วิศวกรชายฝั่งทะเล มีหน้าที่อะไร

วิศวกรชายฝั่งทะเล เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลและพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้มีความมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมทางทะเลที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วิศวกรชายฝั่งทะเล มีหน้าที่หลักในการออกแบบ วางแผน และดูแลโครงสร้างและระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชายฝั่งทะเล เพื่อปกป้องชายฝั่งจากการกัดเซาะ พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้มีความมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมชายฝั่งทะเล: หน้าที่ของวิศวกรชายฝั่งทะเล ครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจและวิเคราะห์สภาพชายฝั่งอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อชายฝั่ง เช่น กระแสน้ำ คลื่น ลม พายุ และการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การสำรวจด้วยเสียง การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศ และแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างข้อมูลที่แม่นยำและครบถ้วน จากข้อมูลที่ได้ วิศวกรชายฝั่งจะทำการออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสมกับสภาพชายฝั่งนั้นๆ เพื่อป้องกันการกัดเซาะและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตัวอย่างโครงสร้างที่วิศวกรชายฝั่งอาจออกแบบ เช่น กำแพงกันคลื่น (Seawall) ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชายฝั่งจากคลื่นแรง รอดักทราย (Groin) ที่ช่วยดักทรายและป้องกันการพังทลายของชายหาด หรือเขื่อนกันคลื่นใต้น้ำ (Submerged Breakwater) ที่ช่วยลดความแรงของคลื่นก่อนเข้าถึงชายฝั่ง นอกจากการออกแบบโครงสร้างป้องกันแล้ว วิศวกรชายฝั่งยังมีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การออกแบบท่าเรือน้ำลึกสำหรับการขนส่งสินค้า การสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลเพื่อการเกษตร หรือการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่ง โดยสรุปแล้วหน้าที่หลักของวิศวกรชายฝั่งทะเลมีดังต่อไปนี้: การทำงานของวิศวกรชายฝั่งทะเล ไม่ได้จบแค่การออกแบบและก่อสร้าง […]

Beachlover

July 27, 2024

Managed realignment กลยุทธ์เพื่อการบริหารจัดการชายฝั่ง

Managed realignment-MR (หรือเรียกอีกอย่างว่า managed retreat) เป็นวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนแนวป้องกันชายฝั่งเดิมให้ถอยร่นเข้ามาในแผ่นดิน เพื่อให้พื้นที่ชายฝั่งเดิมกลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ เช่น ป่าชายเลน หรือหาดเลน Managed Realignment คือกลยุทธ์เพื่อการบริหารจัดการชายฝั่งแบบหนึ่ง เพื่อให้พื้นที่ชายฝั่งที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลงได้ปรับตัวได้ตามธรรมชาติตามธรรมชาติ โดยไม่มีการแทรกแซงหรือรบกวนจากภายนอก แนวทางนี้ได้รับความสนใจในยุโรปและอเมริกาเหนือในฐานะวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติสำหรับการกัดเซาะชายฝั่ง การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และการจัดการความเสี่ยงจากอุทกภัย หลักการสำคัญของ Managed Realignment: มีการเริ่มใช้ Managed Realignment ครั้งแรกในปี 1990 ที่เกาะ Northey ใน Essex และต่อมามีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีพื้นที่ที่ดำเนินการ Managed Realignment มากที่สุดในยุโรป จุดประสงค์ของ Managed Realignment คือการให้ประโยชน์หลายประการ ซึ่งรวมถึงการป้องกันน้ำท่วม การสร้างแหล่งที่อยู่อาศัย และการกักเก็บคาร์บอน ตัวอย่างเช่น Steart Marshes ในสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงอัตราการสะสมคาร์บอนที่สำคัญ โดยการสะสมของตะกอนมีส่วนทำให้เกิดการกักเก็บคาร์บอนในระดับสูง Managed Realignment มักประสบปัญหาความท้าทาย เช่น การต่อต้านจากชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียที่ดินที่มีค่า […]

Beachlover

July 12, 2024

โครงการสร้างเกาะเทียม อาจส่งผลอะไรบ้าง

โครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียม เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่พบได้ทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์หลากหลาย เช่น เพื่อการอยู่อาศัย การท่องเที่ยว หรือเพื่อสร้างพื้นที่อุตสาหกรรม การก่อสร้างเกาะเทียมเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่มีโครงการสำคัญในหลากหลายภูมิภาค ซึ่งแต่ละโครงการมีผลกระทบที่แตกต่างกันต่อสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ทางสังคมและการเมือง ในทะเลจีนใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้พัฒนาเกาะเทียมอย่างรวดเร็ว เพิ่มการควบคุมทางการเมืองเหนือภูมิภาค ในขณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก รวมถึงการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและระบบนิเวศ ในทำนองเดียวกัน ในช่องแคบ Qiongzhou การก่อสร้างเกาะเทียม Ruyi ได้เปลี่ยนแปลงสนามกระแสน้ำขึ้นน้ำลง และก่อให้เกิดการกัดเซาะและการทับถมของตะกอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผืนน้ำโดยรอบ ในอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างเกาะเทียม ด้วยโครงการต่างๆ เช่น Palm Jumeirah ในดูไบ ซึ่งได้ทำลายสิ่งมีชีวิตทางทะเล เพิ่มความขุ่นของน้ำ และรบกวนการเคลื่อนที่ของตะกอนตามธรรมชาติ แม้ว่าจะมีการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบ แล้วก็ตาม ในทะเลเหลืองตอนใต้ การก่อสร้างเกาะเทียม Xitaiyang Sand Shoal ได้รับการศึกษาถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางอุทกพลศาสตร์และตะกอน ซึ่งเผยให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันการกัดเซาะที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาเสถียรภาพของพื้นที่ นอกจากนี้ ใน Tang Shan Bay การก่อสร้างเกาะเทียมได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางอุทกพลศาสตร์และเปลี่ยนแปลงลักษณะของการกัดเซาะ-ทับถม โดยรวมแล้ว ในขณะที่เกาะเทียมเสนอผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจ เช่น ความมั่นคงด้านพลังงานของจีนในทะเลจีนใต้ แต่ก็ก่อให้เกิดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ซึ่งต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อระบบนิเวศทางทะเลและพลวัตของชายฝั่ง […]

Beachlover

July 10, 2024

เนินทรายชายฝั่ง…คุณค่าที่ไม่ควรถูกลืม

เนินทรายชายฝั่งมีบทบาทสำคัญยิ่งยวดต่อระบบนิเวศชายฝั่ง เนินทรายทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันทางธรรมชาติชั้นแรก ช่วยลดทอนความรุนแรงของคลื่นและพายุซัดฝั่ง อันเป็นการปกป้องชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายฝั่งจากภัยคุกคามทางธรรมชาติ นอกจากนี้ เนินทรายยังช่วยลดการกัดเซาะชายฝั่ง โดยโครงสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ตามธรรมชาติของเนินทรายช่วยกระจายพลังงานคลื่น ลดผลกระทบต่อชายฝั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนินทรายไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวป้องกันทางกายภาพ แต่ยังเป็นระบบนิเวศที่ซับซ้อนและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง พืชพรรณเฉพาะถิ่นที่ปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ทรายเคลื่อนตัวและมีความเค็มสูง ช่วยรักษาเสถียรภาพของเนินทรายและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ทั้งแมลง สัตว์เลื้อยคลาน นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากนี้ เนินทรายยังเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ระบบนิเวศของเนินทรายยังมีบทบาทสำคัญในการกรองน้ำฝนและน้ำท่า ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล ช่วยลดปริมาณมลพิษและสารอาหารส่วนเกิน อันส่งผลดีต่อคุณภาพน้ำทะเลและระบบนิเวศทางทะเลโดยรวม นอกเหนือจากคุณค่าทางนิเวศวิทยา เนินทรายยังมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น และเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงสำหรับเจ้าของที่ดินบริเวณชายฝั่ง การอนุรักษ์เนินทรายจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของชุมชนชายฝั่ง ด้วยเหตุนี้ เนินทรายจึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามหาศาล การทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับบทบาทที่หลากหลายของเนินทราย จะช่วยให้เราสามารถอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่านี้ได้อย่างยั่งยืน

Beachlover

June 30, 2024

ติดตามงานป้องกันชายฝั่ง หาดแม่รำพึง

หาดแม่รำพึง ตั้งอยู่ ณ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ เป็นหาดทรายยาวต่อเนื่อง 4.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากคลองแม่รำพึงทางทิศตะวันออกจนถึงคลองบางสะพานทางทิศตะวันตก Beach Lover เคยนำเสนอเรื่องราวของหาดแม่รำพึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการคัดค้านโครงการป้องกันชายฝั่งของกรมโยธาธิการและผังเมืองเมื่อต้นปี 2565 ติดตามได้จากโพสเก่าๆโดยการค้นหาคำว่า “หาดแม่รำพึง” จากช่อง search ด้านขวาบน ช่วงต้นเดือนมิถุนายน Beach Lover ได้มีโอกาสเดินเท้าสำรวจชายหาดแห่งนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง พบว่ามีการเปิดพื้นที่หน้าชายหาดขนาดใหญ่เพื่องานฐานรากของกำแพง โดยโครงสร้างที่กำลังก่อสร้างนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ตำแหน่ง และระยะงานก่อสร้าง (ความยาวโครงสร้าง) ไปตามมติของคณะทำงานที่ทาง จ.ประจวบฯ ได้ตั้งขึ้นโดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กล่าวโดยสรุปคือมีการปรับขนาดให้เล็กลงและขยับแนวโครงสร้างให้ประชิดฝั่งเพิ่มมากขึ้น เท่าที่เดินเท้าสำรวจพบว่ามีการเปิดพื้นที่ก่อสร้างในระยะแรกประมาณ 300 เมตร ตั้งแต่หน้าบางสะพานรีสอร์ทลงมาทางทิศใต้ของหาดถึงหน้าลานปูนสาธารณะของท้องถิ่น โดยมีการขุดทรายหน้าหาดออกเป็นระยะกว้างประมาณ 20 เมตร (แตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ) บางตำแหน่งมีการลงโครงสร้างไปบ้างแล้ว บางตำแหน่งลงเข็มพืด ในขณะอีกพื้นที่กำลังขุดหน้าหาดเพื่อทำการเปิดพื้นที่ทำงาน บางพื้นที่นำเสาเข็มมาวางรอไว้ น่าติดตามต่อไปว่า โครงการที่เคยเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนอย่างรุนแรง และคลี่คลายลงได้แล้วนั้น จะดำเนินงานต่อไปตามฉันทามติที่ได้ตกลงไว้ร่วมกันหรือไม่

Beachlover

June 25, 2024

Life Cycle Assessment (การประเมินวัฏจักรชีวิต, LCA) กับงานป้องกันชายฝั่งทะเล

Life Cycle Assessment (LCA) หรือ การประเมินวัฏจักรชีวิต สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานป้องกันชายฝั่งทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย LCA จะช่วยประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของโครงการป้องกันชายฝั่ง ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การก่อสร้าง การบำรุงรักษา ไปจนถึงการรื้อถอน LCA กับงานป้องกันชายฝั่งทะเล: ประโยชน์ของการใช้ LCA ในงานป้องกันชายฝั่งทะเล: ตัวอย่างการนำ LCA ไปใช้ในงานป้องกันชายฝั่งทะเล: สรุป: การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนางานป้องกันชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน โดย LCA ช่วยให้สามารถประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของโครงการ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเนื่องจากประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลยาวมากกว่า 3,000 กิโลเมตร และกำลังประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงในบางพื้นที่ การนำ LCA มาใช้ในการวางแผนและดำเนินโครงการป้องกันชายฝั่ง จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับชายฝั่งทะเลของประเทศไทย

Beachlover

June 25, 2024

หาดขั้นบันได ณ อ่าวน้อย

อ่าวน้อย เป็นหนึ่งในสามอ่าวของ จ.ประจวบฯ นับว่าเป็นอ่าวที่เล็กที่สุดในบรรดาสามอ่าวรองจาก อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว กล่าวคือมีความยาวชายหาดประมาณ 1.2 กิโลเมตร Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของอ่าวน้อยไปหลายครั้งแล้ว โดยพื้นที่อ่าวน้อยนั้นเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องคดีชายหาด โดยประชาชนฟ้องรัฐในคดีปกครอง ติดตามได้จากหมวดคดีชายหาด ต้นเดือน มิ.ย.2567 Beach Lover ได้กลับมาอ่าวน้อยอีกรอบในช่วงเวลาน้ำลงต่ำ พบว่า กำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดยังอยู่ในสภาพไม่แตกต่างจากเดิมตอนที่เสร็จใหม่ๆมากนัก เพียงแต่พบสนิมเหล็กบนราวรั้วกันตก บริเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างเฟสที่หนึ่ง  พบร่องรอยน้ำกระเซ็นข้ามโครงสร้างบนิเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้างทางทิศเหนือจนเกิดเป็นหลุดบ่อด้านหลังสันกำแพงกันคลื่นบางส่วน

Beachlover

June 24, 2024

แนวทางการแก้ปัญหาตามธรรมชาติ (Nature-Based Solutions – NbS) เพื่อป้องกันชายฝั่ง

ชุมชนชายฝั่งทะเลทั่วโลกเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์ ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น คลื่นที่รุนแรงขึ้น และการกัดเซาะชายฝั่ง กำลังสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศชายฝั่ง วิธีการแก้ปัญหาแบบดั้งเดิมที่ใช้ “โครงสร้างทางวิศวกรรม” เช่น กำแพงกันคลื่น และเขื่อนกันคลื่น พิสูจน์แล้วว่ามีราคาแพง รบกวนกระบวนการทางธรรมชาติของชายฝั่งระบบนิเวศ และมักไม่มีประสิทธิภาพในระยะยาว จึงเกิดแนวทางการแก้ปัญหาตามธรรมชาติ (Nature-Based Solutions – NbS) สำหรับการป้องกันชายฝั่ง ซึ่งกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น NbS นำเสนอแนวทางที่ยั่งยืนและครอบคลุมยิ่งขึ้นในการปกป้องชายฝั่งโดยอาศัยประโยชน์จากระบบนิเวศตามธรรมชาติ แนวคิดของ NbS เน้นการทำงานร่วมกับกระบวนการทางธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ในบริบทของการป้องกันชายฝั่ง NbS เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟู อนุรักษ์ หรือเลียนแบบระบบนิเวศตามธรรมชาติ เพื่อสร้างแนวกันชนป้องกันภัยพิบัติชายฝั่งระบบนิเวศเหล่านี้ ได้แก่ ป่าชายเลน หนองน้ำเค็ม ทุ่งหญ้าทะเล และแนวปะการัง มีหน้าที่ป้องกันชายฝั่งในหลายรูปแบบ พืชพันธุ์ชายฝั่งสามารถช่วยลดพลังงานคลื่น ดักตะกอน และรักษาเสถียรภาพของแนวชายฝั่ง แนวหอยนางรมสามารถลดทอนคลื่นและส่งเสริมการทับถมของตะกอน แนวปะการังที่สมบูรณ์ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติ ช่วยดูดซับพลังงานคลื่นและลดผลกระทบของคลื่นพายุ กลไกการป้องกันของ NbS NbS ทำงานโดยใช้กลไกการป้องกันตามธรรมชาติที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับระบบนิเวศเฉพาะ ตัวอย่างที่สำคัญบางประการ ได้แก่: ข้อดีของ NbS เมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการแก้ปัญหาแบบวิศวกรรม (Hard […]

Beachlover

June 21, 2024

กำแพงกันคลื่นหลากหลายแบบ ณ อ่าวประจวบ ช่วง ถ.ปิ่นอนุสรณ์

กำแพงกันคลื่น อ่าวประจวบบริเวณนีั (ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย) มีการดำเนินการสร้างและซ่อมแซมมาในหลายวาระโอกาส ด้วยโครงสร้างที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่ปี ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร บางส่วนของสันด้านบนกำแพง ถูกออกแบบให้กว้างและพัฒนาเป็นลานกิจกรรม ทางเดินออกกำลังกาย และทางจักรยาน จากการเดินเท้าสำรวจพบว่า มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นกำแพงแบบขั้นบันไดเหมือนกัน ก็มีลักษณะของขั้นบันไดที่แตกต่างกัน คาดว่าถูกสร้างในช่วงเวลาที่ต่างกัน และพบบางส่วนของโครงสร้างที่ชำรุดเสียหายบริเวณใกล้กับเขาตาม่องล่าย ซึ่งชาวบ้านมักใช้เป็นที่จอดเรือประมงขนาดเล็ก กำแพงกันคลื่นตลอดแนวตั้งแต่ปากคลองบางนางรม ถึง เขาตาม่องล่าย ที่เห็นอย่างหลากหลายรูปแบบนี้ ยามน้ำลงจะพบชายหาดด้านหน้ากำแพงอยู่บ้าง มากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละโซนพื้นที่

Beachlover

June 19, 2024

ไม่หลงเหลือความเป็นชายหาดแล้วที่คลองวาฬ

หาดคลองวาฬ เป็นชายหาดที่ติดกับอ่าวมะนาวมีคลองวาฬเชื่อมต่อกับทะเลสองฝั่งคลองเป็นป่าชายเลน  บริเวณหาดคลองวาฬเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีความเงียบสงบ ความยาวของหาดประมาณ 4 กม. เป็นชายหาดทรายผสมเลน มีร้านอาหาร ที่พัก   ชุมชนชายฝั่ง  โครงการป้องกันชายฝั่งบริเเวณนี้ในอดีตมีองค์ประกอบคือ (1)  เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่งยาว 300  ม. บนชายหาด สร้างเมื่อ ก.ย.2547 (2)  สวนสาธารณะบนชายหาดคลองวาฬ ซึ่งประกอบด้วยลานเอนกประสงค์   ถนนคอนกรีตเสริม  เหล็ก ลานจอดรถ รางระบายน้ำ    ทางดินถมพร้อมเกรดปรับแต่ง   พร้อมปรับภูมิทัศน์ ดำเนินการพร้อมเขื่อนป้องกันตลิ่งเมื่อปี  2547 (3)  เขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งแบบหินทิ้งจำนวน 11 ตัว ความยาวตัวละ 50 ม. จำนวน 5 ตัว และยาวตัวละ 100 ม. จำนวน 6 ตัว ตลอดแนวชายฝั่งยาวประมาณ 1.3 ก.ม. สร้างเมื่อปี 2548 แสดงดังรูปที่ 1 เมื่อมีการสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งชายหาดด้านหน้ากำแพงจะค่อยๆหดหายได้ เนื่องมาจากแรงปะทะของคลื่นที่วิ่งเข้ากระทบกำแพงแล้วสะท้อนออก ส่งผลให้ทรายด้านหน้ากำแพงถูกดึงหายออกไปด้านนอกฝั่ง ยังคงเห็นชายหาดโผล่พ้นน้ำบ้างยามน้ำลงบางครั้งเท่านั้น เรือประมงชาวบ้านที่เคยใช้พื้นที่ชายหาดเป็นที่จอดเรือจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แบบเดิม ในส่วนของเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งนั้น ได้ส่งผลให้คลื่นที่เข้ามาปะทะอ่อนกำลังลงด้านหลังเขื่อนกันคลื่นและเกิดการทับถมของตะกอนทรายด้านหลัง  ซึ่งทำให้ชายหาดระหว่างช่องเปิดของเขื่อนแต่ละตัวนั้นเกิดการกัดเซาะเว้าโค้งเป็นวงเสี้ยวพระจันทร์  พื้นที่ชายหาดด้านหน้าบริเวณที่มีการปรับภูมิทัศน์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันคลื่นนั้น สามารถมองเห็นหาดได้ยามน้ำลงบางครั้ง การขึ้นลงชายหาดเป็นไปได้ยากยิ่งเพราะต้องปีนข้ามสันและแนวลาดของกำแพงซึ่งอยู่สูงกว่าชายหาดมาก ส่วนในฤดูมรสุมคลื่นที่วิ่งเข้ามาปะทะกำแพงแนวดิ่งส่งผลให้มีน้ำทะเลกระเซ็นข้ามสันกำแพงขึ้นมาบนทางเดินริมกำแพงบ้าง แสดงดังรูปที่ […]

Beachlover

June 17, 2024
1 2 31