ผลกระทบของการพัฒนาท่าเรือขนาดใหญ่ต่อการไหลเวียนของน้ำบริเวณชายฝั่ง
การพัฒนาท่าเรือขนาดใหญ่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในชายฝั่ง ซึ่งได้รับการยืนยันจากการศึกษาหลายกรณีเกี่ยวกับการก่อสร้างและขยายท่าเรือ กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การขุดลอก การสร้างเขื่อนกันคลื่น และการดัดแปลงโครงสร้างชายฝั่ง ทำให้กระบวนการไหลเวียนของน้ำและการเคลื่อนย้ายตะกอนเปลี่ยนไป นำไปสู่การกัดเซาะ การสะสมของตะกอน และการเปลี่ยนแปลงของแนวชายฝั่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลโดยรอบ การเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนย้ายตะกอนและลักษณะชายฝั่ง การพัฒนาท่าเรือมักเกี่ยวข้องกับการขุดลอกและการสร้างโครงสร้าง เช่น เขื่อนกันคลื่นและเขื่อนกันทราย ซึ่งรบกวนกระบวนการพัดพาตะกอนตามธรรมชาติ โดยปกติแล้ว ด้านเหนือน้ำ (Updrift) ของโครงสร้างจะมีการสะสมของตะกอน ขณะที่ด้านท้ายน้ำ (Downdrift) มักเกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรง ทำให้แนวชายฝั่งเปลี่ยนแปลงไปมาก (Kudale, 2010) อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ท่าเรืออาจช่วยรักษาเสถียรภาพของแนวชายฝั่ง เช่น ท่าเรือ Tangier Med ในโมร็อกโก พบว่าช่วยลดผลกระทบจากพายุและคลื่นสูงได้ แม้ว่าจะต้องคำนึงถึงผลกระทบเชิงซ้อนระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากมนุษย์กับปัจจัยธรรมชาติ (Zayoun, 2023) การเปลี่ยนแปลงของค่าความเค็มและคุณภาพน้ำ การพัฒนาท่าเรือสามารถทำให้ระดับความเค็มของน้ำในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น ในท่าเรือ Savannah Harbor พบว่าการรุกล้ำของน้ำเค็มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำและแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาในน้ำจืด (Brown et al., 1987) นอกจากนี้ ตะกอนแขวนลอยที่เพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างท่าเรือสามารถทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมและกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ที่ท่าเรือ Dongjiakou […]
