การเดินทางของเม็ดทราย: ตอนที่ 9 หาดตะโล๊ะสะมิแล

หาดตะโล๊ะสะมิแล ตั้งอยู่บนแหลมตาชีหรือแหลมโพธิ์ จ.ปัตตานี ในอดีตเป็นพื้นที่ค่อนข้างรกร้างว่างเปล่า มีบ้านเรือนกระจัดกระจายนับได้ไม่เกิน 10 หลังคาเรือนริมชายหาดแห่งนี้ ตลอดแนวประมาณ 3 กิโลเมตร (https://beachlover.net/ตะโล๊ะสะมิแล-เคยหายไป/) ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในภาคใต้ที่ต่อเนื่องยาวนานมาเกือบ 20 ปี ส่งผลให้พื้นที่นี้ยังถูกพัฒนาไปไม่มาก แต่ในปัจจุบันพบว่าเริ่มมีรีสอร์ทเข้ามาปลูกสร้างริมชายหาดมากมาย ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ทที่ราคาไม่สูงมากนัก และมักจะรองรับลูกค้าเป็นครอบครัวหรือกลุ่มใหญ่

“ชาปัตตานีนี่อร่อยสมชื่อจริงๆ” เม็ดทรายดูดชาฟอดใหญ่ในแก้วซึ่งเหลือชาสีส้มเข้มเพียงก้นแก้วเท่านั้น

“ชาทางใต้ก็แบบนี้ทั้งนั้น ที่บ้านพี่แกก็บอกว่าอร่อยเหมือนกันใช่ไหมหล่ะ” รุ่นพี่ท้าวความตอนพาเม็ดทรายไปกินโรตีและชาชักในตลาดริมแม่น้ำบางนรา “กาแฟพี่แก้วนี้ก็อร่อยมากเลยหล่ะ”

“นี่ๆๆตรงนั้นมันเคยมีกองหินยาวๆยื่นออกไปด้วยนะทราย ปีที่แล้วเรายังเห็นมันอยู่เลย หายไปไหนแล้วไม่รู้” ดาด้าชี้ชวนให้อีกสองคนละสายตาจากชาเย็นและกาแฟเย็นไปยังชายหาดที่อยู่ตรงหน้าร้านกาแฟที่ทั้งสามคนแวะเติมพลัง “เราพอจำได้ว่ามันมีประมาณ 3 กองเลยนะ ยื่นยาวๆตรงหน้าหาดตรงนี้อ่ะ”

“อืม…มันน่าจะทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้างนะ ไม่น่าจะหายไปง่ายๆแบบนี้” เม็ดทรายพูดพลางกวาดมือและเท้าไปมาบนพื้นทราย “เราก็ว่านะ หินก้อนใหญ่ออก หนักจะตาย” ดาด้าพูดพลางช่วยเพื่อนคุ้ยทรายหน้าหาดตามประสานักกฎมายที่ต้องการหลักฐานเพื่อยืนยัน

“มันใช่อันนี้ไหมด้า” รุ่นพี่ตะโกนมาจากอีกฟากที่ห่างไปสัก 20 เมตรได้ “มันมี 3 กองใช่ไหม นี่คงเป็นหนึ่งในนั้น อีก 2 กองหาไม่เจอ”

“นี่ไง มันอยู่ใต้ทางเดิน” เม็ดทรายพูดพลางวิ่งเข้าใส่กองหินที่บัดนี้ถูกปิดทับด้านบนด้วยแผ่นไม้ที่ร้านกาแฟนำมาปิดไว้เป็นทางเดินเพื่อใช้ถ่ายรูปริมทะเล

ในที่สุดทั้ง 3 คนก็พบกองหินทั้ง 3 กองในสภาพที่ถูกทรายบนชายหาดปิดกลบจนเกือบมองไม่เห็นแล้ว กองหิน 3 กองที่ดาด้าเรียกขานนั้น แท้จริงคือโครงสร้างป้องกันชายฝั่งที่มีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า “รอดักทราย” (https://beachlover.net/groin/) ซึ่งบัดนี้ได้มีทรายมาถมระหว่างช่องว่างจนเต็ม เป็นเหตุให้ทั้ง 3 คนไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย

หลังจากที่เม็ดทรายได้อธิบายถึงหน้าที่ของรอดักทรายให้เพื่อนร่วมทางฟัง จึงได้พากันเดินเลียบทะเลไปดูรอดักทรายตัวแรกทางทิศเหนือสุดของชายหาด เพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้น

“เป็นอย่างที่แกบอกตะกี้นี้เลย หาดหายไปจริงๆด้วย” รุ่นพี่พูดพลางเดินเลาะไปตามเสาไม้และถุงกระสอบทรายที่เจ้าของรีสอร์ทนำมาปักและวางไว้เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชั่วคราว “น้องพี่นี่มันเก่งจริงๆ”

“เอาจริงๆคือมันเป็นไปตามทฤษฎีเป๊ะเลยพี่ ไม่ได้ใช้ความเก่งอะไรก็คาดเดาได้ อย่างที่หนูบอกตอนเราอยู่โกลกใช่ไหมว่าตะกอนชายฝั่งมันวิ่งจากทิศใต้ขึ้นมาทางทิศเหนือ แปลว่าไอ้เจ้ารอดักทรายมันจะดักทรายไว้ทางใต้ ซึ่งตอนนี้มันดักทรายไว้เต็มเลย จนพวกเราแทบมองหามันไม่เจอแล้วเพราะทรายกลบหมด ส่วนทางเหนือก็จะต้องถูกกัดเซาะ เหมือนที่คาบสมุทรตากใบที่เราไปกันอ่ะพี่”

“เออ ก็ถ้ามันเป็นไปตามตำราอย่างที่ทรายว่ามา แล้วคนทำเค้าไม่รู้รึไงว่าจะเกิดผลกระทบอะไรน่ะ” ดาด้าถามแบบ งงๆ

“ในเมื่อรู้อยู่แล้ว ทำไมยังทำ ที่ตากใบก็ระเนระนาดเลย พี่กับทรายไปมาก่อนที่จะมาเจอด้าอ่ะ” รุ่นพี่นึกภาพหาดแถบตากใบในหัว พร้อมคำถามในหัวมากมายเช่นกัน

“อืม…หนูก็ไม่มีคำตอบให้พี่กับด้าหรอก เพราะคำถามเดียวกันนี้ ก็อยู่ในหัวหนูเช่นเดียวกัน”