ทำไมเราต้องระบุแนวชายฝั่งให้แม่นยำ

แนวชายฝั่งหมายถึงเส้นแบ่งระหว่างน้ำและพื้นแผ่นดิน แต่ในความเป็นจริงแนวชายฝั่งนั้นมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนที่ของตะกอน ระดับน้ำทะเล ความลาดชันชายหาด และปัจจัยอื่นๆ การระบุแนวชายฝั่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งและการออกแบบทางวิศวกรรมเช่นโครงการป้องกันชายฝั่ง

นิยามต่างๆของแนวชายฝั่ง (Ellis, 1978 and Boak, and Turner, 2005)

การวิเคราะห์แนวชายฝั่งจะเลือกใช้นิยามใดนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ แต่จำเป็นต้องใช้นิยามให้อยู่ในรูปแบบเดียวกันตลอดการศึกษา เช่น หากใช้นิยามของแนวพืชพรรณถาวรบริเวณชายฝั่ง ก็ต้องทำการลากแนวชายฝั่ง (Digitize) จากแนวพืชพรรณถาวรบริเวณชายฝั่ง ในทุกๆชุดข้อมูลที่ทำการศึกษา มิฉะนั้นจะส่งผลให้การศึกษาเกิดข้อผิดพลาดได้ ในทางปฏิบัติการวิเคราะห์แนวชายฝั่งส่วนใหญ่จะการพิจารณาจากคุณสมบัติทางกายภาพที่สังเกตเห็นด้วยสายตา ทั้งจากการสำรวจแนวชายฝั่งโดยใช้เครื่อง GPS และจากภาพถ่ายทางอากาศ มากกว่า โดยนิยามที่นิยมใช้ในการแปลความหมายของแนวชายฝั่งคือ

  • แนวสัณฐานชายฝั่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยมากหากใช้นิยามนี้ต้องดำเนินการร่วมกันการสำรวจภาคสนาม 
  • แนวพืชพรรณถาวรบริเวณชายฝั่ง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของแนวชายหาดที่ได้รับอิทธิพลจากระดับน้ำทะเล  และ Vegetation line ซึ่งสามารถแปลผลจากภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศได้ร่วมกับการปรับแก้พิกัดเพื่อความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองนิยามที่นิยมใช้นี้ ในหลายกรณีอาจเป็นตำแหน่งเดียวกันก็ได้ 

หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแปลข้อมูลแนวชายฝั่งแตกต่างกัน จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันในเชิงข้อเท็จจริงได้ เป็นต้นว่า หน่วยงานหนึ่งอาจวิเคราะห์ข้อมูลแล้วพบว่าชายหาดบริเวณนี้ถูกกัดเซาะ แต่อีกหน่วยงานหนึ่งอาจแย้งว่าไม่ถูกกัดเซาะ เหตุอาจเกิดขึ้นจากการใช้นิยามของแนวชายฝั่งไม่ตรงกันก็เป็นได้ 

การระบุแนวชายฝั่งให้มีความแม่นยำนั้น มีความสำคัญทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และด้านความมั่นคง โดยอาจสรุปเหตุผลและความจำเป็นหลักได้ดังนี้:

  1. การประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Impact Assessment)
    • ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น (Sea Level Rise) จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งและการสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งทะเล การมีข้อมูลแนวชายฝั่งที่แม่นยำจะช่วยให้นักวิจัยและผู้กำหนดนโยบายสามารถประเมินความเสี่ยง วางแผนปรับตัว ตลอดจนพัฒนามาตรการป้องกันและฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การวางแผนการใช้ที่ดินและการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง (Coastal Zone Management and Land Use Planning)
    • การกำหนดแนวชายฝั่งอย่างถูกต้องมีผลต่อการวางแผนใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยว การตั้งถิ่นฐาน การลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายฝั่ง การท่าเรือ และสถานประกอบการชายฝั่ง
    • ข้อมูลแนวชายฝั่งที่เชื่อถือได้จะช่วยหน่วยงานและองค์กรท้องถิ่นสามารถออกกฎระเบียบหรือมาตรการเพื่อควบคุมการใช้พื้นที่ชายฝั่ง ป้องกันการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรชายฝั่ง
  3. การจัดทำข้อมูลเชิงพื้นที่และฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (Geospatial Data and Coastal Mapping)
    • แนวชายฝั่งถือเป็นหนึ่งในข้อมูลพื้นฐานด้านภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อการจัดทำแผนที่ทางทะเลและชายฝั่ง การกำหนดขอบเขตทะเลอาณาเขต (Maritime Boundaries) และการกำหนดข้อบังคับทางนิติศาสตร์ (Legal Boundaries) เช่น เขตประมง เขตอนุรักษ์ทางทะเล อาณาเขตของรัฐ
    • หากข้อมูลแนวชายฝั่งไม่แม่นยำ จะทำให้การวางแผน การเจรจาต่อรองด้านนโยบายและข้อพิพาททางทะเล ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายทางทะเลและชายฝั่งผิดพลาดหรือล่าช้า
  4. การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ระบบนิเวศ (Natural Resource Management & Conservation)
    • พื้นที่ชายฝั่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เช่น ป่าชายเลน แนวปะการัง หาดทรายที่เป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล การทราบแนวชายฝั่งที่แท้จริงช่วยให้หน่วยงานอนุรักษ์ทราบถึงพื้นที่ที่ต้องสงวน ดูแล หรือฟื้นฟู
    • ข้อมูลที่แม่นยำยังช่วยในการเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น การกัดเซาะชายฝั่ง การทับถมตะกอน หรือการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์พื้นที่ ที่อาจส่งผลให้เสียความหลากหลายทางชีวภาพหรือทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรมลง
  5. การเตรียมรับมือภัยพิบัติและการบริหารจัดการฉุกเฉิน (Disaster Risk Reduction & Emergency Management)
    • ข้อมูลแนวชายฝั่งที่แม่นยำจะช่วยการวางแผนป้องกันภัยพิบัติทางทะเลและชายฝั่ง เช่น พายุซัดชายฝั่ง สึนามิ และการกัดเซาะชายฝั่ง
    • เมื่อทราบแนวชายฝั่งที่แน่ชัดและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอดีตและปัจจุบัน จะสามารถเตรียมการรับมือและลดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายฝั่งได้ดียิ่งขึ้น

กล่าวโดยสรุป การระบุแนวชายฝั่งอย่างแม่นยำไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลเชิงเทคนิค แต่เป็นรากฐานสำคัญในการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งและท้องทะเล เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงในระยะยาว