เครือข่ายสื่อฯยื่นหนังสือให้อธิบดีกรมโยธาฯ ตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวน้อย ได้ปฏิบัติตามกฏหมายหรือไม่

ที่มา: https://ข่าวเด่นนิวส์สยามออนไลน์.com

วันที่ 11มิ.ย.64 เวลา13.00.น นายคฑาภณ สนธิจิตร ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติพร้อมด้วยตัวแทนผู้ร้องเรียนได้เข้ายื่นหนังสือกับนายพรพจน์ เพ็ญพาสอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอ่าวน้อยบริเวณชายหาดอ่าวน้อยหมู่ที่2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคิรีขันธ์ งบประมาณการก่อสร้าง68ล้านบาท ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการฯว่าหน่วยงานของกรมโยธาธิการฯได้ขออนุญาต-และปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองจ.ประจวบคิรีขันธ์หรือไม่ 


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่11กันยายน2562 ศาลปกครองจ.ประจวบคิรีขันธ์ ได้มีคำพิพากษาให้ทางกรมโยธาธิการฯต้องดำเนินการขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบกฎหมายที่ดินและให้ระงับการก่อสร้างฯ ระยะที่2 และที่3 ที่จะมีการก่อสร้างต่อจากระยะที่1จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆที่กฎหมายกำหนดให้ถูกต้องและในคำพิพากษามีคำสั่งให้กรมโยธาธิการฯดำเนินการเรื่องขอเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องและให้ระงับการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวน้อย ในระยะที่2 และ3ไว้ก่อน จนกว่าจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ถูกต้องครบถ้วนส่วนคำสั่งให้ชะลอการก่อสร้างให้ยกเลิกไป

โดยขณะนี้ผู้ร้องเรียนได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาเอาไว้แล้วโดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด แต่ปัจจุบันปรากฏว่ายังมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม 2564เป็นต้นมาการก่อสร้างในครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายของชายหาดอ่าวน้อยเป็นอย่างมากและจากการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่พบว่าทางกรมโยธาธิการฯได้ดำเนินการขออนุญาติเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างแต่อย่างใด

จึงขอให้อธิบดีกรมโยธาธิการฯตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่าการก่อสร้างในครั้งนี้ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ได้ระบุไว้หรือไม่และขอให้ระงับการก่อสร้างระยะที่1-3ไว้ก่อน เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อกฏหมายต่อไป

หลังจากที่นายพรพจน์ เพ็ญพาสอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วได้เปิดเผยว่าเรื่องที่ร้องเรียนเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุดซึ่งตนจะไปก้าวล่วงอำนาจศาลไม่ได้ถ้าศาลตัดสินออกมาแบบไหนตนพร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลทันที่และขอยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและภายใน15วันจะมีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการแจ้งถึงผู้ร้องเรียนให้ทราบต่อไป