ทำความรู้จัก กำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง (Rubble mound)

กำแพงกันคลื่นเป็นโครงสร้างที่วางประชิดและขนานกับชายฝั่ง เพื่อรับแรงปะทะจากคลื่นทำให้พื้นที่ด้านหลังกำแพงกันคลื่นไม่ถูกกัดเซาะ การใช้มาตรการกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง ควรเป็นทางเลือกท้ายๆ และควรใช้ยามจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องเลือกกำแพงกันคลื่นเพื่อป้องกันชายฝั่ง ก็ยังมีหลายรูปแบบของกำแพงให้พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ งบประมาณ และอื่นๆ

Beach Lover ขอพาทำความรู้จักกับกำแพงกันคลื่นแบบหินเรียง ซึ่งสามารถพบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยกว่า และใช้งบประมาณน้อยกว่ากำแพงแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก

ตัวโครงสร้างหลักมักทำจากหินธรรมชาติหลายขนาด วางซ้อนกันเป็นชั้นเพื่อลดพลังงานของคลื่น หินเกราะด้านนอกต้องเป็นหินขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นหินชั้นในที่มีขนาดย่อมลงมา โครงสร้างมักมีชั้นกรอง (Filter Layer หรือ Geotextile) เพื่อป้องกันการพังทลายของดินหรือทรายใต้โครงสร้าง โดยมีวิธีการคำนวณขนาดและปริมาณหินตามคู่มือทางวิศวกรรมชายฝั่งทะเลอย่างชัดเจน

ข้อดี

ลดการสะท้อนคลื่นได้พอสมควร เนื่องจากมีพื้นผิวที่ไม่เรียบและลาดเอียง ทำให้พลังงานคลื่นถูกดูดซับและแตกตัวได้มากกว่ากำแพงแบบคอนกรีตแนวดิ่ง และมีสามารถปรับตัวได้ยืดหยุ่น หมายความว่า ถ้าเกิดการเคลื่อนตัวของฐานราก หรือมีการกัดเซาะใต้ฐาน กองหินยังสามารถปรับตัวตามสภาพดินได้ในระดับหนึ่ง ไม่พังทีเดียวทั้งหมดเหมือนโครงสร้างแข็ง นอกจากนี้ต้นทุนวัสดุอาจถูกกว่า (ในกรณีที่ใกล้แหล่งหิน) และสามารถประยุกต์ใช้หินในพื้นที่ เพื่อลดค่าขนส่งได้

ข้อจำกัด

ใช้พื้นที่มากเนื่องจากโครงสร้างแนวลาดเอียง มักต้องกินพื้นที่หน้าหาดไปพอสมควร และไม่สามารถใช้งานเดินผ่านได้สะดวก (หากต้องการพื้นที่ใช้สอยด้านบน หรือทำกิจกรรมพักผ่อน) หากออกแบบไม่ดี หรือใช้หินไม่เหมาะสม อาจดูไม่เป็นระเบียบ และไม่ได้สวยงามตามการท่องเที่ยวชายฝั่ง

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำแพงกันคลื่นได้จาก “กำแพงกันคลื่น…ไปต่อหรือพอแค่นี้” รวมถึงโพสอื่นๆจาก Beach Lover โดยใช้ไอคอน Search มุมขวาบน โดยใช้คำค้นหาว่า “กำแพงกันคลื่น”