งานถมทะเลเพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในประเทศไทยที่ผ่านมาอยู่ตรงไหนกันบ้าง Beach Lover ขอพาสำรวจท่าเรือขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก 2 แห่ง คือ แหลมฉบัง จ.ชลบุรี และมาบตาพุด จ.ระยอง ที่เกิดขึ้นมานานมากแล้วจากนโยบายรัฐในอดีตที่ต้องการเปลี่ยนพื้นที่ภาคตะวันออกแถบนี้ให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม จนถึงปัจจุบันได้มีการถมทะเลเพื่อขยายท่าเรือไปหลายครั้ง โดยในปี 2568 กำลังถมทะเลเพื่อขยายท่าเรือต่อในระยะที่ 3 ทั้งสองพื้นที่ (https://www.eeco.or.th/th/laem-chabang-port-phase-3 และ https://maptaphut3.com/#)


ส่วนอีกโครงการหนึ่งซึ่งมาขนาดใหญ่กว่า ยังไม่ได้ก่อสร้างแต่มีแผนว่าจะแล้วเสร็จเฟสแรกในปี 2583 คือโครงการถมทะเลเพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์สองฝั่งทะเลบริเวณแหลมริ่ว จ.ชุมพร และ อ่าวอ่าง จ.ระนอง (https://www.landbridgethai.com)


โครงการถมทะเลเพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์สองฝั่งทะเลบริเวณแหลมริ่ว จ.ชุมพร (5,808 ไร่) และ อ่าวอ่าง จ.ระนอง (6,975 ไร่) นั้น หากเทียบเคียงกับโครงการถมทะเลขนาดใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตอย่างท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี (5,257 ไร่ รวมระยะที่ 3 ที่กำลังดำเนินการ) และท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด จ.ระยอง (3,362 ไร่ รวมระยะที่ 3 ที่กำลังดำเนินการ) พบว่า โครงการถมทะเลเพื่อสร้างท่าเรือภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ทั้งสองฝั่งทะเลในสองจังหวัดรวมกันนั้นกินพื้นที่ใหญ่กว่าท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังประมาณ 2.4 เท่า และใหญ่กว่าท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดประมาณ 3.8 เท่า หรือหากเทียบเคียงพื้นที่กับเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น จะพบว่าพื้นที่ถมทะเลของแต่ละโครงการนั้นใหญ่กว่าเกาะหลีเป๊ะ1.6 ถึง 3.4 เท่าตัว

สิ่งที่แตกต่างกันคือ ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและมาบตาพุดนั้นเป็นการถมทะเลที่ประชิดติดกับชายฝั่งในระบบนิเวศที่เป็นทราย โครงสร้างท่าเรือเชื่อมต่อกับชายฝั่งทะเลเลยโดยไม่มีสะพานข้ามทะเลไปยังท่าเรือแตกต่างจากท่าเรือที่อาจเกิดขึ้นภายใต้โครงการแลนด์ที่ถมทะเลห่างฝั่งออกไปโดยมีสะพานเชื่อม