Beach Lover ได้เคยพาสำรวจโครงสร้างป้องกันชายฝั่งบริเวณหาด Batu Ferringhi เกาะปีนัง มาเลเซีย ไปแล้วหลายรอบ ตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อสร้างใหม่ๆจนสร้างแล้วเสร็จ ค้นหาได้จาก icon search ด้านขวาบนของหน้าหลัก web ช่วงปลายปี 2567 Beach Lover ได้กลับมาสำรวจพื้นที่อีกครั้ง พบว่ากำแพงรูปแบบประหลาดที่เคยอธิบายไปแล้วในโพสเก่าๆนั้น พบร่องรอยความเสียทั้งทรุดและแตกเกือบตลอดทั้งแนว และยังพบอีกว่าชายหาดข้างๆกันนั้นเริ่มลงมือก่อสร้างโครงสร้างป้องกันชายฝั่งต่อกันไปบ้างแล้ว
Beach Lover เคยพาชมชายหาดของรัฐปีนังมาหลายครั้งหลายหน แต่ยังไม่เคยพาชมโครงการถมทะเลที่กำลังเกิดขึ้นเลย โครงการถมทะเลที่ปีนังเรียกว่า Penang South Reclamation (PSR) มีเป้าหมายเพื่อสร้างเกาะเทียม 3 เกาะ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 เอเคอร์ (11,381 ไร่) บริเวณชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียตั้งแต่ปี 2019 โดยผู้ดำเนินการถมทะเลจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม คาดว่าใช้เวลาสร้างทั้งหมดประมาณ 15-20 ปี ค่าใช้จ่ายในการถมทะเลที่ปีนังอยู่ที่ประมาณ 60 ริงกิต (ประมาณ 460 บาท) ต่อตารางฟุต สำหรับพื้นที่เกาะแรกที่มีขนาด 2,300 เอเคอร์ (5,817 ไร่) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาถมทะเลประมาณ 3 ปี นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการนี้คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 46,000 ล้านริงกิต (354,200 ล้านบาท) โดย SRS Consortium จะต้องระดมทุนประมาณ 2,000 ล้านริงกิต (15,400 ล้านบาท) สำหรับการดำเนินการในระยะแรก โครงการถมทะเลที่ปีนังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้าน […]
Beach Lover ได้พาชมหาด Kuta, Lombok ไปแล้ว ติดตามได้จากโพสก่อนหน้า ครั้งนี้ขอพาชมชายหาดริมหมู่บ้านชาวประมง ทิศตะวันตกของหาด Kuta ซึ่งมีการใช้หน้าหาดเพื่อการจอดเรือประมงพื้นบ้าน และวางอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการประมงขนาดเล็ก บ้านเรือนของชาวประมงแถบนี้สร้างประชิดติดชายหาดมากๆ ยามน้ำขึ้นสูง ยามคลื่นลมแรง จึงอาจส่งผลให้น้ำทะเลซัดเข้าบ้านได้ ชาวประมงจึงหาทางป้องกันตนเองโดยการสร้างโครงสร้างป้องกันขนาดเล็กแบบชั่วคราวไว้หน้าบ้านใครบ้านมัน ในรูปแบบที่คล้ายๆกันคือกระสอบทรายและการปักไม้
การฝังตัวในหาดทรายนั้นเปรียบเสมือนการโอบกอดจากธรรมชาติ ที่มอบทั้งความผ่อนคลายและประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ ลองนึกภาพนอนราบลงบนผืนทรายละเอียดอุ่นๆ ปล่อยให้เม็ดทรายซึมซับความร้อนจากแสงแดดโอบล้อมร่างกายเอาไว้ ราวกับได้รับการนวดผ่อนคลายจากธรรมชาติอย่างนุ่มนวล นี่คือช่วงเวลาที่จะได้หลีกหนีจากความวุ่นวาย เพลิดเพลินไปกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง และสัมผัสถึงพลังแห่งการเยียวยาจากผืนทราย เท่าที่มีการเล่าขานโดยปราศจากข้อชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ มาฝังตัวในทรายมีประโยชน์ดังนี้ การฝังตัวในหาดทรายจึงเป็นมากกว่ากิจกรรมสันทนาการ เป็นการบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจด้วยพลังแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนระบุว่าชายหาดใดในเวียดนามที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการฝังตัวในทรายโดยเฉพาะ แต่กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมและพบเห็นได้ทั่วไปบนชายหาดเมืองญาจาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช้าตรู่หรือเย็น ซึ่งมักจะเป็นผู้สูงอายุที่นิยมทำกิจกรรมนี้ จากการเดินเท้าสำรวจพบทุกเพศทุกวัย หลายคนมาพร้อมอุปกรณ์เพื่อการขุดฝังกลบ โดยมีการฝังตัวบนทรายในทุกระดับของชายหาด หมายถึงตั้งแต่ระดับน้ำท่วมถึงและโซนชายหาดแห้งที่น้ำท่วมไม่ถึง เหตุผลที่การฝังตัวในทรายเป็นที่นิยมในหมู่ชาวเวียดนามบางส่วนอาจมาจากความเชื่อที่สืบทอดกันมาว่าทรายมีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ เช่น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ หรือแม้กระทั่งช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น นอกจากนี้ การฝังตัวในทรายยังเป็นกิจกรรมสันทนาการที่เรียบง่ายและผ่อนคลาย ช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติและคลายความเครียดจากชีวิตประจำวันได้
สืบเนื่องจากการเดินเท้าสำรวจชายหาดกลางเมือง Nha Trang ที่ได้นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ Beach Lover ขอพาเดินจนสุดชายหาดด้านทิศเหนือที่เป็นรอยต่อไปยังปากแม่น้ำ Cai พบว่าปลายหาดทางทิศเหนือบริเวณนี้มีการสร้างกำแพงกันคลื่นขนาดใหญ่ ลักษณะตั้งตรงแต่ส่วนกลางของกำแพงถูกปรับแนวให้ล้อตามการม้วนตัวของปลายยอดคลื่น หรืออธิบายแบบง่ายๆคือ ออกแบบบางส่วนของกำแพงให้เป็น Curve เพื่อให้คลื่นที่วิ่งมาปะทะม้วนตัวกลับนั่นเอง ส่วนฐานกำแพงนั้นเป็นคอนกรีตบล็อควางลดหลั่นระดับกันหลายชั้น เพื่อป้องกันการกัดเซาะที่ฐาน ส่วนด้านหลังกำแพงปรับภูมิทัศน์เป็นทางเดินเท้า ปลูกต้นไม้สวนหย่อมให้กลมกลืนกับธรรมชาติ แม้กำแพงกันคลื่นจะสร้างริมหาด แต่ยังไม่พบผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงนี้ อาจเนื่องมาจากแนวกำแพงอยู่ในระยะห่างจากชายหาดค่อนข้างมาก เท่าที่สังเกตระดับน้ำขึ้นสูงที่สุดของวันในฤดูกาลนี้ ยังขึ้นไม่ถึงฐานของกำแพง จึงอาจเป็นเหตุให้กำแพงนี้ไม่ส่งต่อผลกระทบไปยังพื้นที่ข้างเคียงก็เป็นได้ แนวระดับน้ำขึ้นสูงสุดของวัน ยังไม่ถึงฐานของกำแพง
เมือง Nha Trang หรืออ่านออกเสียงเป็นภาษาเวียดนามว่า “ญาจาง” เป็นเมืองชายฝั่งทะเลเลื่องชื่ออีกแห่งของเวียดนามไม่เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น แต่คนเวียดนามเองก็เลือกมาพักผ่อน ท่องเที่ยวทางทะเลที่นี่ และที่มีชื่อเสียงมากๆน่าจะเป็นอาหารทะเลที่สดและราคาย่อมเยา เมืองญาจางตั้งอยู่ทางเวียดนามใต้ มีเส้นทางการบินตรงจากสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นนั่งรถเข้าเมืองอีกประมาณ 45 นาที ก็จะถึงชายหาดใจกลางเมืองที่มีความยาวประมาณ 5.5 กิโลเมตร เมืองญาจางมีสภาพอากาศร้อนชื้นไม่แตกต่างจากประเทศไทย ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงคือฤดูฝนช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม ซึ่งอาจทำให้การทำกิจกรรมทางน้ำ การชมทะเลและชายหาด ไม่สนุกเท่าฤดูกาลอื่นๆ Beach Lover ได้ลงสำรวจชายหาด Nha Trang พบว่าชายหาดค่อนข้างกว้างสม่ำเสมอตลอดทั้งแนว โดยมีความกว้างเฉลี่ยประมาณ 40 เมตร มีร่มเตียงของผู้ประกอบการวางให้บริการเป็นระยะๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามสไตล์ของแต่ละร้าน แต่ไม่ได้มีตลอดทั้งแนว คาดว่าน่าจะมีการวางกติกาบางอย่าง เพื่อมิให้หน้าหาดดูหนาแน่นจนเกินไป นอกจากนั้นยังพบการแบ่งเขตโซนเล่นน้ำโดยใช้ทุ่นไข่ปลา พร้อมการวางป้ายแจ้งผู้มาเยือนให้ทราบว่าบริเวณไหนเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย แต่ก็พบเห็นการเล่นน้ำนอกโซนตลอดทั้งแนวชายหาด โดยไม่พบการจอดเรือ หรือการเล่นเพื่อให้เล่นกีฬาทางน้ำบริเวณนี้ คาดว่าน่าจะมีการจัดแบ่งกันชัดเจนว่าโซนไหนเล่นได้ เล่นไม่ได้ มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายต่อผู้เล่นน้ำได้ สิ่งที่หาดท่องเที่ยวสาธารณะของเมืองไทยควรทำตามคือที่ล้างเท้าก่อนขึ้นจากชายหาด นอกจากจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวแล้ว จะส่งผลดีต่อการรักษาความสะอาดบริเวณชายหาดอีกด้วย มิฉะนั้นจะมีทรายจำนวนมากตามทางเดินคอนเรีตริมชายหาด ลานจอดรถ รวมถึงบนถนน ทางสัญจรต่างๆใกล้ๆชายหาด เมื่อฝนตกทรายเหล่านี้ก็จะไหลลงท่อระบายน้ำ […]
เมื่อได้ยินครั้งแรก ทุกคนน่าจะคิดถึง Kuta Beach หาดที่มีชื่อเสียงที่สุด สวรรค์ของ Surfer แห่งเกาะบาหลี แต่หาด Kuta ที่ Beach Lover จะพาชมครั้งนี้อยู่บนเกาะ Lombok อีกเกาะหนึ่งทางทิศตะวันออกของเกาะบาหลี หาด Kuta ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ Lombok ความคึกคักน้อยกว่า Kuta Beach ของบาหลีอย่างมากมาย หากใครชอบความเงียบ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านนัก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างครบครัน ราคาดูจะแรงกว่าบาหลีพอสมควร แต่หากแลกกับความเงียบและความเป็นส่วนตัว ก็นับว่าไม่เลวทีเดียวที่จะลองมาเยี่ยมมาเยือนหาดแห่งนี้ ชายหาดที่นี่เป็นทรายขาวไม่ละเอียดมากนัก เท่าที่สังเกตพบซากหอยซากประการัง เข้าใจว่าทรายบนชายหาดน่าจะเกิดการจากทับถมของซากเหล่านี้ ซึ่งจะแตกต่างจากอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ Lombok ที่เป็นหาดทรายสีดำที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทางทิศตะวันตกของชายหาดเป็นหมู่บ้านชาวประมงและที่จอดเรือประมงพื้นบ้าน มีเรือจอดกันละลานตา ผู้มาเยือนสามารถเดินเล่นชมวิถีชาวประมงพื้นบ้านได้ หากใครมาเยือนหาดนี้ยามน้ำลงก็จะพบทัศนียภาพแตกต่างจากช่วงน้ำขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะจะเผยให้เห็นดงหญ้าทะเลจำนวนมาก และหลากหลายชนิด ชาวบ้านท้องถิ่นแถบนี้จะพากับเดินเก็บหญ้าทะเลและสาหร่ายบางชนิด รวมถึงสัตว์น้ำที่ซุกตัวอยู่ตามซอกหลืบของดงหญ้าทะเลนี้ด้วย
Beach Lover ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของหาด Kuta หาดเลื่องชื่อบนเกาะ Bali ประเทศอินโดนีเซีย ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง หาอ่านได้จาก Search icon มุมขวาบน ค้นหาคำว่า “Kuta” หากกล่าวถึงบาหลี หาด Kuta เป็นชายหาดที่น้อยคนจะพลาดหากเดินทางมาเยือนเกาะแห่งนี้ ด้วยที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติงูระห์ไร สนามบินหลักของเกาะเพียง 10 นาที และด้วยชายหาดที่ยาวต่อเนื่องสุดลูกหูลูกตา ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละย่าน Kuta อาจเรียกได้ว่าเป็นหน้าต่างบานแรกที่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนบาหลีก็ว่าได้ Beach Lover ได้กลับมาเยือนหาดนี้อีกครั้งในเดือน กรกฎาคม 2567 พบว่าสภาพไม่แตกต่างไปจากครั้งก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยพบว่ามีนักเล่น Surf มากหน้าหลายตา หลายเชื้อชาติ ภาษา และช่วงวัย มาทดลองเล่น Surf บนหาดนี้เป็นจำนวนมากมายไม่ต่างจากเดิม หาดกูตา (Kuta Beach) บนเกาะบาหลี มีชื่อเสียงในเรื่องการเล่นเซิร์ฟด้วยหลายเหตุผล: สิ่งเหล่านี้ทำให้หาดกูตาเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเล่นเซิร์ฟและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ใครอยากลองหัดเล่นในราคาย่อมเยา แนะนำให้มาลองที่นี่ แล้วจะติดใจอยากแช่น้ำทะเลบนกระดานโต้คลื่นทั้งวัน
เมือง Mataram เป็นเมืองหลวงของเกาะ Lombok เกาะขนาดกลางทางทิศตะวันออกของประเทศ เป็นเมืองที่มีชายหาดอยู่ใจกลางเมือง แต่เป็นหาดสีดำ ไม่ได้เป็นหาดที่คนมาเล่นน้ำ ไม่มีที่พักริมทะเล ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดมากนัก ผู้คนท้องถิ่นมักมีนั่งพักผ่อน รับประทานอาหารช่วงเย็นถึงค่ำ เนื่องจากเป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมากของเมือง เหตุผลที่หาดแห่งนี้มีทรายเป็นสีดำสืบเนื่องมาจากการสะสมของแร่ธาตุภูเขาไฟ โดยเฉพาะแร่ธาตุที่มีสีเข้ม เช่น แร่แมกนีไทต์ (Magnetite) และแร่หินบะซอลต์ (Basalt) ที่ถูกกระแสน้ำและคลื่นทะเลพัดพามาสะสมอยู่ที่ชายหาด นอกจากนี้ การเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลก็สามารถสร้างหาดทรายสีดำได้เช่นกัน หาดทรายสีดำบนเกาะ Lombok นั้นนอกจากที่นี่แล้ว ยังมีอยู่อีกหลายแห่ง เช่น หาด Senggigi และหาด Malimbu ซึ่งเกิดจากลักษณะเดียวกันนี้ โดยมีต้นกำเนิดจากกิจกรรมภูเขาไฟที่มีอยู่มากมายในภูมิภาคนี้ เกาะ Lombok มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ เช่น ภูเขาไฟ Rinjani ซึ่งการระเบิดของภูเขาไฟเหล่านี้นำไปสู่การสะสมของแร่ธาตุภูเขาไฟที่มีสีดำ เช่น แมกนีไทต์และบะซอลต์ในทรายชายหาด ทรายสีดำโดยทั่วไปไม่มีผลเสียต่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส ในบางกรณี ทรายสีดำอาจมีแร่ธาตุบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น การช่วยขัดผิว หรือมีคุณสมบัติในการบำบัด แต่ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของทรายและแร่ธาตุในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในกรณีดังนี้: สำหรับหาดแห่งนี้และที่อื่นๆบนเกาะ Lombok ยังไม่พบรายงานเรื่องการระคายเคืองทางผิวหนังของผู้ใช้ชายหาดที่ได้สัมผัสทรายสีดำนี้
เกาะ Hulhumale ประเทศ Maldives เป็นเกาะที่เชื่อมต่อกับสนามบินนานาชาติหลักของประเทศ Maldives จะเรียกว่าอยู่บนเกาะเดียวกันก็ว่าได้ พื้นที่บริเวณนี้อดีตเป็นทะเล มีการถมทะเลเพื่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่เนื่องจากเมืองหลวง Male ซึ่งตั้งอยู่อีกเกาะหนึ่งใกล้ๆกันนั้นแออัดเต็มที พูดได้เลยว่า Maldives เนรมิตเกาะและเมืองนี้ขึ้นมาใหม่จากการถมทรายซึ่งมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลของประเทศนี้ โดยการถมทะเลสร้างเมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 Phase เชื่อมต่อกันด้วยสะพานข้าม ชายหาดบนเกาะนี้แม้ไม่สวยงามเมื่อเทียบกับหาดบนเกาะอื่นๆของ Maldives (ยกเว้นเมืองหลวงที่ไม่มีชายหาด) แต่ก็อาจงดงามมากกว่าชายหาดที่ชื่อว่าสวยที่สุดของหลายๆประเทศ ในโพสนี้ขอพาไปชมโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง สำหรับชายหาดบนเกาะ Hulhumale Phase 1 แม้โครงสร้างป้องกันชายฝั่งจะพบได้น้อยมากบนเกาะแห่งนี้ แต่มีรูปแบบที่น่าสนใจที่ควรนำมาเล่าสู่กันฟัง รูปแบบอาจเรียกว่าเป็นกำแพงกันคลื่นแบบคอนกรีต เพียงแต่วัสดุและการจัดวางค่อนข้างประหลาดกว่าที่อื่นๆ โดยพบคล้ายๆคอนกรีตที่บรรจุอยู่ในถุง แล้วนำมาวางแบบค่อนข้างแบนราบล้อไปตามความลาดของชายหาดบนแผ่นใยสังเคราะห์ มีความลาดชันเฉลี่ยประมาณ 15 องศา โดยพบความเสียหายบางตำแหน่งของกำแพง ที่น่าแปลกคือไม่พบถุงที่ควรจะห่อหุ้มคอนกรีตนี้อยู่บนชายหาดเลย สภาพของวัสดุที่พบนั้นคล้ายก้อนหินมาก ไม่แน่ใจว่าสร้างด้วยวิธีการไหนอย่างไร Beach Lover ยังพบโครงสร้างลักษณะคล้ายกันนี้บนเกาะอื่นของ Maldives ด้วยเช่นกัน ติดตามได้จากโพสถัดๆไป