
การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่งทะเลเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและซับซ้อน เนื่องจากมีผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบต่อพื้นที่ชายฝั่งเดิม ดังต่อไปนี้
ผลกระทบด้านบวก
- ฟื้นฟูธรรมชาติของชายฝั่ง
- การรื้อถอนสามารถช่วยคืนรูปแบบธรรมชาติของชายฝั่ง เช่น การกลับมาของระบบนิเวศหาดทราย ระบบรากพืช และการสะสมตัวของทรายตามธรรมชาติ
- ลดผลกระทบจากการกัดเซาะด้านท้ายน้ำ
- โครงสร้างป้องกันชายฝั่งบางชนิด เช่น กำแพงกันคลื่น อาจก่อให้เกิดการกัดเซาะรุนแรงในพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง เมื่อรื้อถอนแล้ว พื้นที่ชายฝั่งอาจกลับเข้าสู่สมดุลใหม่
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมชายฝั่ง
- ชายหาดที่ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติอาจดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น
ผลกระทบด้านลบ
- ความเสี่ยงต่อโครงสร้างหรือชุมชนใกล้ชายฝั่ง
- หากชายฝั่งยังคงถูกกัดเซาะ การรื้อถอนอาจทำให้พื้นที่บางส่วนเกิดความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการถูกกัดเซาะหรือความเสียหายจากพายุ
- ต้นทุนและผลกระทบระหว่างการรื้อถอน
- การรื้อถอนอาจมีค่าใช้จ่ายสูง และอาจสร้างผลกระทบชั่วคราวต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การกระจายตัวของเศษซากวัสดุ
- การปรับตัวของระบบนิเวศ
- การเปลี่ยนแปลงหลังการรื้อถอนอาจทำให้สัตว์และพืชบางชนิดต้องใช้เวลาปรับตัวหรือสูญเสียที่อยู่อาศัย

การรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่งให้มีผลกระทบน้อยที่สุดต้องอาศัยการวางแผนและการจัดการที่รอบคอบ โดยมีแนวทางที่เหมาะสม 5 แนวทาง ดังต่อไปนี้:
1.การศึกษาผลกระทบและวางแผนล่วงหน้า
- ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA): วิเคราะห์ผลกระทบต่อระบบนิเวศ การกัดเซาะ การสะสมตัวของทราย และผลต่อชุมชนชายฝั่ง
- การประเมินทางเศรษฐกิจและสังคม: พิจารณาค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนและประโยชน์ระยะยาว เช่น การเพิ่มพื้นที่ชายหาดหรือฟื้นฟูการท่องเที่ยว
- วางแผนทีละขั้นตอน: การรื้อถอนควรดำเนินการทีละส่วนเพื่อลดผลกระทบในวงกว้าง
2.การเลือกใช้แนวทางการฟื้นฟูที่เหมาะสม
- การเสริมระบบนิเวศธรรมชาติ: เช่น การปลูกป่าชายเลน การสร้างเนินทราย หรือการปลูกพืชที่ช่วยยึดทราย
- การเสริมทรายชายฝั่ง : หากชายหาดมีการสูญเสียทรายไปมาก อาจต้องเติมทรายเพื่อป้องกันผลกระทบจากคลื่น
- สร้างโครงสร้างธรรมชาติ: เช่น การสร้างแนวปะการังเทียมหรือแนวกันคลื่นแบบธรรมชาติ
3.การมีส่วนร่วมของชุมชน
- การให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจ: จัดกิจกรรมให้ข้อมูลแก่ชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจถึงความจำเป็นและผลกระทบของการรื้อถอน
- การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ: ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและติดตามผล
4.การเฝ้าระวังและปรับปรุงหลังการรื้อถอน
- การติดตามผล: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่ง เช่น อัตราการกัดเซาะ การสะสมตัวของทราย และการฟื้นตัวของระบบนิเวศ
- การปรับปรุง: หากพบปัญหาหลังการรื้อถอน เช่น การกัดเซาะเพิ่มขึ้น อาจต้องปรับแนวทาง เช่น เติมทรายเพิ่ม หรือเพิ่มโครงสร้างธรรมชาติ
5.การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
- ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบ GIS และแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของชายฝั่ง
- นำวัสดุจากการรื้อถอนมารีไซเคิล เช่น ใช้เศษคอนกรีตในโครงการก่อสร้างอื่น