์ก็อาจสร้างความเสียหายอย่างฉับพลันในวงกว้าง อันที่จริง “กัดเซาะชายฝั่ง” มิได้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ดำรงอยู่เรื่อยมาอย่างยาวนาน แต่ที่เราเพิ่งรู้สึกว่าเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลของมนุษย์ ก็เพราะการเจริญเติบโตของเมืองส่งผลให้เกิดการพัฒนาของพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต เราจึงสังเกตเห็นว่าภัยจากการกัดเซาะชายฝั่งนั้นเขยิบเข้าใกล้วิถีชีวิตของเรามากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน สาเหตุของการกัดเซาะชายฝั่งนั้นเกิดจากธรรมชาติและมนุษย์ โดยภัยจากธรรมชาตินั้น มักเกิดขึ้นตามฤดูกาลและมักเกิดขึ้นในลักษณะที่ทำให้ชายหาดเสียสมดุลหรือถูกกัดเซาะไปเพียงชั่วคราว เช่น เราอาจสังเกตเห็นการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงมรสุม แต่หลังจากมรสุมได้ผ่านพ้นไป ชายฝั่งจะค่อยๆปรับตัวคืนสู่สภาพเดิม และจะเป็นกระบวนการเช่นนี้หมุนเวียนไปเรื่อยๆตราบเท่าที่สมดุลของธรรมชาตินี้ยังคงดำรงอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าภัยคุกคามที่เกิดจากมนุษย์ เช่น การพัฒนาริมชายฝั่งทะเล จะส่งผลให้กระบวนการทางธรรมชาตินี้ถูกแทรกแซง จนทำให้การปรับสมดุลของชายฝั่งผิดไปจากเดิม กล่าวคือ เราอาจเห็นการกัดเซาะชายฝั่งเกิดขึ้นอย่างถาวร โดยไม่อาจกลับมาฟื้นคืนสภาพเดิมได้อีกแม้ผ่านพ้นช่วงมรสุมไปแล้วก็ตาม ด้วยกิจกรรมและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่ขยับเข้าใกล้ทะเลมากกว่าในอดีตมาก และด้วยธรรมชาติทางทะเลที่คาดเดาได้ยาก “กัดเซาะชายฝั่ง” ควรถือเป็น “สาธารณภัย” และควรถูกกำหนดอย่างชัดเจนในนิยามของ คำว่า “สาธารณภัย” แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้วยเหตุผล 3 ประการดังต่อไปนี้ ประการที่ 1 “กัดเซาะชายฝั่ง” มีสาเหตุทั้งจากธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ โดยส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของรัฐและเอกชน ประการที่ 2 “กัดเซาะชายฝั่ง” คาดเดาความเสียหายจากผลกระทบได้ยาก แม้ความรุนแรงของธรรมชาติเท่ากันแต่ความเสียหายที่เกิดกับแต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาก็แตกต่างกันด้วย อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) จะยิ่งเป็นปัจจัยทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยที่เรามิอาจคาดเดาได้อย่างแม่นยำ นับว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากสาธารณภัยที่มีความไม่แน่นอนของผลกระทบสูง และยากจะควบคุม ประการที่ 3 “กัดเซาะชายฝั่ง” เกิดขึ้นแบบเร่งด่วนฉุกเฉิน เหตุเพราะปัจจัยทางธรรมชาติ อาทิ มรสุม พายุ […]

Beachlover

September 19, 2024

ระดับของน้ำใต้ดินริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบกับการกัดเซาะชายฝั่งอย่างไร

ระดับน้ำใต้ดินริมชายฝั่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของชายฝั่ง แต่เมื่อระดับน้ำใต้ดินมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะสูงขึ้นหรือลดลงมากเกินไป ก็สามารถส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างมีนัยสำคัญ 1. ระดับน้ำใต้ดินที่สูงขึ้น: 2. ระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง: การรักษาระดับน้ำใต้ดินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ทั้งการควบคุมการสูบน้ำบาดาล การจัดการระบบระบายน้ำ และการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการทรัพยากรน้ำใต้ดินอย่างยั่งยืน เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งและป้องกันปัญหาการกัดเซาะในระยะยาว

Beachlover

September 18, 2024
1 2 93