แนวคิด Living Shoreline กับการป้องกันชายฝั่ง
Living shoreline หรือแนวชายฝั่งมีชีวิต กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นว่าเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพแทนวิธีการป้องกันชายฝั่งแบบดั้งเดิม เช่น กำแพงกันคลื่น เขื่อนกันคลื่น หรือรอดักทราย แนวทางนี้เป็น มาตรการที่อิงกับธรรมชาติ (nature-based solutions, NBS) ซึ่งมีเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของแนวชายฝั่ง ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์หรือฟื้นฟูถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ จึงส่งผลดีทั้งในด้านการป้องกันและด้านนิเวศวิทยา ตรงกันข้ามกับโครงสร้างแบบดั้งเดิมที่มักก่อให้เกิดการสูญเสียถิ่นอาศัย และบางครั้งอาจเร่งให้เกิดการกัดเซาะในพื้นที่ข้างเคียง Living shoreline ใช้วัสดุธรรมชาติและกระบวนการตามธรรมชาติในการป้องกันชายฝั่ง ซึ่งมีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการกัดเซาะ แต่ยังส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดการชายฝั่ง Living Shoreline หมายถึง แนวทางการป้องกันชายฝั่งโดยใช้ องค์ประกอบทางธรรมชาติหรือกึ่งธรรมชาติ เช่น พืชน้ำกร่อย หญ้าทะเล หญ้าชายฝั่ง ป่าชายเลน หอยนางรม หรือโครงสร้างแนวปะการังเทียมแบบมีชีวิต เพื่อ ลดแรงกัดเซาะจากคลื่น ดูดซับพลังงานคลื่น ป้องกันการพังทลายของตลิ่งหรือชายฝั่ง รวมถึงช่วยสร้างระบบนิเวศชายฝั่งให้กลับมามีชีวิต ต่างจากโครงสร้างแข็งแบบเดิม (hard structures) อย่างเขื่อนกันคลื่นหรือกำแพงกันคลื่น ที่แม้จะกันคลื่นได้ แต่กลับส่งผลเสียต่อธรรมชาติ เช่น ทำให้ชายหาดหายไป หรือเกิดการกัดเซาะที่ชายฝั่งข้างเคียง (ตามอ่านผลกระทบของกำแพงกันคลื่นต่อได้ที่ https://beachlover.net/กำแพงกันคลื่น-ไปต่อหรื/) รูปแบบของ Living Shoreline มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ชายฝั่งนั้น ๆ ได้แก่: 1. พืชพรรณริมฝั่ง […]
