การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง: สาเหตุ วิธีการ และผลกระทบ

โครงสร้างป้องกันชายฝั่ง เช่น กำแพงกันคลื่น เขื่อนกันคลื่น และเขื่อนปากร่องน้ำ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องชายฝั่งจากการกัดเซาะ คลื่นลมแรง และคลื่นสึนามิ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเหล่านี้อาจเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อถึงเวลาหนึ่งจึงอาจจำเป็นต้องมีการรื้อถอน บทความนี้ Beach Lover จะอธิบายถึงสาเหตุ วิธีการ และผลกระทบของการรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง โดยอ้างอิงจากงานวิจัยและกรณีศึกษาหลายแห่ง สาเหตุของการรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง โดยทั่วไปแล้ว การรื้อถอนโครงสร้างชายฝั่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งด้านโครงสร้าง ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านกฎหมาย โดยสามารถจำแนกออกเป็นหัวข้อหลักได้ดังนี้ 1. ความเสียหายหรือเสื่อมสภาพของโครงสร้าง โครงสร้างชายฝั่งต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางทะเลที่รุนแรง เช่น คลื่นลม ระดับน้ำขึ้นลง และการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้โครงสร้างเสื่อมสภาพ เช่น โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กมักเกิดการกัดกร่อนของเหล็กจากสภาวะแวดล้อมชายฝั่งทะเล ทำให้เกิดความเสียหายก่อนเวลาอันควร (Rahman et al., 2024) หากโครงสร้างเสื่อมสภาพจนไม่ปลอดภัย ก็อาจจำเป็นต้องรื้อถอนเพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม 2. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงสร้างบางประเภท เช่น เขื่อนปากร่องน้ำหรือเขื่อนยื่นออกไปในทะเล อาจรบกวนการเคลื่อนที่ของตะกอนชายฝั่งตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการสะสมของตะกอนในบางพื้นที่ และเกิดการกัดเซาะรุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียง (Salleh, ไม่ระบุปี) […]

Beachlover

June 16, 2025

แบบจำลอง AQUASEA เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากท่าเทียบเรือ

แบบจำลอง AQUASEA เป็นแบบจำลองเพื่อใช้สำหรับการจำลอง กระบวนการทางทะเลโดยเฉพาะในพื้นที่น้ำลึกถึงน้ำตื้น ซึ่งมุ่งเน้นการใช้งานสำหรับงานออกแบบทางวิศวกรรมชายฝั่งและพลังงานทางทะเล AQUASEA สามารถจำลองอะไรได้บ้าง? 1. คลื่น (Wave Modeling): จำลองลักษณะคลื่นลมในทะเลแบบ non-stationary , wave transformation เช่น shoaling, refraction, diffraction และจำลองการแตกตัวของคลื่น (breaking), wave set-up และ wave run-up 2. กระแสน้ำ (Hydrodynamics): จำลองกระแสน้ำในทะเลจากลม น้ำขึ้นน้ำลง หรือผลต่างความหนาแน่น จำลองแรงคลื่นและการตอบสนองของกระแสน้ำต่อสิ่งก่อสร้างทางทะเล เช่น offshore platforms, ท่าเรือ, ฟาร์มกังหันลม 3. ความปั่นป่วน (Turbulence and Mixing) : วิเคราะห์การผสมของน้ำเค็ม/น้ำจืด, ตะกอน, สารมลพิษ, ความร้อน ฯลฯ 4. แบบจำลองร่วมกับโครงสร้าง (Structure Interaction) สามารถจำลองผลกระทบของสิ่งปลูกสร้างต่อคลื่นและกระแสน้ำ เช่น ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง (offshore wind farms), เขื่อนกันคลื่น, ท่าเรือ […]

Beachlover

June 10, 2025

หัวหาดเทียม (Artificial Headlands) คืออะไร

หัวหาดเทียม หนึ่งในโครงการบรรเทาการกัดเซาะ ส่งเสริมการตกตะกอนของตะกอนทราย และปกป้องแนวชายฝั่ง โครงสร้างเหล่านี้ถูกออกแบบให้เลียนแบบลักษณะของหัวหาดธรรมชาติ ซึ่งเป็นภูมิลักษณ์ที่ยื่นออกไปในทะเลและมีอิทธิพลต่อรูปแบบของคลื่นและการเคลื่อนย้ายตะกอน หัวหาดเทียมมักได้รับการพิจารณาให้เหมาะสมมากกว่าสิ่งก่อสร้างป้องกันชายฝั่งแบบแข็ง เช่น เขื่อนกันคลื่นหรือรอดักทราย เนื่องจากมีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ทางนิเวศควบคู่ไปกับการตอบสนองต่อความจำเป็นในการป้องกันชายฝั่ง หัวหาดเทียม มักสร้างขึ้นจากฝั่งแล้วยื่นออกไปในทะเลคล้ายแหลมหัวหาดธรรมชาติ เพื่อเลียนแบบบทบาทของแหลมที่ปกป้องชายหาดจากการกัดเซาะของคลื่น โดยมักจะใช้ร่วมกับการเติมทราย (beach nourishment) เพื่อให้เกิดชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยว (crescent-shaped bay) ระหว่างหัวหาด หน้าที่ของหัวหาดเทียม องค์ประกอบโดยทั่วไป ผลกระทบทางนิเวศในเชิงบวก หัวหาดเทียมสามารถส่งผลดีทางนิเวศวิทยาในหลายด้าน ได้แก่ การสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้แก่สิ่งมีชีวิตในทะเล การเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และการส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศชายฝั่ง ตัวอย่างเช่น หัวหาดเทียมสามารถทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยทดแทนสำหรับสิ่งมีชีวิตเกาะติดพื้นผิว ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ของชนิดพันธุ์เมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งธรรมชาติ นอกจากนี้ โครงสร้างหัวหาดเทียมยังสามารถลดพลังงานของคลื่น และก่อให้เกิดสภาวะที่สงบในบริเวณด้านในของโครงสร้าง (lee side) ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของระบบพืชพรรณชายฝั่ง เช่น ทุ่งหญ้าชายเลน หรือพืชลุ่มน้ำเค็มอื่น ๆ อีกทั้ง หัวหาดเทียมยังสามารถมีบทบาทในการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลที่เสื่อมโทรม โดยทำหน้าที่เป็นแนวปะการังเทียม (artificial reef) ที่ให้ที่หลบภัยและแหล่งวางไข่สำหรับปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในบางกรณี หัวหาดเทียมได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถเพิ่มผลผลิตของทรัพยากรประมง โดยการเพิ่มชนิดพันธุ์และความชุกชุมของสัตว์หน้าดิน ผลกระทบทางนิเวศในเชิงลบ แม้หัวหาดเทียมจะมีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ทางนิเวศ แต่หากไม่ได้รับการออกแบบหรือติดตั้งอย่างเหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบได้ โครงการที่ขาดการวางแผนรอบคอบอาจนำไปสู่การสูญเสียถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ การรบกวนกระบวนการเคลื่อนย้ายตะกอน และการเปลี่ยนแปลงพลศาสตร์ชายฝั่ง […]

Beachlover

March 31, 2025

การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง: ผลกระทบและการจัดการ

การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทะเลเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและซับซ้อน เนื่องจากมีผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบต่อพื้นที่ชายฝั่งเดิม ดังต่อไปนี้ ผลกระทบด้านบวก ผลกระทบด้านลบ การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่งให้มีผลกระทบน้อยที่สุดต้องอาศัยการวางแผนและการจัดการที่รอบคอบ โดยมีแนวทางที่เหมาะสม 5 แนวทาง ดังต่อไปนี้: 1.การศึกษาผลกระทบและวางแผนล่วงหน้า 2.การเลือกใช้แนวทางการฟื้นฟูที่เหมาะสม 3.การมีส่วนร่วมของชุมชน 4.การเฝ้าระวังและปรับปรุงหลังการรื้อถอน 5.การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม

Beachlover

November 20, 2024

โครงการสร้างเกาะเทียม อาจส่งผลอะไรบ้าง

โครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียม เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่พบได้ทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์หลากหลาย เช่น เพื่อการอยู่อาศัย การท่องเที่ยว หรือเพื่อสร้างพื้นที่อุตสาหกรรม การก่อสร้างเกาะเทียมเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่มีโครงการสำคัญในหลากหลายภูมิภาค ซึ่งแต่ละโครงการมีผลกระทบที่แตกต่างกันต่อสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ทางสังคมและการเมือง ในทะเลจีนใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้พัฒนาเกาะเทียมอย่างรวดเร็ว เพิ่มการควบคุมทางการเมืองเหนือภูมิภาค ในขณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก รวมถึงการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและระบบนิเวศ ในทำนองเดียวกัน ในช่องแคบ Qiongzhou การก่อสร้างเกาะเทียม Ruyi ได้เปลี่ยนแปลงสนามกระแสน้ำขึ้นน้ำลง และก่อให้เกิดการกัดเซาะและการทับถมของตะกอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผืนน้ำโดยรอบ ในอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างเกาะเทียม ด้วยโครงการต่างๆ เช่น Palm Jumeirah ในดูไบ ซึ่งได้ทำลายสิ่งมีชีวิตทางทะเล เพิ่มความขุ่นของน้ำ และรบกวนการเคลื่อนที่ของตะกอนตามธรรมชาติ แม้ว่าจะมีการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบ แล้วก็ตาม ในทะเลเหลืองตอนใต้ การก่อสร้างเกาะเทียม Xitaiyang Sand Shoal ได้รับการศึกษาถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางอุทกพลศาสตร์และตะกอน ซึ่งเผยให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันการกัดเซาะที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาเสถียรภาพของพื้นที่ นอกจากนี้ ใน Tang Shan Bay การก่อสร้างเกาะเทียมได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางอุทกพลศาสตร์และเปลี่ยนแปลงลักษณะของการกัดเซาะ-ทับถม โดยรวมแล้ว ในขณะที่เกาะเทียมเสนอผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจ เช่น ความมั่นคงด้านพลังงานของจีนในทะเลจีนใต้ แต่ก็ก่อให้เกิดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ซึ่งต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อระบบนิเวศทางทะเลและพลวัตของชายฝั่ง […]

Beachlover

July 10, 2024

Life Cycle Assessment (การประเมินวัฏจักรชีวิต, LCA) กับงานป้องกันชายฝั่งทะเล

Life Cycle Assessment (LCA) หรือ การประเมินวัฏจักรชีวิต สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานป้องกันชายฝั่งทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย LCA จะช่วยประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของโครงการป้องกันชายฝั่ง ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การก่อสร้าง การบำรุงรักษา ไปจนถึงการรื้อถอน LCA กับงานป้องกันชายฝั่งทะเล: ประโยชน์ของการใช้ LCA ในงานป้องกันชายฝั่งทะเล: ตัวอย่างการนำ LCA ไปใช้ในงานป้องกันชายฝั่งทะเล: สรุป: การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนางานป้องกันชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน โดย LCA ช่วยให้สามารถประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของโครงการ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเนื่องจากประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลยาวมากกว่า 3,000 กิโลเมตร และกำลังประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงในบางพื้นที่ การนำ LCA มาใช้ในการวางแผนและดำเนินโครงการป้องกันชายฝั่ง จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับชายฝั่งทะเลของประเทศไทย

Beachlover

June 25, 2024