วิศวกรชายฝั่งทะเล มีหน้าที่อะไร

วิศวกรชายฝั่งทะเล เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลและพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้มีความมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมทางทะเลที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วิศวกรชายฝั่งทะเล มีหน้าที่หลักในการออกแบบ วางแผน และดูแลโครงสร้างและระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชายฝั่งทะเล เพื่อปกป้องชายฝั่งจากการกัดเซาะ พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้มีความมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมชายฝั่งทะเล: หน้าที่ของวิศวกรชายฝั่งทะเล ครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจและวิเคราะห์สภาพชายฝั่งอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อชายฝั่ง เช่น กระแสน้ำ คลื่น ลม พายุ และการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การสำรวจด้วยเสียง การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศ และแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างข้อมูลที่แม่นยำและครบถ้วน จากข้อมูลที่ได้ วิศวกรชายฝั่งจะทำการออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสมกับสภาพชายฝั่งนั้นๆ เพื่อป้องกันการกัดเซาะและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตัวอย่างโครงสร้างที่วิศวกรชายฝั่งอาจออกแบบ เช่น กำแพงกันคลื่น (Seawall) ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชายฝั่งจากคลื่นแรง รอดักทราย (Groin) ที่ช่วยดักทรายและป้องกันการพังทลายของชายหาด หรือเขื่อนกันคลื่นใต้น้ำ (Submerged Breakwater) ที่ช่วยลดความแรงของคลื่นก่อนเข้าถึงชายฝั่ง นอกจากการออกแบบโครงสร้างป้องกันแล้ว วิศวกรชายฝั่งยังมีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การออกแบบท่าเรือน้ำลึกสำหรับการขนส่งสินค้า การสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลเพื่อการเกษตร หรือการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่ง โดยสรุปแล้วหน้าที่หลักของวิศวกรชายฝั่งทะเลมีดังต่อไปนี้: การทำงานของวิศวกรชายฝั่งทะเล ไม่ได้จบแค่การออกแบบและก่อสร้าง […]

Beachlover

July 27, 2024

พาชมความคืบหน้างานก่อสร้างหาดสนกระซิบ กันอีกรอบ

Beach Lover ได้เคยพาชมสภาพของชายหาดลับใกล้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง หรือหาด สนกระซิบ ไปแล้วหลายครั้ง ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยใช้ไอคอน Search ด้านบนขวา ครั้งนี้ Beach Lover เดินเท้าสำรวจหาดสนกระซิบกันอีกรอบในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่ามีบางส่วนของโครงสร้างที่เสร็จเกือบสมบูรณ์แล้วคือโครงสร้างช่วงปากคลองทางทิศตะวันตกของหาด โดยพบว่าเป็นโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบลาดเอียง เกือบทั้งหมดของโครงสร้างวางตัวลงบนชายหาด ในส่วนของโครงสร้างทางทิศตะวันออก หรือตัวโครงสร้างหลักป้องกันชายหาดนั้น พบว่ามีการตอกเสาเข็มลงไปบนชายหาดตลอดทั้งแนวแต่ยังไม่มีการขึ้นโครงสร้างกำแพงแต่อย่างใด แม้จะหมดสัญญาจ้างงานไปแล้วก็ตาม Beach Lover จะนำเสนอความคืบหน้าต่อในโอกาสถัดไป

Beachlover

July 26, 2024

LOANG BALOQ หาดทรายดำใจกลางเมือง Mataram

เมือง Mataram เป็นเมืองหลวงของเกาะ Lombok เกาะขนาดกลางทางทิศตะวันออกของประเทศ เป็นเมืองที่มีชายหาดอยู่ใจกลางเมือง แต่เป็นหาดสีดำ ไม่ได้เป็นหาดที่คนมาเล่นน้ำ ไม่มีที่พักริมทะเล ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดมากนัก ผู้คนท้องถิ่นมักมีนั่งพักผ่อน รับประทานอาหารช่วงเย็นถึงค่ำ เนื่องจากเป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมากของเมือง เหตุผลที่หาดแห่งนี้มีทรายเป็นสีดำสืบเนื่องมาจากการสะสมของแร่ธาตุภูเขาไฟ โดยเฉพาะแร่ธาตุที่มีสีเข้ม เช่น แร่แมกนีไทต์ (Magnetite) และแร่หินบะซอลต์ (Basalt) ที่ถูกกระแสน้ำและคลื่นทะเลพัดพามาสะสมอยู่ที่ชายหาด นอกจากนี้ การเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลก็สามารถสร้างหาดทรายสีดำได้เช่นกัน หาดทรายสีดำบนเกาะ Lombok นั้นนอกจากที่นี่แล้ว ยังมีอยู่อีกหลายแห่ง เช่น หาด Senggigi และหาด Malimbu ซึ่งเกิดจากลักษณะเดียวกันนี้ โดยมีต้นกำเนิดจากกิจกรรมภูเขาไฟที่มีอยู่มากมายในภูมิภาคนี้ เกาะ Lombok มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ เช่น ภูเขาไฟ Rinjani ซึ่งการระเบิดของภูเขาไฟเหล่านี้นำไปสู่การสะสมของแร่ธาตุภูเขาไฟที่มีสีดำ เช่น แมกนีไทต์และบะซอลต์ในทรายชายหาด ทรายสีดำโดยทั่วไปไม่มีผลเสียต่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส ในบางกรณี ทรายสีดำอาจมีแร่ธาตุบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น การช่วยขัดผิว หรือมีคุณสมบัติในการบำบัด แต่ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของทรายและแร่ธาตุในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในกรณีดังนี้: สำหรับหาดแห่งนี้และที่อื่นๆบนเกาะ Lombok ยังไม่พบรายงานเรื่องการระคายเคืองทางผิวหนังของผู้ใช้ชายหาดที่ได้สัมผัสทรายสีดำนี้

Beachlover

July 26, 2024

ทำไมต้นมะพร้าวริมทะเล เอนออกทะเล

ต้นมะพร้าวริมทะเลที่เอนเอียงออกทะเลนั้น เป็นภาพที่เราคุ้นเคยและเป็นสัญลักษณ์ของชายฝั่งเขตร้อน แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมต้นมะพร้าวเหล่านี้ถึงไม่ยืนต้นตรงเหมือนต้นไม้ทั่วไป คำตอบนั้นซ่อนอยู่ในปัจจัยทางธรรมชาติหลายประการ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและรูปทรงของต้นมะพร้าว หนึ่งในปัจจัยหลักคือการกัดเซาะของดินชายฝั่ง คลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินบริเวณชายหาดค่อยๆ สึกกร่อนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีพายุหรือมรสุมรุนแรง อาจทำให้ดินถูกกัดเซาะไปเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้ต้นมะพร้าวที่อยู่ใกล้ชายฝั่งสูญเสียฐานรากที่มั่นคง และค่อยๆ เอนเอียงออกทางทะเล นอกจากนี้ ทิศทางของแสงแดดก็มีบทบาทสำคัญ ต้นมะพร้าวมีลักษณะพิเศษคือใบจะหันไปทางที่มีแสงแดดมากที่สุด เพื่อให้ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่สำหรับกระบวนการสังเคราะห์แสง เนื่องจากบริเวณชายทะเลเปิดโล่งและมีแสงแดดส่องถึงมากกว่าทางด้านในแผ่นดิน ต้นมะพร้าวจึงมักจะเอนเอียงออกทางทะเลเพื่อให้ใบได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ แรงลมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ลมทะเลที่พัดเข้าหาฝั่งอย่างสม่ำเสมอ จะสร้างแรงกดต่อต้นมะพร้าว ทำให้ต้นมะพร้าวค่อยๆ เอนเอียงตามทิศทางของลม ซึ่งก็คือออกทางทะเลนั่นเอง ยิ่งบริเวณใดมีลมทะเลแรงมากเท่าไหร่ ต้นมะพร้าวก็จะยิ่งเอนเอียงมากขึ้นเท่านั้น นอกจากปัจจัยหลักเหล่านี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเอนเอียงของต้นมะพร้าว เช่น น้ำหนักของผลมะพร้าวที่ออกเป็นทะลาย หรือความเสียหายที่เกิดจากแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัจจัยหลักที่กล่าวมาข้างต้น คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้นมะพร้าวริมทะเลเอนเอียงออกทะเล แม้ว่าต้นมะพร้าวจะเอนเอียง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้นมะพร้าวจะอ่อนแอหรือไม่แข็งแรง ตรงกันข้าม ต้นมะพร้าวเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดี และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ การเอนเอียงของต้นมะพร้าวจึงเป็นเพียงการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ที่ทำให้ชายหาดเขตร้อนมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Beachlover

July 24, 2024

ทำไม สีของน้ำทะเลจึงแตกต่างกัน

สีสันของท้องทะเลที่เราเห็นนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สีฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีความหลากหลายราวกับจานสีของศิลปิน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำทะเลอันกว้างใหญ่ เริ่มจากปัจจัยแรกคือ แสง แสงแดดที่ส่องลงมาบนผิวน้ำทะเลประกอบด้วยแสงสีต่างๆ เมื่อแสงกระทบกับน้ำทะเล โมเลกุลของน้ำจะดูดกลืนแสงสีแดง ส้ม และเหลืองไว้ ทำให้แสงสีฟ้าและสีม่วงสามารถทะลุผ่านลงไปในน้ำได้ลึกกว่า และถูกกระเจิงกลับขึ้นมาสู่สายตาของเรา นี่คือเหตุผลที่ทำให้น้ำทะเลส่วนใหญ่มักมีสีฟ้า อย่างไรก็ตาม สีของน้ำทะเลไม่ได้มีแค่สีฟ้าเพียงอย่างเดียว สิ่งมีชีวิตในทะเล ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างสีสันอันหลากหลาย เช่น แพลงก์ตอนพืช ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีคลอโรฟิลล์ จะดูดกลืนแสงสีฟ้าและสีแดงเพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ทำให้ทะเลบริเวณที่มีแพลงก์ตอนพืชหนาแน่นมีสีเขียวอมฟ้า ส่วนสาหร่ายทะเลสีแดง ก็สามารถดูดกลืนแสงสีอื่นๆ ยกเว้นสีแดง ทำให้สะท้อนแสงสีแดงออกมา และทำให้ทะเลบริเวณนั้นมีสีแดง นอกจากนี้ สิ่งแขวนลอยในน้ำ ก็ส่งผลต่อสีของน้ำทะเลด้วย เช่น ตะกอนดิน ทราย หรือแม้แต่เศษซากสิ่งมีชีวิต จะทำให้น้ำทะเลมีสีขุ่นหรือสีน้ำตาล ยิ่งมีตะกอนมากเท่าไหร่ น้ำทะเลก็ยิ่งขุ่นมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากน้ำทะเลมีความใสสะอาดและไม่มีสิ่งเจือปนมากนัก แสงก็จะสามารถส่องผ่านลงไปได้ลึก ทำให้เรามองเห็นน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้ม ความลึกของน้ำ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อสีของน้ำทะเล ในบริเวณน้ำตื้น แสงแดดสามารถส่องลงไปถึงพื้นทะเลและสะท้อนกลับขึ้นมา ทำให้เรามองเห็นสีของพื้นทะเล เช่น สีขาวของทรายหรือสีเขียวของปะการัง แต่เมื่อน้ำลึกลงไป แสงแดดจะถูกดูดกลืนไปมากขึ้น ทำให้เรามองเห็นน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้ม และสุดท้าย สภาพอากาศ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสีของน้ำทะเลด้วยเช่นกัน ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส แสงแดดจะส่องลงมาในน้ำทะเลได้มาก ทำให้สีของน้ำทะเลสดใส แต่ในวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม แสงแดดจะส่องลงมาในน้ำทะเลได้น้อยลง ทำให้สีของน้ำทะเลดูหม่นหมอง จะเห็นได้ว่า สีของน้ำทะเลที่เราเห็นนั้นเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างซับซ้อน […]

Beachlover

July 22, 2024

รูปตัดชายหาด มีความสำคัญอย่างไร

รูปตัดชายหาด (Beach Profile) คือ ภาพตัดขวางของชายหาดที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะภูมิประเทศของชายหาด ตั้งแต่บริเวณหลังหาด (backshore) ไปจนถึงเขตน้ำขึ้นน้ำลง (foreshore) และในบางกรณีอาจหมายรวมไปถึงเขตไหล่ทวีป (offshore) รูปตัดชายหาด (Beach Profile) เปรียบเสมือน “ลายนิ้วมือ” ของชายหาดแต่ละแห่ง ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะตัวของหาดนั้นๆ ตั้งแต่เนินทรายด้านหลังหาดที่อาจมีพืชพรรณปกคลุม ไปจนถึงพื้นทรายที่เปียกชื้นในเขตน้ำขึ้นน้ำลง และลึกลงไปในทะเลจนถึงบริเวณไหล่ทวีป รูปตัดชายหาดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจและจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน 1. บันทึกการเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง: รูปตัดชายหาดเปรียบเสมือนไทม์แมชชีนที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงของหาดทรายในแต่ละช่วงเวลา เช่น ชายหาดหัวหินที่เคยกว้างขวาง อาจถูกกัดเซาะจนแคบลง หรือหาดในจังหวัดกระบี่ที่อาจมีตะกอนทับถมจนชายหาดขยายกว้างขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงสาเหตุและแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง เพื่อวางแผนป้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที 2. ออกแบบเกราะป้องกันชายฝั่ง: รูปตัดชายหาดเป็นเสมือนพิมพ์เขียวที่วิศวกรใช้ในการออกแบบโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง เช่น หากหาดทรายมีความลาดชันสูง อาจต้องใช้โครงสร้างที่แตกต่างไปจากหาดที่มีความลาดชันต่ำ การออกแบบที่เหมาะสมกับลักษณะของหาดจะช่วยให้การป้องกันมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า 3. ดูแลระบบนิเวศชายฝั่ง: รูปตัดชายหาดช่วยให้เราเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมของชายหาด เช่น หากหาดทรายมีความลาดชันน้อย อาจเป็นแหล่งอาศัยของหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและที่หลบภัยของสัตว์น้ำ หรือหากมีแนวปะการังอยู่ใกล้ชายฝั่ง รูปตัดชายหาดจะช่วยให้เราประเมินผลกระทบของคลื่นและตะกอนที่มีต่อแนวปะการังได้ 4. เตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: รูปตัดชายหาดช่วยให้เราประเมินความเสี่ยงและวางแผนรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ชายหาดที่มีเนินทรายสูงอาจได้รับผลกระทบน้อยกว่าหาดที่มีความลาดชันต่ำ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถเลือกใช้มาตรการรับมือที่เหมาะสม เช่น การเสริมเนินทราย การเติมทรายชายหาด หรือการย้ายถิ่นฐานชุมชน 5. […]

Beachlover

July 20, 2024

พาเดินอยู่ในวังวน ที่จุดชมวิวชายฝั่ง

ที่มา: https://www.facebook.com/artofth De Panne เป็นเมืองหนึ่งในประเทศเบลเยี่ยม ที่มีธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะชายหาดยาวและทุ่งหญ้าที่มาบรรจบกัน บริเวณชายหาดนี้จึงเหมาะมากในการสร้างแลนด์มาร์คสำคัญ Westerpunt คือจุดชมวิวที่ออกแบบโดย Studio Moto ตั้งอยู่ในจุดที่เชื่อมกับเมือง Dunkirk ของฝรั่งเศส ด้วยคอนเซปต์ที่ว่า ‘การเดินทางคือจุดหมาย’ หรืออาจเรียกได้ว่า ‘ไม่ว่าจุดหมายจะเป็นอะไร อย่าลืมมองเห็นคุณค่าของเรื่องราวระหว่างการเดินทาง’ โดยปกติแล้ว การเดินชมวิวริมหาดจะเป็นเส้นตรงยาว แต่ในคราวนี้เส้นทางนั้นถูกม้วน โดยเอาเส้นบันไดตรงมาหักมุม 108 องศา บรรจบกันกลายเป็นลูป และมีชานพักอยู่ที่ทุกมุม เมื่อเดินวนขึ้นลงไปเรื่อยๆ มุมมองทิวทัศน์ก็จะต่างออกไป ด้วยรูปทรงนี้ ทำให้ถึงแม้น้ำทะเลจะระดับสูงขึ้น ก็ยังสามารถเดินขึ้นไปได้อยู่เสมอ ผลงานนี้สร้างจากคอนกรีตที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องการการดูแลยุ่งยาก และสามารถตั้งอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง ตัวบันไดยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเสารับแรงอีกด้วย เรียกว่าทั้งหมด ทั้งรูปทรง โครงสร้าง และการใช้งาน กลายเป็นเรื่องเดียวกัน สีของคอนกรีตกลืนไปกับหาดทราย และด้วยลวดลายของแผ่นไม้แม่แบบคอนกรีต ก็ยังช่วยทำให้ผลงานดูมีรายละเอียดเป้นธรรมชาติ กลืนไปริ้วทราย ต้นหญ้าและเส้นขอบฟ้าอีกด้วย ราวกับสิ่งนี้ผุดขึ้นมาเองเลยทีเดียว

Beachlover

July 19, 2024

น้ำทะเลเค็มเหมือนกันหรือไม่

ความเค็มของน้ำทะเลไม่ได้คงที่ แต่มีความผันผวนและแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา โดยมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้ 1. สมดุลระหว่างการระเหยและการเติมน้ำจืด: 2. การไหลเวียนของกระแสน้ำ: 3. ลักษณะทางภูมิศาสตร์: 4. กิจกรรมของมนุษย์: ความแตกต่างของความเค็มในน้ำทะเลไม่เพียงแต่เป็นเรื่องน่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การประมง การเดินเรือ และการท่องเที่ยว ความเค็มของน้ำทะเลยังมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของสัตว์และพืชทะเล หากมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลได้

Beachlover

July 18, 2024

SBEACH (Storm-Induced BEAch CHange)

SBEACH (Storm-Induced BEAch CHange) เป็นแบบจำลองเชิงตัวเลข 1 มิติที่พัฒนาขึ้นโดย U.S. Army Corps of Engineers (USACE) เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงรูปร่างชายหาดที่เกิดจากพายุ โดยเฉพาะการกัดเซาะและการทับถมของทรายในช่วงที่มีพายุ SBEACH ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ชายฝั่งในการประเมินผลกระทบของพายุต่อแนวชายฝั่ง ทำให้สามารถวางแผนและออกแบบมาตรการป้องกันชายฝั่งได้อย่างเหมาะสม เช่น การสร้างเขื่อนกันคลื่น หรือการเติมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะ SBEACH (Storm-induced BEAch CHange) เป็นแบบจำลองเชิงตัวเลข ที่มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงของลักษณะภูมิประเทศ เช่น สันทรายและเนินทราย พัฒนาโดย Larson และ Kraus ในปี 1989 SBEACH ใช้แนวคิดสมดุลของรูปร่างชายหาด (Equilibrium Beach Profile) เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของสัณฐานวิทยาของชายหาดอันเนื่องมาจากคลื่นพายุและระดับน้ำ แบบจำลองนี้ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้ข้อมูลภาคสนามและการทดลองในห้องปฏิบัติการจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจำลองลักษณะภูมิประเทศขนาดใหญ่ของชายหาด รวมถึงสันทรายตามแนวยาวและการกัดเซาะของเนินทราย ข้อมูลป้อนเข้าหลักของ SBEACH ได้แก่ ความกว้างของเนินทราย เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยของเม็ดทราย ความลาดเอียงของชายหาด ระดับน้ำออกแบบ และสภาพคลื่น ในขณะที่ผลลัพธ์จะให้รายละเอียดพารามิเตอร์เกี่ยวกับการกัดเซาะของเนินทรายและการก่อตัวของสันทราย การศึกษาแสดงให้เห็นว่าคลื่นพายุที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดสันทรายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถลดพลังงานคลื่นและจำกัดการกัดเซาะของเนินทรายในภายหลัง ประสิทธิภาพของแบบจำลองในการทำนายการเปลี่ยนแปลงของชายหาดที่เกิดจากพายุได้รับการยืนยันจากการสังเกตภาคสนามและการจำลองเชิงตัวเลขต่างๆ […]

Beachlover

July 16, 2024

แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเล

แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น คลื่น กระแสน้ำ และการกระทำของมนุษย์ ซึ่งมีความหลากหลายและสามารถแบ่งประเภทตามวิธีการศึกษาและวัตถุประสงค์ได้ดังนี้ การเลือกใช้แบบจำลองขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการศึกษา ข้อมูลที่มีอยู่ และทรัพยากรที่สามารถจัดสรรได้ การทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละแบบจำลอง จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้แบบจำลองได้อย่างเหมาะสม และนำไปสู่การจัดการชายฝั่งที่ยั่งยืน

Beachlover

July 16, 2024
1 2 87