โครงการสร้างเกาะเทียม อาจส่งผลอะไรบ้าง

โครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียม เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่พบได้ทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์หลากหลาย เช่น เพื่อการอยู่อาศัย การท่องเที่ยว หรือเพื่อสร้างพื้นที่อุตสาหกรรม

การก่อสร้างเกาะเทียมเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่มีโครงการสำคัญในหลากหลายภูมิภาค ซึ่งแต่ละโครงการมีผลกระทบที่แตกต่างกันต่อสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ทางสังคมและการเมือง ในทะเลจีนใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้พัฒนาเกาะเทียมอย่างรวดเร็ว เพิ่มการควบคุมทางการเมืองเหนือภูมิภาค ในขณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก รวมถึงการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและระบบนิเวศ ในทำนองเดียวกัน ในช่องแคบ Qiongzhou การก่อสร้างเกาะเทียม Ruyi ได้เปลี่ยนแปลงสนามกระแสน้ำขึ้นน้ำลง และก่อให้เกิดการกัดเซาะและการทับถมของตะกอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผืนน้ำโดยรอบ

ในอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างเกาะเทียม ด้วยโครงการต่างๆ เช่น Palm Jumeirah ในดูไบ ซึ่งได้ทำลายสิ่งมีชีวิตทางทะเล เพิ่มความขุ่นของน้ำ และรบกวนการเคลื่อนที่ของตะกอนตามธรรมชาติ แม้ว่าจะมีการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบ แล้วก็ตาม

โครงการถมทะเล The World เมืองดูไบ ที่มา: https://www.bbc.com/thai/articles/c3gg18lnre5o

ในทะเลเหลืองตอนใต้ การก่อสร้างเกาะเทียม Xitaiyang Sand Shoal ได้รับการศึกษาถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางอุทกพลศาสตร์และตะกอน ซึ่งเผยให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันการกัดเซาะที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาเสถียรภาพของพื้นที่ นอกจากนี้ ใน Tang Shan Bay การก่อสร้างเกาะเทียมได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางอุทกพลศาสตร์และเปลี่ยนแปลงลักษณะของการกัดเซาะ-ทับถม

โดยรวมแล้ว ในขณะที่เกาะเทียมเสนอผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจ เช่น ความมั่นคงด้านพลังงานของจีนในทะเลจีนใต้ แต่ก็ก่อให้เกิดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ซึ่งต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อระบบนิเวศทางทะเลและพลวัตของชายฝั่ง

ตัวอย่างโครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียมที่สำคัญทั่วโลก:

  • ปาล์ม จูเมราห์, ดูไบ: โครงการเกาะเทียมรูปต้นปาล์มที่โด่งดัง เป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่อยู่อาศัยระดับหรู

โครงการถมทะเล The Palm เมืองดูไบ ที่มา: https://www.expedia.co.th/Dubai-Palm-Jumeirah.dx6085142

ผลกระทบของโครงการถมทะเล:

โครงการถมทะเลมีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ ดังนี้:

ผลกระทบเชิงบวก:

  • เพิ่มพื้นที่: สร้างพื้นที่ใหม่สำหรับการอยู่อาศัย การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม
  • กระตุ้นเศรษฐกิจ: สร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และการลงทุน
  • พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ เช่น ถนน สะพาน และระบบสาธารณูปโภค

ผลกระทบเชิงลบ:

  • ทำลายระบบนิเวศทางทะเล: การถมทะเลส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง สัตว์ทะเล และพืชทะเล ทำให้สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
  • การกัดเซาะชายฝั่ง: อาจทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในบริเวณใกล้เคียง
  • มลพิษทางน้ำ: การก่อสร้างและการดำเนินกิจกรรมบนเกาะเทียมอาจก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การถมทะเลอาจมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โครงการถมทะเล สนามบินฮ่องกง ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เกาะเช็กล้าปก๊อก

สำหรับประเทศไทย:

ในประเทศไทย แม้ยังไม่มีโครงการถมทะเลขนาดใหญ่เพื่อสร้างเกาะเทียม อย่างไรก็ตาม มีโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลอื่นๆอย่างเช่น ท่าเทียบเรือและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ท่าเรือน้ำลึกสงขลา จ.สงขลา ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้คล้ายกับการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียม

โครงการถมทะเล ท่าเทียบเรือและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง
ที่มา: https://www.tcijthai.com/news/2021/6/current/11702

โครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียมเป็นโครงการที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การดำเนินโครงการดังกล่าวควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน