การศึกษาพลวัตของชายหาดต้องอาศัยเครื่องมือและวิธีการหลากหลายที่ช่วยวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของชายหาดในเชิงพื้นที่และเวลา โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:

1. การสำรวจภาคสนาม (Field Surveys)
การสำรวจและเก็บข้อมูลในพื้นที่จริงเป็นพื้นฐานสำคัญของการศึกษาพลวัตชายหาด
- Beach Profiling:
- ใช้เครื่องมือ เช่น Auto Level, Total Station, RTK-GPS ในการวัดระดับและโปรไฟล์ของชายหาด
- สามารถใช้เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงของชายหาดในช่วงเวลาต่างๆ เช่น การกัดเซาะหรือการสะสมตัวของทราย
- Sediment Sampling:
- เก็บตัวอย่างทรายและตะกอนชายหาดเพื่อตรวจสอบลักษณะเม็ดตะกอน เช่น ขนาด และการกระจายตัว
- Wave and Current Measurements:
- ใช้เครื่องมือ เช่น Acoustic Doppler Current Profiler (ADCP) หรือ Wave Buoys เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมคลื่นและกระแสน้ำ



2. การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม (Remote Sensing and Aerial Imagery)
การใช้ภาพถ่ายจากอากาศและดาวเทียมช่วยให้สามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งในขนาดพื้นที่ใหญ่
- การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม (Satellite Imagery Analysis):
- ใช้ข้อมูลจากดาวเทียม เช่น Landsat, Sentinel, หรือ Google Earth ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของแนวชายฝั่ง
- วิเคราะห์พื้นที่การกัดเซาะหรือสะสมตัวของทรายโดยใช้เทคนิค Geographic Information System (GIS)
- โดรน (Drones):
- โดรนสามารถเก็บภาพถ่ายเชิงรายละเอียดสูงและสร้างแบบจำลอง 3 มิติของชายหาด
- เหมาะสำหรับการศึกษาพื้นที่ชายฝั่งที่เข้าถึงยาก


3. แบบจำลองเชิงตัวเลข (Numerical Modeling)
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองกระบวนการทางชายฝั่งเพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
- SWAN (Simulating Waves Nearshore):
- ใช้ในการจำลองพฤติกรรมของคลื่นในพื้นที่ชายฝั่ง
- วิเคราะห์ผลกระทบของคลื่นต่อชายหาด เช่น การกัดเซาะและการสะสมตัว
- Delft3D:
- โมเดลเชิงตัวเลขที่สามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงธรณีสัณฐานของชายฝั่งได้
- ใช้สำหรับศึกษากระแสน้ำ คลื่น และการเคลื่อนที่ของตะกอน
- XBeach (eXtreme Beach):
- ออกแบบมาเพื่อจำลองการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งในช่วงพายุรุนแรง


(https://www.vcrlter.virginia.edu/home2/?page_id=750)
4. การวิเคราะห์เชิงสถิติ (Statistical Analysis)
การศึกษาพลวัตชายหาดมักใช้ข้อมูลระยะยาวที่ต้องวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางสถิติ
- การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Time Series เพื่อติดตามแนวโน้มและรูปแบบการเปลี่ยนแปลง
- การใช้โปรแกรม เช่น MATLAB หรือ Python ในการประมวลผลข้อมูล

โดยโปรแกรม DSAS
5. การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี LiDAR (Light Detection and Ranging)
- ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ติดตั้งบนเครื่องบินหรือโดรนเพื่อสร้างแบบจำลองภูมิประเทศชายฝั่งอย่างละเอียด
- ช่วยในการวัดระดับความสูงและการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ชายหาดอย่างแม่นยำ

6. เทคนิคการใช้ Marker และ Tracking Sediments
- การวางเครื่องหมาย (markers) บนชายหาดเพื่อติดตามการเคลื่อนตัวของตะกอนในพื้นที่เฉพาะ
- การใช้สารเคมีหรือรังสีติดตามการกระจายของเม็ดตะกอน

7. การสำรวจผ่านเซนเซอร์ใต้น้ำ (Underwater Sensors)
- ใช้เซนเซอร์ เช่น Pressure Transducers และ Wave Gauges เพื่อตรวจสอบระดับน้ำ กระแสคลื่น และกระแสน้ำใกล้ชายฝั่ง

และการสำรวจคลื่น และกระแสน้ำด้วย ADCP