ไม่หลงเหลือความเป็นชายหาดแล้วที่คลองวาฬ

หาดคลองวาฬ เป็นชายหาดที่ติดกับอ่าวมะนาวมีคลองวาฬเชื่อมต่อกับทะเลสองฝั่งคลองเป็นป่าชายเลน  บริเวณหาดคลองวาฬเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง มีความเงียบสงบ ความยาวของหาดประมาณ 4 กม. เป็นชายหาดทรายผสมเลน มีร้านอาหาร ที่พัก   ชุมชนชายฝั่ง 

โครงการป้องกันชายฝั่งบริเเวณนี้ในอดีตมีองค์ประกอบคือ (1)  เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่งยาว 300  ม. บนชายหาด สร้างเมื่อ ก.ย.2547 (2)  สวนสาธารณะบนชายหาดคลองวาฬ ซึ่งประกอบด้วยลานเอนกประสงค์   ถนนคอนกรีตเสริม  เหล็ก ลานจอดรถ รางระบายน้ำ    ทางดินถมพร้อมเกรดปรับแต่ง   พร้อมปรับภูมิทัศน์ ดำเนินการพร้อมเขื่อนป้องกันตลิ่งเมื่อปี  2547 (3)  เขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งแบบหินทิ้งจำนวน 11 ตัว ความยาวตัวละ 50 ม. จำนวน 5 ตัว และยาวตัวละ 100 ม. จำนวน 6 ตัว ตลอดแนวชายฝั่งยาวประมาณ 1.3 ก.ม. สร้างเมื่อปี 2548 แสดงดังรูปที่ 1

เมื่อมีการสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งชายหาดด้านหน้ากำแพงจะค่อยๆหดหายได้ เนื่องมาจากแรงปะทะของคลื่นที่วิ่งเข้ากระทบกำแพงแล้วสะท้อนออก ส่งผลให้ทรายด้านหน้ากำแพงถูกดึงหายออกไปด้านนอกฝั่ง ยังคงเห็นชายหาดโผล่พ้นน้ำบ้างยามน้ำลงบางครั้งเท่านั้น เรือประมงชาวบ้านที่เคยใช้พื้นที่ชายหาดเป็นที่จอดเรือจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แบบเดิม ในส่วนของเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งนั้น ได้ส่งผลให้คลื่นที่เข้ามาปะทะอ่อนกำลังลงด้านหลังเขื่อนกันคลื่นและเกิดการทับถมของตะกอนทรายด้านหลัง  ซึ่งทำให้ชายหาดระหว่างช่องเปิดของเขื่อนแต่ละตัวนั้นเกิดการกัดเซาะเว้าโค้งเป็นวงเสี้ยวพระจันทร์ 

พื้นที่ชายหาดด้านหน้าบริเวณที่มีการปรับภูมิทัศน์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันคลื่นนั้น สามารถมองเห็นหาดได้ยามน้ำลงบางครั้ง การขึ้นลงชายหาดเป็นไปได้ยากยิ่งเพราะต้องปีนข้ามสันและแนวลาดของกำแพงซึ่งอยู่สูงกว่าชายหาดมาก ส่วนในฤดูมรสุมคลื่นที่วิ่งเข้ามาปะทะกำแพงแนวดิ่งส่งผลให้มีน้ำทะเลกระเซ็นข้ามสันกำแพงขึ้นมาบนทางเดินริมกำแพงบ้าง แสดงดังรูปที่ 2 

เพราะการมีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งมากมายบริเวณนี้ ส่งผลให้กระแสน้ำเปลี่ยนแปลงทิศทางและไหลช้าลงเนื่องจากการวางตัวกีดขวางการไหลของน้ำและตะกอนชายฝั่งของโครงสร้างต่างๆ ส่งผลให้ชายหาดทรายบางส่วนกลายสภาพเป็นเลนจอดเรือลำบากไม่สวยงามและไม่สามารถเล่นน้ำได้เหมือนในอดีต ทั้งยังมีผลต่อระบบนิเวศสัตว์หน้าดินด้วย แสดงดังรูปที่ 3  ส่วนชายหาดที่อยู่ด้านหลังเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งแบบหินทิ้ง ณ ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นกำแพงกันคลื่นแบบหินทิ้งเกือบตลอดทั้งแนวชายหาดแล้ว เนื่องมาจากการกัดเซาะที่เกิดจากอิทธิพลของกำแพงกันคลื่นนอกชายฝั่งนี้แสดงดังรูปที่ 4

ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 Beach Lover ได้ลงพื้นที่สำรวจหาดนี้อีกรอบในช่วงน้ำลง พบว่าพื้นท้องทะเลในฤดูกาลนี้กลายเป็นตะกอนเลนจนหมด และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เล็กน้อย

และยังพบงานก่อสร้างบางส่วนของหาด ที่ไม่แน่ใจว่าเป็นของหน่วยงานใดเนื่องจากไม่มีป้ายประชาสัมพันธ์

น่าติดตามต่อไปว่า จะมีโครงสร้างรูปแบบใดเกิดขึ้นอีกบนชายหาดที่มีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งละลานตาแบบนี้