จากข่าวฝนตกหนักและดินโคลนถล่มบางพื้นที่ของเกาะภูเก็ตในช่วงวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 ตาม Link ด้านล่าง
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/231087
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/231131
https://www.thaipbs.or.th/news/content/343453
https://www.thaipbs.or.th/news/content/343479
Beach Lover ขอชวนมองต่อถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่ชายฝั่งทะเล หากดินตะกอนนี้ไหลลงสู่ชายฝั่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้:
- การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ชายฝั่ง: เมื่อโคลนถล่มลงสู่ทะเล มันจะพัดพาตะกอนจำนวนมหาศาลไปด้วย ตะกอนเหล่านี้อาจทับถมบริเวณปากแม่น้ำ ชายหาด หรือแนวปะการัง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศชายฝั่ง เช่น การตื้นเขินของปากแม่น้ำ การกัดเซาะชายหาด หรือการถูกทำลายของแนวปะการัง
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล: ตะกอนที่ถูกพัดพามาจากโคลนถล่มสามารถทำให้เกิดความขุ่นของน้ำทะเล ส่งผลให้อัตราการสังเคราะห์แสงของพืชและสาหร่ายลดลง นอกจากนี้ ตะกอนยังอาจทับถมบนพื้นทะเล ทำให้สัตว์ทะเลหน้าดิน เช่น หอย ปู และปลาขนาดเล็ก ขาดออกซิเจนและตายลง
- ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: ชายฝั่งทะเลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ชายฝั่งและความเสียหายต่อระบบนิเวศทางทะเลที่เกิดจากโคลนถล่มสามารถส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การประมงชายฝั่งก็อาจได้รับผลกระทบจากการลดลงของจำนวนสัตว์ทะเล
สรุปได้ว่า โคลนถล่มสามารถส่งผลกระทบต่อชายฝั่งทะเลทั้งในด้านกายภาพ ระบบนิเวศ และเศรษฐกิจ ดังนั้น การเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดโคลนถล่มจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งและความปลอดภัยของชุมชนชายฝั่ง