การที่เราเห็นฟองขาวๆบนผิวหน้าของน้ำทะเลเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปะทะกันระหว่างอากาศและน้ำ การเกิดฟองขาวๆ บนผิวน้ำ เกิดจากกระบวนการทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานของคลื่นและคุณสมบัติของน้ำ ดังนี้:

แรงเฉือนของลม ลมที่พัดผ่านผิวน้ำจะสร้างแรงเฉือน ทำให้เกิดการหมุนวนและแตกตัวของคลื่น

การแตกตัวของคลื่น (อ่านเพิ่มเติมได้จาก https://beachlover.net/wave-breaking/)
คลื่นจะแตกตัวเมื่อส่วนยอดของคลื่นเคลื่อนที่เร็วกว่าโครงสร้างของคลื่นที่อยู่ข้างล่าง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อน้ำตื้นลงหรือคลื่นมีพลังงานสูง

การกักอากาศไว้ในน้ำ
ขณะที่คลื่นแตกตัว อากาศจะถูกดักจับอยู่ในน้ำ กลายเป็นฟองอากาศเล็กๆ

การแทรกตัวของอากาศ เมื่อคลื่นกระแทกกับพื้นผิวของหาดทราย สิ่งกีดขวางทางน้ำ หรือโขดหิน อากาศจะถูกบีบอัดและแทรกตัวเข้าไปในน้ำ สร้างฟองอากาศเล็กๆ มากมาย

การสะท้อนแสงจากฟองอากาศ
ฟองอากาศเหล่านี้สะท้อนแสงแดดในทุกทิศทาง ทำให้เรามองเห็นเป็นสีขาว
แรงตึงผิว
แรงตึงผิวของน้ำช่วยรักษาฟองอากาศให้คงตัวในระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ฟองอากาศไม่แตกทันที
สิ่งเจือปนในน้ำ
สารอินทรีย์หรือเกลือในน้ำทะเลสามารถเพิ่มความหนาแน่นของฟองให้ดูขาวและคงตัวมากขึ้น นอกจากนี้สารลดแรงตึงผิว สารอินทรีย์ต่างๆ เช่น สาหร่าย โปรตีน และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเล จะช่่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้ฟองอากาศคงตัวได้นานขึ้น

น่าสนใจตรงที่ฟองขาวเหล่านี้ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศทางทะเลอีกด้วย