จากเรื่องราวของชายหาดชะอำที่ Beach Lover ได้เคยนำเสนอไปหลายครั้งแล้ว (ค้นเรื่องราวเดิมๆ โดยใช้คำว่า “ชะอำ” ได้จาก Search icon มุมขวาบน) ครั้งนี้ ขอพาชมภาพมุมสูงของชายหาดชะอำเหนือ และ ชะอำใต้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ให้ได้เทียบกันแบบชัดๆ
หาดชะอำเหนือมีระยะทางประมาณ 2.58 กิโลเมตร ยังคงสภาพเป็นหาดทรายตามธรรมชาติ มีการใช้ถุงทราย ก้อนหิน มาป้องกันเฉพาะพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะในบางฤดู และไม่พบการมีอยู่ของโครงสร้างป้องกันชายฝั่งขนาดใหญ่ ร่มเตียงของผู้ประกอบการสามารถวางบนชายหาดได้เลย
ส่วนหาดชะอำใต้นั้น อดีตเคยเป็นหาดทรายยาว ระยะทางประมาณ 2.97 กิโลเมตร ต่อมาได้มีการสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ดำเนินการโครงการนี้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยงบประมาณรวม 226.437 ล้านบาท ปัจจุบัน (ต.ค.2565) โครงสร้างหลักนั้นสร้างเสร็จแล้วทุกเฟส เหลือเพียงงานเก็บรายละเอียดพื้นผิวบางส่วนเท่านั้น ร่มเตียงของผู้ประกอบการต้องวางบนพื้นที่ด้านในถัดจากสันกำแพง
หากเดินสำรวจตามแนวด้านในถนนจะพบว่า นักท่องเที่ยวแถบชายหาดชะอำใต้นั้นหนาแน่นน้อยกว่าฝั่งชะอำเหนือเป็นอย่างมาก ทั้งการลงเล่นน้ำ และการนั่งพักทานอาหารริมทะเล ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่มีความคึกคักกว่านี้เป็นอย่างมาก
จากภาพมุมสูง (สองภาพแรกด้านบน) ที่ถ่ายในช่วงเวลาเดียวกัน (ต่างกันไม่เกิน 1 นาที) คือเวลา 14:54 น. ของวันที่ 25 ต.ค.2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างน้ำลงเต็มที่ (10:53 น.) และน้ำขึ้นเต็มที่ (16:43 น.) ของวันคืนเดือนมืดซึ่งเป็นวันน้ำเกิด (Spring tide) (https://oceanservice.noaa.gov/facts/springtide.html) พอดี แม้จะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่น้ำขึ้นสูงสุด ก็พบความแตกต่างของพื้นที่ชายหาดอย่างชัดเจน
โดยพบว่า หาดแถบชะอำใต้ที่มีกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดนั้น ไม่หลงเหลือชายหาดด้านหน้ากำแพงเลยเมื่อเทียบกับชายหาดชะอำเหนือ ที่แม้จะมีการตั้งร่มเตียงล้ำลงมาบนชายหาด ก็ยังคงหลงเหลือพื้นที่ชายหาดให้ได้นั่งเล่นทรายอยู่บ้าง
นี่… เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลกระทบจากโครงการนี้โดยตรง?
นี่… เป็นสิ่งที่ต้องแลกกับการอยู่รอดปลอดภัยจากการกัดเซาะชายฝั่ง?
นี่… คือสิ่งที่เราต้องยอมรับเพราะไม่มีทางเลือกอื่น?
หรือ… นี่… เป็นผลจากการที่รัฐไม่เสนอทางเลือกอื่นที่เป็นมิตรกว่านี้กันแน่!