7 ข้อชวนคิด กับโครงการถมทะเลอ่าวไทย…เอาไงดี

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงโครงการถมทะเลในบริบทของการพัฒนาและขยายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ในงาน Vision for Thailand 2024 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยเสนอให้มีการถมทะเลที่บางขุนเทียนและปากน้ำ เพื่อให้ได้พื้นที่ลดความแออัดของกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่ง และเป็นเมืองสีเขียวและเมืองใหม่ ให้เฉพาะรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้นและมีรถไฟเชื่อม และป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ (อ้างอิง) นายทักษิณเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนภาครัฐในช่วงสามปีของรัฐบาลนี้ และกล่าวว่าโครงการถมทะเลจะช่วยให้เกิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน (อ้างอิง) หลังจากนั้นตัวแทนของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาอธิบายถึงแนวคิดหลักของโครงการนี้เพิ่มเติมในชื่อใหม่ที่เรียกว่า “โครงการสร้อยไข่มุกอ่าวไทย” โดยการสร้างสิ่งปลูกสร้างลงไปในทะเลในลักษณะของเกาะ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะมีเกาะจำนวน 9 เกาะ และให้แต่ละเกาะมีเขื่อนเป็นแนวกั้นน้ำ และมีประตูเปิด-ปิดได้ซึ่งเกาะแรกจะสร้างในพื้นที่ของชายทะเลบางขุนเทียน จากนั้นจะสร้างเกาะอื่นไปจนถึงชลบุรี รวมระยะทางตลอดอ่าวตัว ก.ประมาณ 100 กิโลเมตร  ทั้งนี้พื้นที่เกาะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดเชื่อมของเขื่อนกั้นน้ำแต่ละเกาะจะมีขนาดประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร และสร้างห่างจากชายฝั่งไป 1 กิโลเมตร มีถนนเชื่อมกับพื้นที่ชายฝั่งเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปยังพื้นที่เกาะต่างๆ ได้  สำหรับแนวทางการลงทุนจะเป็นหน้าที่ของภาคเอกชน โดยผู้ที่เข้ามาลงทุนจะได้สัมปทานการใช้ที่ดินอาจจะเป็น 99 ปี ซึ่งสามารถพัฒนาเกาะนี้ใช้ประโยชน์ในหลายรูปแบบต่างๆ อาทิ การพัฒนาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่จะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ หรือเป็นเมืองใหม่ที่เป็นสมาร์ตซิตี้ใช้พลังงานสะอาด โดยจะมีการติดตั้งกังหันลมหรือโซลาร์เซลล์ก็สามารถที่จะออกแบบได้ โดยเมื่อหมดระยะเวลาสัมปทานแล้วพื้นที่นี้ก็จะเป็นของภาครัฐ (อ้างอิง) สำหรับแนวความคิดนี้ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งในแง่ของภาครัฐที่ได้โครงสร้างพื้นฐานในการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่ลุ่มในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล […]

Beachlover

September 17, 2024

Managed realignment กลยุทธ์เพื่อการบริหารจัดการชายฝั่ง

Managed realignment-MR (หรือเรียกอีกอย่างว่า managed retreat) เป็นวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนแนวป้องกันชายฝั่งเดิมให้ถอยร่นเข้ามาในแผ่นดิน เพื่อให้พื้นที่ชายฝั่งเดิมกลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ เช่น ป่าชายเลน หรือหาดเลน Managed Realignment คือกลยุทธ์เพื่อการบริหารจัดการชายฝั่งแบบหนึ่ง เพื่อให้พื้นที่ชายฝั่งที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลงได้ปรับตัวได้ตามธรรมชาติตามธรรมชาติ โดยไม่มีการแทรกแซงหรือรบกวนจากภายนอก แนวทางนี้ได้รับความสนใจในยุโรปและอเมริกาเหนือในฐานะวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติสำหรับการกัดเซาะชายฝั่ง การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และการจัดการความเสี่ยงจากอุทกภัย หลักการสำคัญของ Managed Realignment: มีการเริ่มใช้ Managed Realignment ครั้งแรกในปี 1990 ที่เกาะ Northey ใน Essex และต่อมามีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีพื้นที่ที่ดำเนินการ Managed Realignment มากที่สุดในยุโรป จุดประสงค์ของ Managed Realignment คือการให้ประโยชน์หลายประการ ซึ่งรวมถึงการป้องกันน้ำท่วม การสร้างแหล่งที่อยู่อาศัย และการกักเก็บคาร์บอน ตัวอย่างเช่น Steart Marshes ในสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงอัตราการสะสมคาร์บอนที่สำคัญ โดยการสะสมของตะกอนมีส่วนทำให้เกิดการกักเก็บคาร์บอนในระดับสูง Managed Realignment มักประสบปัญหาความท้าทาย เช่น การต่อต้านจากชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียที่ดินที่มีค่า […]

Beachlover

July 12, 2024

ชุมชนชายฝั่ง: พลังสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูหาดทรายไทย

ชายหาดของไทยไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม หรือแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่รอการเข้ามาใช้ประโยชน์ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนชายฝั่ง ที่ผูกพันและพึ่งพาอาศัยกันมาอย่างยาวนาน ชุมชนชายฝั่งจึงเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์หาดทราย ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและทำมาหากินกับทรัพยากรเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง การให้ความสำคัญและส่งเสริมบทบาทของชุมชนชายฝั่ง จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับชายหาดไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น: มรดกทางปัญญาที่สั่งสมจากรุ่นสู่รุ่น ชุมชนชายฝั่งไทยมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน ภูมิปัญญาเหล่านี้เป็นเหมือนตำราชีวิตที่บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่สั่งสมจากการสังเกต ทดลอง และเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของคนรุ่นก่อนๆ ตัวอย่างเช่น ชาวประมงพื้นบ้านที่รู้จักฤดูกาลวางไข่ของปลาและสัตว์น้ำชนิดต่างๆ จึงมีกฎระเบียบในการจับปลาที่สอดคล้องกับธรรมชาติ เพื่อให้มีปลาเหลือไว้ให้ขยายพันธุ์ต่อไป หรือชาวบ้านที่รู้จักใช้ประโยชน์จากพืชชายหาด เช่น ผักบุ้งทะเล หรือเหงือกปลาหมอ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตามตำรับยาพื้นบ้าน นอกจากนี้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นยังครอบคลุมไปถึงการสร้างที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมชายฝั่ง เช่น การสร้างบ้านยกพื้นสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วม การปลูกต้นไม้เพื่อลดแรงลม หรือการทำนาเกลือที่อาศัยความรู้เกี่ยวกับการขึ้นลงของน้ำทะเล ภูมิปัญญาเหล่านี้เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่ควรได้รับการอนุรักษ์ สืบทอด และต่อยอด เพื่อนำไปสู่การจัดการชายฝั่งที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ การมีส่วนร่วมของชุมชน: เสียงที่ทรงพลังในการกำหนดอนาคต การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืนไม่สามารถทำได้โดยภาครัฐหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่งอย่างแท้จริง ชุมชนควรมีสิทธิและโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งในพื้นที่ของตนเอง การมีส่วนร่วมของชุมชนไม่เพียงแต่ทำให้แผนการจัดการชายฝั่งมีความเหมาะสมและตอบสนองความต้องการของชุมชนได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างความเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบต่อทรัพยากรชายฝั่ง เมื่อชุมชนรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของชายหาด พวกเขาก็จะมีแรงจูงใจในการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้อย่างยั่งยืน ความท้าทายและโอกาสในการเสริมสร้างศักยภาพชุมชน ชุมชนชายฝั่งหลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น ความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา การเข้าไม่ถึงบริการสาธารณะ การขาดแคลนทรัพยากร และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนชายฝั่งจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้พวกเขามีความเข้มแข็งและสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้ การเสริมสร้างศักยภาพชุมชนอาจรวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน […]

Beachlover

June 29, 2024

การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน: กุญแจสำคัญสู่การรักษาสมดุลแห่งท้องทะเลไทย

หาดทรายของไทยเปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้ แต่ความงดงามนี้กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากทั้งธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ การกัดเซาะชายฝั่ง มลภาวะ และการท่องเที่ยวที่ไม่ยั่งยืน ล้วนเป็นปัจจัยที่บั่นทอนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่ง หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปเช่นนี้ สวรรค์ริมทะเลของไทยอาจกลายเป็นเพียงอดีตอันเลือนราง การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน (Integrated Coastal Zone Management, ICZM) จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ การใช้ประโยชน์ และการพัฒนา เพื่อให้ชายหาดไทยยังคงความสวยงามและอุดมสมบูรณ์สืบไป การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน: หลักคิดสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน คือ กระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรและกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ชายฝั่งอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงและผลกระทบต่อเนื่องระหว่างระบบนิเวศ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เปรียบเสมือนการดูแลบ้านหลังใหญ่ที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษา โดยคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้าน รวมถึงการดูแลรักษาโครงสร้างและสภาพแวดล้อมของบ้านให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน หลักการสำคัญของการจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืน ได้แก่: บทบาทของทุกคนในการอนุรักษ์ชายหาด: การอนุรักษ์ชายหาดไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคน เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ชายหาดได้หลายวิธี เช่น การจัดการชายฝั่งอย่างยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่ง สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนชายฝั่ง การร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป จะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันให้ชายหาดไทยยังคงความสวยงามและอุดมสมบูรณ์สืบไป

Beachlover

June 28, 2024