กรมโยธาชี้แจง กรณีชายหาดชะอำ

ที่มา: https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH

เรียน พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่าน

เรื่อง ชี้แจงข่าวกรณี “โครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ชายหาดชะอำ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี”

ตามที่ วอยซ์ออนไลน์ (Voice TV) นำเสนอข่าวว่า “ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลพื้นที่ชายหาดชะอำ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการริมชายหาด เนื่องจากหาดทรายที่หายไป ทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง อีกทั้งมีสาหร่ายและตะไคร่ที่ขึ้นตามขั้นบันไดและเสาตอม่อของโครงการ ก่อให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว” ตามลิงค์ที่แนบมานี้ • https://www.facebook.com/watch/?v=1353490691833707

กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1. สำนักงานเทศบาลเมืองชะอำได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์โครงการปรับปรุงและฟื้นฟูบูรณะชายหาดชะอำ เนื่องจากประสบปัญหาน้ำทะเลเซาะตลิ่งบริเวณชายหาดชะอำ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี (รูปที่ 1) ในการนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ลงสำรวจพื้นที่ดังกล่าว พบปัญหาและผลกระทบตามหนังสือขอความอนุเคราะห์จริง จึงได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการฯ โดยมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยร้อยละ 85.9 และครั้งที่ 2 พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยร้อยละ 76.6 จึงได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562-2564

2. สำหรับสภาพพื้นที่หาดทราย บริเวณโครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลพื้นที่ชายหาดชะอำ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เดิมก่อนการก่อสร้างในขณะน้ำขึ้นก็ไม่มีหาด นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงชายหาดได้อยู่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับภายหลังจากการก่อสร้างโครงการ (รูปที่ 2) ในขณะน้ำขึ้นก็จะไม่มีชายหาด แต่ในขณะน้ำลง ถัดจากแนวขั้นบันไดก็จะลงสู่พื้นที่ชายหาดซึ่งมีความกว้างให้ใช้ประโยชน์ได้เช่นเดิม

3. โครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ชายหาดชะอำ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ความยาว 2,985 เมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและเตรียมการก่อสร้าง ทำให้พื้นที่โครงการยังมีเศษวัสดุหรือเสาตอม่อปรากฎอยู่ ซึ่งได้มีการติดป้ายเตือนบริเวณก่อสร้าง (รูปที่ 3) เพื่อป้องกันอันตรายต่อประชาชนบริเวณดังกล่าวและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ส่งผลให้การก่อสร้างโครงการเกิดความล้าช้ากว่าแผนงานที่ได้กำหนดไว้ กรมโยธาธิการและผังเมืองจะเร่งรัดผู้รับเหมาให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ

4. เมื่อโครงการดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหลังเขื่อน ประกอบด้วย พื้นที่ทางเท้า เพิ่มพื้นที่จอดจักรยาน ตามตำแหน่งลานกิจกรรมเดิม ปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่าง ป้ายบอกสถานที่และป้ายล็อคกลุ่มเตียงผ้าใบ นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ลานกิจกรรมและพื้นที่สันทนาการ เช่น จุดนัดพบ ทางเดิน/วิ่ง ประติมากรรมพร้อมคำขวัญ เพื่อเป็นจุดนัดพบและการค้นหาคำพูดต่อเนื่อง ให้นักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเล่นน้ำทะเล และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชายหาดชะอำ ดังนั้น เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวพื้นที่ชายหาดชะอำได้เพิ่มมากขึ้น

5. กรณีการเกิดตะไคร่น้ำตามธรรมชาติ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่อยู่ในเขตน้ำท่วมถึง และมีแสงแดดส่อง ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้โดยการทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งเป็นการบำรุงรักษาและจัดการพื้นที่ให้มีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม โดยต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ในการดำเนินการพัฒนาตามฤดูกาล ต่อไป

ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองขอขอบคุณสำนักข่าวและสื่อมวลชนที่ได้เสนอข่าวดังกล่าว ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนได้ทราบทันสถานการณ์ตามนโยบายของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ที่มอบไว้มา ณ โอกาสนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

นายพรพจน์ เพ็ญพาส

อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง