เราศึกษาผลกระทบของกำแพงกันคลื่นกันอย่างไร

การเลือกมาตรการป้องกันโดยใช้โครงสร้างทางวิศวกรรมควรเลือกเฉพาะพื้นที่ที่มีความจำเป็นมากทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรม โดยพิจารณาทางเลือกอื่นๆประกอบการพิจารณา หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างได้ ควรใช้อย่างจำกัดที่สุด และเลือกรูปแบบที่รบกวนกระบวนการธรรมชาติให้น้อยที่สุดเท่านั้น   โครงสร้างกำแพงกันคลื่นเป็นทางเลือกเพื่อการป้องกันชายฝั่งทะเลที่นิยมใช้กันมากในยุคปัจจุบัน โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบมักระบุว่าเป็นแนวทางเลือกที่ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการป้องกันชายฝั่งในหลายๆพื้นที่เห็นพ้องต้องกันมากที่สุด เช่น หาดมหาราช หาดม่วงงาม จ.สงขลา หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ส่วนหนึ่งของคำอธิบายโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อประกอบการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมีดังนี้ (1) ก่อสร้างได้ง่าย และรวดเร็วกว่าโครงสร้างประเภทอื่นๆ (2) เป็นโครงสร้างทางทะเลที่ไม่ต้องจัดทำรายการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ณ เวลานั้น ซึ่งเป็นช่วงก่อนปี 2566 ที่การก่อสร้างกำแพงกันคลื่นไม่ต้องจัดทำ EIA) ยิ่งส่งผลให้กระบวนการใช้ระยะเวลาสั้นลงกว่ารูปแบบอื่น (3) ง่ายต่อการบำรุงรักษาเพราะเป็นโครงสร้างประชิดชายฝั่ง  (4) พื้นที่บนสันกำแพงและด้านหน้าสามารถใช้เป็นพื้นที่สาธารณะและปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ (5) พื้นที่ด้านหลังกำแพงปลอดภัยจากการการกัดเซาะชายฝั่ง ข้อเท็จจริงตามทฤษฎีคือ โครงสร้างกำแพงกันคลื่นมีลักษณะเป็นกําแพงวางตัวตามแนวประชิดและขนานชายฝั่ง เพื่อรับแรงปะทะจากคลื่น ทำหน้าที่ตรึงแนวชายฝั่งให้อยู่กับที่ ช่วยรักษาเสถียรภาพของพื้นที่บริเวณริมชายฝั่งด้านหลังกำแพงกันคลื่นไม่ให้ถูกกัดเซาะ แต่ไม่ช่วยป้องกันพื้นที่ชายหาดบริเวณด้านหน้ากำแพงกันคลื่น และบริเวณข้างเคียง บริเวณชายฝั่งที่มีปัญหาการกัดเซาะพบว่าชายหาดด้านหน้ากำแพงกันคลื่นจะมีขนาดแคบลง และมักจะหายไปในที่สุดถ้าตะกอนบริเวณชายฝั่งมีปริมาณไม่เพียงพอ โดยจะออกแบบไปเป็นรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเชิงพื้นที่ทั้งในแง่ของลักษณะทางกายภาพ กระบวนการทางชายฝั่ง การยอมรับของประชาชน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และงบประมาณ  กำแพงกันคลื่นทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างน้ำและตะกอนทรายรวมไปถึงคลื่นและกระแสน้ำ ไม่เหมือนเดิมกับชายหาดธรรมชาติในส่วนที่ไม่มีโครงสร้างกำแพงกันคลื่น ดังนั้นพื้นที่ชายฝั่งและบริเวณข้างเคียงกำแพงกันคลื่นจึงจะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่มีโครงสร้างกำแพงกันคลื่น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตามอ่านเพิ่มเติมได้จากโพส กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้ หากเราจะศึกษาผลกระทบของกำแพงกันคลื่นที่สร้างไปแล้ว เราต้องทำยังไง? […]

Beachlover

February 14, 2025

สำรวจปลายสุดกำแพงหาดชะอำใต้

Beach Lover พาชมหาดชะอำ จ.เพชรบุรี มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนสร้างกำแพงกันคลื่น ระหว่างงานก่อสร้าง จน กำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดแล้วเสร็จ มาเมื่อหลายปีก่อน สามารถหาอ่านได้จากโพสเก่าๆ วันนี้ขอพาเดินสำรวจสภาพชายหาดทางทิศใต้ของกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได ซึ่งเป็นปลายสุดของระยะสุดท้ายของโครงการกันบ้าง โดยอันที่จริงแล้วพื้นที่บริเวณโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดระยะสุดท้ายที่ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น ในอดีตมีกำแพงกันคลื่นแบบตั้งตรงเกือบตลอดทั้งแนวแล้ว น่าตั้งคำถามว่าเหตุผลใดจึงต้องสร้างโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทับลงบนพื้นที่ที่มีโครงสร้างเดิมอยู่แล้ว และไม่มีร่องรอยความเสียหายอย่างรุนแรงจนต้องซ่อมแซมด้วย พื้นที่ทางทิศใต้ของกำแพงกันคลื่นหาดชะอำใต้นั้น เป็นชายหาดทรายค่อนข้างตรงยาวประชิดด้วยพื้นที่เอกชน ไม่มีพื้นที่หรือถนนสาธารณะเหมือนดังเช่นหาดชะอำเหนือและใต้ ผู้ใช้ประโยชน์ชายหาดคือนักท่องเที่ยวต้องตั้งใจเดินเท้ามาเท่านั้นหรือไม่ก็พักอยู่บริเวณรีสอร์ทแถบนี้ พบร่องรอยการกัดเซาะเล็กน้อยโดยพบหินทิ้งวางระเกะระกะตามแนวชายฝั่งประมาณ 60 เมตร และถุงปูนซีเมนต์ที่ถูกทำให้แข็งและวางอยู่ประชิดหาดความยาวตลอดแนวประมาณ 60 เมตร ถัดจากนั้นลงมาทางใต้เป็นพื้นที่รกร้างยังไม่มีการใช้ประโยชน์และพบกำแพงกันดินขนาดเล็ก โดยไม่พบร่องรอยของการกัดเซาะใดๆ แม้โดยภาพรวมพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นทิศเหนือน้ำ (Up-drift) ซึ่งเป็นด้านที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงกันคลื่นค่อนข้างน้อย แต่พบร่องรอยความพยายามป้องกันเขตที่ดินของเอกชนอยู่บ้าง คาดว่าอาจถูกกัดเซาะในบางฤดูกาล มีระยะทางประมาณ 120 เมตร

Beachlover

February 7, 2025

กำแพงแนวดิ่ง หรือ กำแพงหินเรียง ?

Beach Lover เน้นย้ำไว้ในหลายโพสเสมอว่า การใช้มาตรการ“กำแพงกันคลื่น” เพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง ควรเป็นทางเลือกท้ายๆ และควรใช้ยามจำเป็นเท่านั้น แต่หากจำเป็นต้องเลือกใช้ “กำแพงกันคลื่น” เพื่อลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ทั้งในเชิงเทคนิค เศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และการบำรุงรักษาในระยะยาว ในโพสนี้ Beach Lover ชวนเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยของกำแพงกันคลื่นสองรูปแบบคือ คอนกรีตเสริมเหล็กแบบตั้งตรง ที่มักพบเห็นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะงานก่อสร้างในอดีตที่องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมชายฝั่งทะเลยังไม่กว้างขวาง และอีกแบบคือแบบหินทิ้ง ที่กรมเจ้าท่าและกรมโยธาธิการและผังเมืองนิยมใช้กันในปัจจุบัน สรุปข้อมูลเปรียบเทียบเบื้องต้นได้ดังนี้ กำแพงกันคลื่นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบตั้งตรง: เป็นกำแพงแนวดิ่ง (Vertical) หรือกำแพงโค้ง (Curved/Fender Wall) ที่ออกแบบมาให้รับแรงกระแทกของคลื่นโดยตรง และสะท้อนกลับไปสู่ทะเล ภายในโครงสร้างมักเสริมเหล็กและคอนกรีตให้ได้ความแข็งแรงเพียงพอต่อแรงกระแทก (อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://beachlover.net/concrete-seawall-1/) กำแพงกันคลื่นหินเรียง: ตัวโครงสร้างหลักมักทำจากหินธรรมชาติหลายขนาด วางซ้อนกันเป็นชั้นเพื่อลดพลังงานของคลื่น หินเกราะด้านนอกต้องเป็นหินขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นหินชั้นในที่มีขนาดย่อมลงมา โครงสร้างมักมีชั้นกรอง (Filter Layer หรือ Geotextile) เพื่อป้องกันการพังทลายของดินหรือทรายใต้โครงสร้าง (อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://beachlover.net/rubble-mound-seawall/) แล้วแบบไหน ป้องกันพื้นที่ด้านในได้ดีกว่ากัน สามารถเปรียบเทียบได้ใน 3 ประเด็นหลักได้แก่ 1.ความสามารถในการต้านทานและลดพลังงานคลื่น โครงสร้างแบบหินเรียง […]

Beachlover

January 31, 2025

กำแพงกันคลื่นควรสูงเท่าไหร่?

ในการออกแบบกำแพงกันคลื่นป้องกันชายฝั่งให้ได้ความสูง (Crest Height) ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ด้านใน สิ่งสำคัญคือจะต้องพิจารณาความสูงของคลื่นที่อาจซัดข้ามโครงสร้าง (Overtopping) เป็นหลัก ซึ่งค่าความสูงของสันโครงสร้าง โดยทั่วไปมักจะกำหนดจากปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่ โดยทั่วไปแนวทางปฏิบัติจะเริ่มจากการคำนวณ Wave Run-up บนหน้าตัดโครงสร้างที่กำหนด จากนั้นเผื่อ Freeboard เพื่อให้ปริมาณน้ำที่ข้ามโครงสร้างสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จึงได้ความสูงที่เหมาะสมในการป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ด้านในอย่างมีประสิทธิภาพ

Beachlover

January 29, 2025

การใช้ Geotextile กับกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงหรือหินทิ้ง

Geotextile คือวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายผ้าซึ่งผลิตจากพอลิเมอร์สังเคราะห์ เช่น โพลีโพรพิลีน (Polypropylene) หรือโพลีเอสเตอร์ (Polyester) Geotextile มีคุณสมบัติพิเศษคือ มีความซึมผ่านได้ (permeable) มีความแข็งแรงทนทานสูง น้ำหนักเบา และทนต่อการย่อยสลายทางชีวภาพ จึงสามารถนำมาใช้ร่วมกับโครงสร้างทางวิศวกรรมอื่นๆอย่างแพร่หลาย การใช้ Geotextile ร่วมกับกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงหรือหินทิ้ง มีวัตถุประสงค์เพื่อ คุณสมบัติของ Geotextile ที่ควรใช้ในกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียงหรือหินทิ้ง ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม การใช้ Geotextile ร่วมกับหินทิ้งหรือหินเรียงจะช่วยสร้างโครงสร้างป้องกันชายฝั่งที่มั่นคงและทนทานมากขึ้น โดย Geotextile จะทำหน้าที่เป็นชั้นกรองและป้องกันการกัดเซาะ ในขณะที่หินจะช่วยป้องกันแรงกระทำจากคลื่นและกระแสน้ำ การผสมผสานวัสดุทั้งสองนี้จะช่วยลดพลังงานคลื่นและผลกระทบจากพายุ ทำให้โครงสร้างมีความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น กรมเจ้าท่า มักจะกำหนดมาตรฐานของหน่วยงานเพื่อให้ผู้รับเหมาได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมกับความต้องการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Beachlover

January 24, 2025

ทำความรู้กำแพงกันคลื่นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก

กำแพงกันคลื่นเป็นโครงสร้างที่วางประชิดและขนานกับชายฝั่ง เพื่อรับแรงปะทะจากคลื่นทำให้พื้นที่ด้านหลังกำแพงกันคลื่นไม่ถูกกัดเซาะ การใช้มาตรการกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง ควรเป็นทางเลือกท้ายๆ และควรใช้ยามจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องเลือกกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันชายฝั่ง ก็ยังมีหลายรูปแบบของกำแพงให้พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ งบประมาณ และอื่นๆ Beach Lover ขอพาทำความรู้จักกับกำแพงกันคลื่นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยทั่วไปพบเห็นได้ 4 แบบหลักๆคือ ตั้งตรง ลาดเอียง ขั้นบันได และแบบโค้ง ที่ออกแบบมาให้รับแรงกระแทกของคลื่นโดยตรง และสะท้อนกลับออกสู่ทะเล ภายในโครงสร้างมักเสริมเหล็กและคอนกรีตให้ได้ความแข็งแรงเพียงพอต่อแรงกระแทก ข้อดี ประหยัดพื้นที่โดยเฉพาะกำแพงแบบแนวดิ่งซึ่งใช้พื้นที่ด้านหน้าโครงสร้างน้อยกว่าแบบหินเรียงและแบบกระสอบทราย ซึ่งต้องการความลาดเอียงเพื่อเสถียรภาพของโครงสร้าง หรือแม้แต่กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กแบบลาดเอียง ก็สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ที่จำกัดได้ง่ายกว่าแบบอื่นๆที่ต้องใช้ความลาดที่เหมาะสมเพื่อเสถียรภาพของโครงสร้าง นอกจากนี้พื้นด้านบนยังออกแบบให้รองรับกิจกรรมอื่นได้ง่ายกว่า สามารถพัฒนาเป็นทางเดิน ทางจักรยาน หรือพื้นที่สาธารณะริมทะเลได้ และเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว หากโครงสร้างแข็งแรงได้มาตรฐาน การซ่อมบำรุงอาจทำได้สะดวก (แต่หากมีการสึกกร่อนของเหล็กในระยะยาว จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง) ข้อจำกัด ส่งผลให้คลื่นสะท้อนกลับทะเลในอัตราที่สูงกว่าแบบอื่น โดยเฉพาะหากใช้โครงสร้างที่ตันและทึบน้ำ คลื่นจะถูกดูดซับพลังงานได้น้อยกว่า ทำให้เกิดการกัดเซาะบริเวณฐานของกำแพงเอง หรือท้ายโครงสร้างในระยะยาวได้มากกว่า และหากพื้นดินมีการทรุดตัว ไม่สม่ำเสมอ หรือโดนกัดเซาะใต้ฐาน (Scour) อาจทำให้โครงสร้างมีโอกาสพังได้รวดเร็ว เพราะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าแบบอื่น ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำแพงกันคลื่นได้จาก “กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้” รวมถึงโพสอื่นๆจาก Beach Lover โดยใช้ไอคอน Search […]

Beachlover

January 22, 2025

ทำความรู้จัก กำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง (Rubble mound)

กำแพงกันคลื่นเป็นโครงสร้างที่วางประชิดและขนานกับชายฝั่ง เพื่อรับแรงปะทะจากคลื่นทำให้พื้นที่ด้านหลังกำแพงกันคลื่นไม่ถูกกัดเซาะ การใช้มาตรการกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง ควรเป็นทางเลือกท้ายๆ และควรใช้ยามจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องเลือกกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันชายฝั่ง ก็ยังมีหลายรูปแบบของกำแพงให้พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ งบประมาณ และอื่นๆ Beach Lover ขอพาทำความรู้จักกับกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง ซึ่งสามารถพบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยกว่า และใช้งบประมาณน้อยกว่ากำแพงแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ตัวโครงสร้างหลักมักทำจากหินธรรมชาติหลายขนาด วางซ้อนกันเป็นชั้นเพื่อลดพลังงานของคลื่น หินเกราะด้านนอกต้องเป็นหินขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นหินชั้นในที่มีขนาดย่อมลงมา โครงสร้างมักมีชั้นกรอง (Filter Layer หรือ Geotextile) เพื่อป้องกันการพังทลายของดินหรือทรายใต้โครงสร้าง โดยมีวิธีการคำนวณขนาดและปริมาณหินตามคู่มือทางวิศวกรรมชายฝั่งทะเลอย่างชัดเจน ข้อดี ลดการสะท้อนคลื่นได้พอสมควร เนื่องจากมีพื้นผิวที่ไม่เรียบและลาดเอียง ทำให้พลังงานคลื่นถูกดูดซับและแตกตัวได้มากกว่ากำแพงแบบคอนกรีตแนวดิ่ง และมีสามารถปรับตัวได้ยืดหยุ่น หมายความว่า ถ้าเกิดการเคลื่อนตัวของฐานราก หรือมีการกัดเซาะใต้ฐาน กองหินยังสามารถปรับตัวตามสภาพดินได้ในระดับหนึ่ง ไม่พังทีเดียวทั้งหมดเหมือนโครงสร้างแข็ง นอกจากนี้ต้นทุนวัสดุอาจถูกกว่า (ในกรณีที่ใกล้แหล่งหิน) และสามารถประยุกต์ใช้หินในพื้นที่ เพื่อลดค่าขนส่งได้ ข้อจำกัด ใช้พื้นที่มากเนื่องจากโครงสร้างแนวลาดเอียง มักต้องกินพื้นที่หน้าหาดไปพอสมควร และไม่สามารถใช้งานเดินผ่านได้สะดวก (หากต้องการพื้นที่ใช้สอยด้านบน หรือทำกิจกรรมพักผ่อน) หากออกแบบไม่ดี หรือใช้หินไม่เหมาะสม อาจดูไม่เป็นระเบียบ และไม่ได้สวยงามตามการท่องเที่ยวชายฝั่ง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำแพงกันคลื่นได้จาก “กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้” รวมถึงโพสอื่นๆจาก Beach Lover โดยใช้ไอคอน Search มุมขวาบน […]

Beachlover

January 20, 2025

การใช้หินเพื่องานป้องกันชายฝั่ง

ในการก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง “หิน” จัดเป็นวัสดุที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดวิธีหนึ่ง เนื่องจากหาง่าย มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อม และมักมีราคาถูกกว่าโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือตัวบล็อกคอนกรีตสำเร็จรูปอื่นๆ ที่มีรูปทรงเฉพาะ (Armour unit) อย่างไรก็ตาม การเลือกหินมาใช้งานจริงควรคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน โดยคุณสมบัติที่สำคัญของหินสำหรับงานป้องกันชายฝั่ง มีดังนี้ 1. ความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity): ควรมีค่าความถ่วงจำเพาะสูง (มากกว่า 2.6 ขึ้นไป) เพื่อช่วยเพิ่มน้ำหนักของชั้นเกราะหิน (Armor layer) ทำให้ต้านทานการเคลื่อนตัวจากแรงปะทะของคลื่นได้ดี 2.ความแข็งแรง และค่าการขัดสี (Durability & Abrasion Resistance): หินต้องแข็งแรง ไม่เปราะแตกง่ายเมื่อได้รับแรงปะทะของคลื่นหรือแรงกดทับจากน้ำหนักของหินก้อนอื่น ๆ ควรผ่านการทดสอบ เพื่อประเมินค่าการสึกกร่อน 3.รูปร่างของหิน (Rock Shape): นิยมใช้หินที่มีผิวค่อนข้าง “เหลี่ยม” หรือ “angular” มากกว่าหินกลม (Rounded) เพราะจะยึดเกาะกันได้ดีและลดการกลิ้งไหลของหินบนลาดผิวได้ดีกว่า หินเหลี่ยมมักจะมี Interlocking ที่ดี ลดโอกาสที่คลื่นจะดึงหรือกัดเซาะออกไปได้ง่าย 4.การดูดซึมน้ำต่ำ (Low Water Absorption): […]

Beachlover

January 17, 2025

ชมโกงกางเทียม หาดสามร้อยยอดกันอีกรอบ

โกงกางเทียมเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นหนึ่งในแนวทางหรือเทคนิคที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ที่ยากต่อการปลูกป่าชายเลนจริง หรือต้องการเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งได้เร็วขึ้น หลักการทำงานจะเลียนแบบรากโกงกาง (ป่าชายเลน) ในธรรมชาติ โดยสร้างเป็นโครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนรากไม้ชะง่อน เกาะยึดหรือตรึงวัสดุบางอย่างเพื่อชะลอความเร็วของคลื่นและดักตะกอนที่พัดพามากับกระแสน้ำ ทำให้ตะกอนนิ่งตกทับถม เกิดการฟื้นฟูพื้นที่หน้าชายฝั่ง และส่งเสริมการพัฒนาเป็นพื้นที่ป่าชายเลนใหม่ในระยะยาว แม้แนวคิดของจะมีที่มาจากการเลียนแบบรากไม้ป่าชายเลน แต่ในปัจจุบันพบเห็นโกงกางเทียม บนชายหาดทรายมากเสียกว่าชายหาดโคลนในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่ง Beach Lover ได้เคยพาชมไปหลายครั้งแล้ว ทั้งที่หาดนางทอง จ.พังงา หาดแสงจันทร์ จ.ระยอง และที่นี่ หาดสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หาอ่านได้จากโพสเก่าๆ โดยใช้ Search icon นอกจากนั้ยังสามารถติดตาม Clip พาเดินชมได้จาก Youtube (1) โกงกางเทียมซีออส (C-Aoss) หาดนางทอง เขาหลัก พังงาและ (2) โกงกางเทียมซีออส (C-Aoss) ณ หาดนางทอง จ พังงา และ (3) รากโกงกางเทียม เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ณ หาดนางทอง (4) รากไม้โกงกางเทียม (ตำแหน่งหน้าครัวลุงระ) ณ หาดแสงจันทร์ จ.ระยอง โครงสร้างโกงกางเทียมเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ณ หาดสามร้อยยอดนี้ […]

Beachlover

January 9, 2025

เที่ยวไหนดี…ชะอำเหนือ หรือ ใต้?

Beach Lover พาชมหาดชะอำ จ.เพชรบุรี มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนสร้างกำแพงกันคลื่น ระหว่างงานก่อสร้าง จน กำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดแล้วเสร็จ มาเมื่อหลายปีก่อน สามารถหาอ่านได้จากโพสเก่าๆ มาเยือนหาดชะอำช่วงเทศกาล High season ในครั้งนี้ ขอพาเปรียบเทียบสภาพชายหาดชะอำเหนือ และชะอำใต้ หาดใกล้เมืองกรุงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนในช่วงวันหยุดกันสักหน่อย ทั้งสองชายหาดวางตัวอยู่ในแนวเดียวกัน และต่อเนื่องกัน แบ่งแยกชื่อเรียกจากลานคอนกรีตบริเวณจุดชมวิวบริเวณสามแยก หากมุ่งหน้าออกทะเลเลี้ยวซ้ายเรียกหาดชะอำเหนือ เลี้ยวขวาเรียกหาดชะอำใต้ ในอดีตหาดชะอำใต้มีความคึกคักมากกว่าด้วยร้านอาหาร ร่มเตียงผ้าใบ เรียกได้ว่าหากเป็นช่วงวันหยุดยาวก็แทบจะไม่มีที่ให้จอดรถกันเลยทีเดียว ในขณะที่หาดชะอำเหนือนั้นนักท่องเที่ยวจะบางตากว่า แต่หลังจากที่มีโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได พร้อมงานปรับภูมิทัศน์ โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองที่ดำเนินการโครงการนี้บริเวณหาดชะอำใต้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยงบประมาณ 226.437 ล้านบาท รวมระยะทางตามแนวชายฝั่งกว่า 3 กิโลเมตร หาดชะอำใต้ก็ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับชายหาดชะอำเหนือที่ถัดขึ้นไปเพียงลานคอนกรีตคั่น ยามน้ำขึ้น หาดชะอำใต้นั้นไม่มีชายหาดด้านหน้ากำแพงกันคลื่นหลงเหลืออยู่พอให้ลงเล่นได้เลย นอกจากนั้นในบางช่วงเวลาที่น้ำขึ้นสูงและคลื่นแรง ยังไม่สามารถนั่งเล่นบนขั้นบันไดประชิดชายน้ำได้ด้วยเนื่องจากคลื่นจะวิ่งปะทะกำแพงแล้วกระเซ็นหรือกระโจนเข้ามายังพื้นที่ด้านใน ในขณะที่หาดชะอำเหนือนั้นยังคงมีชายหาดให้ใช้ประโยชน์ได้แม้ยามน้ำขึ้นสูงสุด และไม่เกิดปรากฏการณ์น้ำกระเซ็นข้ามเนื่องจากไม่มีโครงสร้างกำแพงกันคลื่น ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันจึงเกิดการย้าย Demand ของนักท่องเที่ยวจากฝั่งใต้ไปยังฝั่งเหนืออย่างเห็นได้ชัด เหล่านี้… เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลกระทบจากโครงการนี้โดยตรง เหล่านี้… เป็นสิ่งที่ต้องแลกกับการอยู่รอดปลอดภัยจากการกัดเซาะชายฝั่ง? เหล่านี้… คือสิ่งที่เราต้องยอมรับเพราะไม่มีทางเลือกอื่น? หรือ… […]

Beachlover

January 6, 2025
1 2 29