กำแพงกระสอบป้องกันแบบชั่วคราว ณ หาดม่วงงาม

ชายหาดม่วงงาม หมู่ 3 ตำบลม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีประชากรกว่า 3,000 คน มีที่อยู่อาศัยตั้งเรียงรายประชิดชายฝั่งตลอดทั้งแนว ส่งผลให้ยามฤดูมรสุม พื้นที่ริมทะเลแถบนี้มักได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าชายหาดหมู่อื่นๆของม่วงงาม Beach Lover  เคยพาชมพื้นที่นี้ไปแล้วช่วงก่อนมรสุม ในเวลานั้นพบว่าชุมชนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับคลื่นใหญ่ลมแรงในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นมรสุมประจำถิ่นของทุกปีโดยใช้กระสอบทรายขนาดเล็ก ติดตามอ่านได้จากโพส https://beachlover.net/หาดม่วงงาม-เตรียมรับมรสุมแล้ว/ Beach Lover ได้ลงสำรวจพื้นที่นี้อีกครั้งในวันที่ 14 มีนาคม 2566 พบว่ากระสอบทรายที่วางไว้เดิมเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือมรสุม ส่วนมากยังอยู่ในตำแหน่งเดิม และยังคงมีสภาพดี ในขณะที่บางส่วนกระจัดกระจายอยู่บนชายหาดโดยถูกทรายกลบไปบ้างแล้ว นอกจากนั้นยังพบเสาไม้โผล่ขึ้นมาริมชายหาดบางส่วน ไม่แน่ใจว่าสร้างไว้เมื่อใด และพบเศษท่อนไม้ซากไม้บนชายหาดที่เกิดขึ้นคลื่นซัดขึ้นมากองในช่วงมรสุม  เมื่อสำรวจทางทิศใต้ของหมู่ 3 ไม่พบโครงสร้างกระสอบหรือเสาไม้ และไม่พบร่องรอยของการกัดเซาะชายฝั่ง พบเพียงผ้าพลาสติกที่ชาวบ้านขึงไว้เพื่อกันทรายและลมพัดเข้าบ้านซึ่งมักพบเห็นเป็นปกติในช่วงมรสุมสำหรับบ้านเรือนที่อยู่ประชิดชายหาด (VDO clip: https://www.youtube.com/watch?v=gYdX-rjOBig) ชาวบ้านเล่าให้เราฟังว่า จากเวลานี้ไปน่าจะไม่มีคลื่นและน้ำใหญ่ระดับที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงอีกแล้ว น่าจะหมดช่วงมรสุมแล้ว ที่ผ่านมาสังเกตว่าช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมาค่อนข้างมาล่าช้าและยาวนานกว่าปีก่อน ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด

Beachlover

April 23, 2023

กำแพงริมทะเลเกาะภูเก็ต ยังสบายดี?

ตามที่ Beach Lover ได้พาสำรวจสภาพชายฝั่ง รวมถึงโครงสร้างป้องกัน บริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตไปแล้วตามโพสก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ขอพาสำรวจโครงสร้างป้องกันชายฝั่งที่ชำรุดเสียหายกันบ้าง ทั้งนี้เพื่อประเมินความสามารถในการป้องกันพื้นที่หลังโครงสร้าง สภาพและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อโครงสร้าง และผลที่กระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ท้ายน้ำ จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่และการลงสำรวจภาคสนาม พบว่าโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งโดยส่วนมากยังคงอยู่ในสภาพดี สามารถป้องกันการกัดเซาะพื้นที่หลังโครงสร้างได้ และไม่พบร่องรอยผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ แต่พบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดการชำรุดเสียหายจำนวน 4 ตำแหน่ง ได้แก่บริเวณริมถนนกมลาป่าตอง 1 ตำแหน่ง และบริเวณหาดราไวย์ 3 ตำแหน่ง ดังนี้ (1) กำแพงดูราโฮลด์ริมถนนกมลาป่าตอง ความยาว 70 เมตร พบว่าก้อนดูราโฮลด์ของกำแพงชั้นบนสุดเกิดการเลื่อนหลุดออกจากกำแพงและหล่นลงมาด้านหน้ากำแพง และก้อนดูราโฮลด์บางก้อนแตกหักเสียหาย (2) กำแพงตั้งตรงบริเวณทิศเหนือของหาดราไวย์ 1 ความยาว 130 เมตร พบการกัดเซาะด้านหลังกำแพงส่งผลให้เกิดโพรงหลังกำแพงและกำแพงเกิดการแตกหักและเอียง นอกจากนี้ยังพบว่ามีพื้นที่ของหาดทรายเหลือน้อยมากในบริเวณนี้เนื่องจากน้ำขึ้นถึงฐานกำแพง (3) กำแพงกันคลื่นแบบหินทิ้งและกำแพงกันคลื่นแบบตั้งตรงบริเวณทิศใต้ของหาดราไวย์ 2 ความยาว 400 เมตร พบว่ากำแพงหินทิ้งด้านหน้ากำแพงกันคลื่น มีบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ และกำแพงกันคลื่นแบบตั้งตรงมีร่องรอยการแตกหัก นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าโครงสร้างป้องกันชายฝั่งไม่มีชายหาดและไม่สามารถมองเห็นชายหาดด้านล่างได้ (4) กำแพงกันคลื่นแบบตั้งตรงบริเวณหาดราไวย์ 3 ความยาว 150 เมตร พบว่าสภาพกำแพงชำรุดเสียหาย แผ่นคอนกรีตแตกร้าว รวมถึงแนวกำแพงแตกและทรุดตัวลง 

Beachlover

August 22, 2022

โครงสร้างป้องกันชายฝั่งเกาะภูเก็ต อยู่ตรงไหนกันบ้าง

จากโพสครั้งก่อน Beach Lover ได้พาชมความสวยงาม (และไม่สวยงาม) ของชายหาดบริเวณเกาะภูเก็ตฝั่งตะวันตกไปแล้ว ครั้งนี้ขอพาชมโครงสร้างป้องกันชายฝั่งในพื้นที่นี้กันบ้าง โครงสร้างป้องกันชายฝั่งที่มีใช้กันอยู่โดยทั่วไปในประเทศไทยนั้น ประกอบด้วย 4 รูปแบบหลักๆดังนี้ กำแพงกันคลื่น (https://beachlover.net/seawall/) รอดักทราย (https://beachlover.net/groin/) เขื่อนกันคลื่น (https://beachlover.net/breakwater/) เติทรายชายหาด (https://beachlover.net/เติมทรายชายหาด/) โดยทั้ง 4 รูปแบบนี้อาจเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปเช่น หินทิ้ง หินเรียง เสาปูน เสาไม้ ถุงทราย กระชุหิน และอื่นๆ ถ้าหากว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันชายฝั่งและมีการวางแนวของโครงสร้างเป็นไปตามทั้ง 4 รูปแบบข้างต้น ล้วนแล้วแต่เป็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทั้งสิ้น นอกจากนี้หากลดระดับความสูงของสันโครงสร้างลงให้จมอยู่ใต้น้ำ แต่ยังมีวัตถุประสงค์และการวางแนวเป็นไปตามรูปแบบของโครงสร้างป้องกัน ก็ถือว่าเป็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งเช่นกัน เช่น เขื่อนกันคลื่นใต้น้ำ เป็นต้น จากการสำรวจภาคสนามบริเวณหาดทรายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต พบว่ามีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งจำนวน 35 ตำแหน่ง  โดยโครงสร้างที่ทำการสำรวจภาคสนามมีความยาวรวมทั้งหมด 6,895.4 เมตร และพบว่าโครงสร้างโดยส่วนมากเป็นกำแพงแบบตั้งตรง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกันดินและถูกสร้างประชิดชายฝั่งจึงทำหน้าที่เสมือนกำแพงกันคลื่นในช่วงเวลาน้ำขึ้นหรือช่วงฤดูมรสุม ส่งผลให้การจำแนกความแตกต่างระหว่างกำแพงกันคลื่นและกำแพงกันดินนั้นทำได้ยาก รูปถ่ายด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของโครงสร้างทั้งหมดเท่านั้น

Beachlover

August 18, 2022

โยธาฯ บูรณาการทุกภาคส่วน แก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งทะเลไทย

ที่มา: https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH กรมโยธาธิการและผังเมือง บูรณาการทุกภาคส่วนเชิงพื้นที่ ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านใช้โครงสร้างทางวิศวกรรม แก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งทะเลไทย

Beachlover

June 30, 2022

ควรรื้อโครงสร้างริมชายฝั่งทะเลที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด

รื้อโครงสร้างริมชายฝั่งทะเลที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด ทั้งที่อาจเหนี่ยวนำให้เกิดการกัดเซาะในพื้นที่ข้างเคียงรวมถึงที่ไม่ส่งกระทบใดๆต่อชายหาด สำหรับโครงสร้างชายฝั่งที่หมดสภาพ ซึ่งหมายถึงหมดประสิทธิภาพหรือหมดหน้าที่ในการป้องกันชายฝั่งไปแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดผลกระทบทั้งเชิงกายภาพ เช่น อาจก่อให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติม หรือ เป็นทัศนะที่อุจจาดตาบดบังทัศนียภาพที่สวยงามของชายหาด ในกรณีนี้ควรมีการวิเคราะห์ถึงการรื้อถอนทำลายเพื่อคืนสภาพชายหาดให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ในหลายกรณีการมีอยู่ของโครงสร้างนั้น ได้ก่อให้เกิดบริบทใหม่ในเรื่องของการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณนั้นขึ้นแล้ว เช่น อาจเกิดการทับถมของที่ดินจนเกิดชุมชนใหม่ขึ้น หรือร่องน้ำถูกเปิดตลอดทั้งปีจนชาวบ้านเปลี่ยนขนาดเรือจากเล็กเป็นใหญ่เพื่อการพาณิชย์แทนที่จะเป็นเพื่อการดำรงชีพหรือประมงขนาดเล็กเหมือนในอดีต ดังนั้น หากมีการรื้อถอนทำลายโครงสร้างที่มีอยู่อาจส่งผลกระทบถึงการใช้ประโยชน์ในบริบทใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ได้ การสร้างยังต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาออกแบบ การรื้อโครงสร้างก็เช่นเดียวกัน จึงจำเป็นต้องศึกษาวิเคราะห์ในรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนดำเนินการใดๆ มิฉะนั้นอาจเกิดผลกระทบที่ยากจะคาดเดา

Beachlover

June 30, 2022

ความพยายามของชาวบ้านม่วงงาม ยามมรสุม

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านริมชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ต้องรับมือกับความรุนแรงของคลื่นลมเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ตุลาคมไปจนถึงประมาณมีนาคม โดยที่ช่วงเวลาและความรุนแรงอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี ชาวบ้านม่วงงามหมู่ 3 (นอกพื้นที่พิพาทคดีม่วงงาม) ก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน ผลกระทบที่รุนแรงที่สุดสำหรับมรสุมตั้งแต่ตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบันคือเหตุการณ์ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ทำให้เทศบาลเมืองม่วงงามและชาวบ้านนำทรายมาบรรจุใส่กระสอบและช่วยกันวางเพื่อป้องกันคลื่นและน้ำไหลเข้าบ้านชาวบ้านที่อยู่ประชิดชายหาด Beach Lover ได้มีโอกาสลงสำรวจภาคสนามพื้นที่เดียวกันนี้ในช่วงเดือนมีนาคมซึ่งผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปแล้วพบแนวกระสอบทรายหลายจุด ทั้งที่ยังอยู่ในแนวเดิมและที่โดนคลื่นซัดไปบ้าง จมทรายไปแล้วบ้าง เหตุการณ์รุนแรงนี้แม้เกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน แต่ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ตั้งถิ่นฐานและใช้ประโยชน์บนชายหาดเป็นอย่างมาก ถือเป็นภัยพิบัติที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้แบบเร่งด่วนฉุกเฉินเหมือนที่จัดการกับภัยพิบัติอื่นๆ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอในประเด็นนี้ได้จาก https://dxc.thaipbs.or.th/post-special/กัดเซาะชายฝั่ง-สาธารณ/ ซึ่งหากนำมาถือปฏิบัติได้จริง หน่วยงานก็ไม่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างที่ใหญ่โตเกินความจำเป็น ทั้งยังแก้ไขปัญหาได้อย่างไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ ซึ่งหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างป้องกันแบบถาวรต่อไปเรื่อยๆ สร้างเฉพาะที่จำเป็นเพื่อบรรเทาผลกระทบและรื้อถอนออกได้ยามหมดความจำเป็น ซึ่งจะเป็นการลดผลกระทบที่ถูกส่งต่อไปยังพื้นที่ข้างเคียงจากโครงสร้างป้องกันชายฝั่งแบบถาวร ถือเป็นการสมประโยชน์ทั้งรัฐเองที่ได้ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน และประชาชนเองก็ได้รับความปลอดภัยและสวัสดิภาพกลับมา น่าติดตามกันต่อไปว่า ท้องถิ่นอย่างเทศบาลเมืองม่วงงามจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร รวมถึงโครงสร้างการแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอย่างการแก้ไข พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีส่วนช่วยให้การแก้ไขปัญหากรณีเร่งด่วนฉุกเฉินนี้ออกมาในรูปแบบใด … ติดตามต่อไปอย่างใจเย็น

Beachlover

April 15, 2022

หาดชมการกัดเซาะ @ หาดคลองเจ้า เกาะกูด

ประเทศไทยมีเกาะในทะเลกว่า 1,400 เกาะ (ไม่รวมเกาะภูเก็ต) รวมระยะทางตามแนวชายฝั่งของเกาะประมาณ 4,000 กิโลเมตร โดยปกติแล้ว ชายฝั่งบนเกาะต่างๆมักมีสภาพสมดุล โอกาสที่ต้องเผชิญกับปัญหากัดเซาะชายฝั่งมีค่อนข้างน้อย หากเกิดขึ้นมักเกิดในช่วง Extreme event หรือ ถูกแทรกแซงจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นหลัก Beach Lover ได้ลงสำรวจภาคสนามของชายหาดรอบๆเกาะกูด จ.ตราด ไม่พบร่องรอยของการกัดเซาะชายฝั่งเลยยกเว้นบริเวณปากคลองเจ้า ณ หาดคลองเจ้า หน้า Peterpan Resort ที่พักชื่อดังของเกาะกูด จากสภาพที่เห็น พบกระสอบทรายทั้งขนาดเล็กและใหญ่ พร้อมซากต้นไม้ล้มอยู่บ้างตลอดแนวยาวประมาณ 50 เมตร ใกล้ปากคลอง ไม่แน่ใจว่าการกัดเซาะนี้เกิดขึ้นเมื่อใดแต่คาดเดาได้ว่าน่าจะมรสุมครั้งล่าสุดเพราะกระสอบทรายยังคงสภาพดีอยู่ แม้จะดูหลุดออกจากที่ตั้งเดิมไปบ้าง หากชายหาดบนเกาะที่มีความงดงามของชายหาดเป็นจุดขายหลักเกิดการกัดเซาะ หนทางรอด คือการป้องกันแบบชั่วคราวเฉพาะพื้นที่และช่วงเวลาที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น และควรรื้อถอนออกในช่วงเวลาที่หมดความจำเป็น มิฉะนั้นชายหาดสวยงาม ที่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจะหมดมูลค่าลง และยากที่จะฟื้นคืนกลับสู่ความงดงามได้เหมือนเดิม

Beachlover

April 1, 2022

เปิดงบโครงการป้องกันชายฝั่งที่ขอตั้งใหม่ปี 2565!

จากที่ Beach Lover ได้เคยนำเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อป้องกันชายฝั่งของ 3 กรมหลักไปแล้วตามนี้ https://beachlover.net/สดๆร้อนๆ-เปิดร่างงบประมาณป้องกันชายฝั่งประจำปี-2565/ ในตอนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะโครงการป้องกันชายฝั่งที่จะขอตั้งใหม่ในปีงบประมาณ 2565 หรือไม่ผูกพันมาตั้งแต่ปีก่อนๆ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมทั้งสิ้น 6 โครงการจากทั้งหมด 53 โครงการใน 5 จังหวัด จากร่างงบประมาณ 2565 โดยมีรูปแบบเป็นโครงสร้างประเภทกำแพงกันคลื่นทั้งหมด ประเด็นที่น่าตั้งคำถามต่อการตั้งงบประมาณในครั้งนี้คือมี 3 จาก 6 โครงการที่ตั้งใหม่ด้วยงบประมาณปี 2565 นี้ ที่กรมโยธาธิการและผังเมืองเพิ่งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการครั้งที่ 1 ไปในเดือนนี้ (ก.ค.2564) จึงน่าตั้งข้อสังเกตว่า (1) หน่วยงานทราบได้อย่างไรว่าประชาชนจะยอมรับโครงการทั้ง 3 แห่งนี้ (2) หน่วยงานทราบได้อย่างไรว่า โครงสร้างกำแพงกันคลื่นจะเป็นทางเลือกที่ประชาชนต้องการมากที่สุด อะไรทำให้หน่วยงานมั่นใจถึงขนาดตั้งงบประมาณรอไว้ล่วงหน้าแล้วได้แบบนี้ ?!?

Beachlover

July 18, 2021

คลื่นซัด!! หาดปากน้ำปราณแนวเขื่อนพังราบ

ที่มา: http://www.prachuppostnews.com/ คลื่นลมแรงในทะเลพัดเข้าทาโถมเข้าหาชายฝั่ง น้ำทะเลกัดเซาะจนเขื่อนกันคลื่น ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พังได้รับความเสียหายยาวเพิ่มมากขึ้น เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ต้องนำธงแดงมาปักห้ามไม่ให้เข้าบริเวณพื้นที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเกรงจะเป็นอันตราย วันนี้(วันที่14มกราคม2563)   ผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปบริเวณ  ชายหาดปากน้ำปราณ ต.ปากน้ำปราณ  อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่าเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาหลายปียังไม่มีหน่วยงานภาครัฐ   ที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน       ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว    มีทั้งร้านอาหาร   โดยปัจจุบันการกัดเซาะชายหาดปากน้ำปราณ หนักขึ้นอย่างต่อเนื่อง    ซึ่งสภาพเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวบริเวณตั้งแต่     เลยสะพานปลามาถึงบริเวณร้านอาหารจนไปถึงบริเวณแนวเขื่อนกันคลื่นอีกส่วนที่ยังไม่เสียหาย บริเวณจุดที่เสียหายเกิดจากคลื่นลมมรสุมรุนแรงของทุกปีที่ซัดเข้าหาชายฝั่งปากน้ำปราณ  จนสร้างความเสียหายอย่างหนัก พื้นที่หาดถูกกัดเซาะเข้ามาด้านในกว่า5เมตรทั้งที่เป็นร้านอาหารและบริเวณลานพักผ่อนปูตัวหนอนแนวต้นสนหายไปถึง2ชั้นแล้ว ในปัจจุบันนี้ ด้านนายธงชัย สุณาพันธ์ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำปราณ  กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปีและปีนี้ยอมรับว่าหนักการกัดเซาะลึกเข้ามาในพื้นที่ด้านใน ซึ่งปัญหาการกัดเซาะที่นี่ ตนเองได้ทำหนังสือให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับทราบแล้วเมื่อวานนี้ถึงความเสียหายแนวยาวหลายร้อยเมตร ซึ่งการดำเนินการต้องอาศัยกรมโยธาธิการและผังเมือง  ลำพังเทศบาลฯไม่สามารถดำเนินการได้ ยิ่งตอนนี้สะพานปลาเก่าเหลือแต่เสาทำให้กระแสคลื่นซัดเข้ามาในจุดที่พบเสียหายอย่างหนักและรุนแรงขึ้น ทางเทศบาลฯทำได้เพียงปักธงแดง และกั้นแนวเชือกและแนวรั้วไม้ไผ่เท่านั้น ว่าห้ามทุกคนเข้าไปเป็นจุดอันตราย หากแก้ไขเฉพาะหน้าก็ต้องรอให้คลื่นลมสงบในช่วงเดือนมีนาคมนี้   จะนำถุงบิ๊กแบ็คไปทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นแนวป้องกันชั่วคราว จนกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวจะเข้ามาซ่อมแซมและน่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก นางสาวธนวัฒน์  ธนศร เจ้าของร้านอาหารชวนนั่ง กล่าวว่าคลื่นลมแรงตั้งแต่ก่อนปีใหม่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างหนัก จนกัดเซาะเข้ามาด้านใต้พื้นศูนย์อาหาร  และมาหลังปีใหม่ก็ยังหนักอยู่จึงว่าจ้างรถลงไปตักทรายเข้ามาถมด้านใต้ไปบ้างแล้วโชคดีวันนี้คลื่นลมเริ่มเบาเริ่มพัดทรายเข้ามาบ้าง แต่ก็อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข  เพราะเกิดขึ้นทุกปี และเป็นอันตราย

Beachlover

January 15, 2021

ได้คำตอบแล้ว ท่อซีเมนต์ ณ หาดหว้าขาว

หาดหว้าขาวอยู่ทางทิศใต้ของกุยบุรี เป็นหาดทรายยาวต่อเนื่องกว่า 20 กิโลเมตร ตั้งแต่ตำบลบ่อนอกเรื่อยไปจนถึงตำบลอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ สภาพทั่วไปเป็นหาดทรายขาวยาวต่อเนื่อง มีป่าชายหาดปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ มีบ้านส่วนตัว รีสอร์ท และชุมชนประปราย ส่วนมากเป็นพื้นที่เอกชนแปลงโล่งที่ยังไม่ได้พัฒนา เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 Beach Lover ได้ลงสำรวจภาคสนามโดยการถ่ายภาพมุมสูง พบการวางท่อซีเมนต์ต่อกันเป็นแนวยาว 8-9 ท่อต่อ 1 แนว โดยวางตั้งฉากกับชายฝั่งประหนึ่งเป็นรอดักทราย [ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรอดักทราย https://beachlover.net/groin/ ] ณ หาดหว้าขาว บ่อนอก ในพิกัด UTM ประมาณ 590994E และ 1321031N โดย Beach lover ได้นำเสนอไปแล้วตามโพสนี้ https://beachlover.net/ท่ออะไร-ยังไง-หาดหว้าขาว-บ่อนอก/ โดย ณ ขณะนั้นยังไม่ทราบเจ้าของและสาเหตุการวาง หลังจากนำเสนอไปแล้วระยะหนึ่ง ได้รับความร่วมมือจากผู้รักชายหาด และเจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่าลงไปตรวจสอบพบว่าเป็นการก่อสร้างในแนวกรรมสิทธิ์มิได้ล่วงล้ำลำน้ำแต่ประการใด โดยได้ตรวจสอบแล้วจากโปรแกรม land map ของกรมที่ดิน คาดว่าสร้างมานานแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี Beach Lover ต้องขอขอบคุณประชาชนผู้รักชายหาดที่ได้แจ้งไปยังกรมเจ้าท่าให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ […]

Beachlover

December 29, 2020
1 2