ทันที่ที่หัวรถเลี้ยวเข้าสู่อาณาเขตของบ้านสวนกง เม็ดทรายตะลึงกับสันทรายชายฝั่งทะเลขนาดมหึมาที่ถูกปกคลุมด้วยต้นสน และป่าหาดชาย “ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย สันทรายแบบนี้”
“คนที่นี่เค้าบอกว่าเป็นสันทรายโบราณอายุมากกว่า 6,000 ปีเชียวนา (https://www.facebook.com/lynstheshanghaicafe/videos/567000467580231/) สวยไหมหล่ะ ชั้นกับพี่หยกเคยมาใช้พื้นที่ตรงนี้จัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์บ่อยๆ บรรยากาศมันได้มากๆ” น้ำฝนเล่าพร้อมชี้มือไม้ไปตามตำแหน่งต่างๆบนสันทรายที่เธอเคยมาใช้พื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมใต้ทิวสน
“นอกจากสวยแล้วมันยังมีคุณค่าอื่นด้วยนะ สันทรายเนี่ย” เม็ดทรายยังไม่ทันอธิบายความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาให้เพื่อนฟังก็มีเด็กสาววัยรุ่นวิ่งตรงมาหาทั้งสามคนที่ยืนอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของสันทรายโบราณ
“พี่หยก พี่ฝน หวัดดีค่ะ” นั่นคือน้องย๊ะ หรือเจ้าย๊ะที่น้ำฝนกล่าวถึง ลูกสาวชาวประมง เกิดและโตที่นี่ ย๊ะเคยเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมหลากหลายกิจกรรม รวมถึงเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากความที่เป็นลูกทะเล และมีบ้านริมทะเล ย๊ะจึงอินกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ย๊ะพาทุกคนเดินเล่นไปบนสันทราย และเดินเลาะริมชายหาดไปดูเรือประมงพื้นบ้านของครอบครัวเธอ พลางอัพเดทประเด็นสิ่งแวดล้อมใหม่ๆกับทั้งสามคน
“ไว้พี่ทรายมาหาย๊ะอีกนะ เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ จะได้พาออกเลไปดำน้ำฟังเสียงปลา” ย๊ะเชิญชวนเม็ดทรายหลังทั้งสองคนได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวของทะเลจะนะ และเม็ดทรายได้ประหลาดใจกับทักษะพิเศษในการฟังเสียงปลาของย๊ะที่ถูกถ่ายทอดทางสายเลือดมาจากพ่อของเธอ
“ไว้พี่ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมละ ว่า ดูหลำ นี่เค้าฝึกกันยังไง” (https://www.facebook.com/watch/?v=2791732367767865) เม็ดทรายพูดพลางก้าวขึ้นรถพร้อมคนอื่นๆ และอำลาบ้านสวนกงพร้อมคำถามในหัวมากมายว่า ที่แห่งนี้รึที่จะมีการพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมและท่าเทียบเรือน้ำลึก (https://beachlover.net/สันทราย-สวนกง-ท่าเรือ/ ) (https://properea.com/port-of-songkhla-10-05-2019-10-05-2019/) แล้วสันทรายโบราณ รวมถึงทรัพยากรในทะเลที่อุดมสมบูรณ์จะเปลี่ยนแปลงไปยังไง มันจำเป็นขนาดไหนกัน รถเคลื่อนผ่านสันทรายที่ทอดยาวหลายกิโลเมตรจากบ้านสวนกงเรื่อยมาทางทิศเหนือ ทิวสนบนสันทรายค่อยๆห่างออกและเลือนหายไป ต่างกับเครื่องหมายคำถามมากมายในหัวเม็ดทรายตอนนี้ ที่ยังคงแจ่มชัดและยังไม่จางหายไป