Beach cusps หรือทรงถ้วยทรายชายฝั่ง เป็นรูปแบบเฉพาะที่มักพบตามชายฝั่งทะเลที่มีคลื่นแรงปานกลางถึงสูง ลักษณะเด่นของ Beach cusps คือเส้นโค้งเว้าคล้ายถ้วยเรียงต่อกัน ซึ่งเกิดจากการสะสมของเม็ดทรายและหินกรวดเล็กๆ สลับกับพื้นที่แอ่งต่ำ ที่เรามองเห็นเป็นแนวสันทรายโค้งเว้าติดชายฝั่ง

Beach cusps เป็นลักษณะทางกายภาพที่พบได้บ่อยตามแนวชายฝั่งของชายหาดทรายและกรวด โดยปรากฏอยู่ที่ขอบของพื้นที่ที่เรียกว่า swash zone ซึ่งเป็นส่วนของชายหาดที่คลื่นสลายตัวลงและไหลขึ้น-ลงตามแนวชายฝั่ง Beach cusps มีลักษณะเป็นจุดสูงและต่ำ โดยมีระยะห่างซึ่งขึ้นอยู่กับความชันของชายหาดและลักษณะคลื่นที่เข้ามา ซึ่งอาจอยู่ในช่วงน้อยกว่า 1 เมตร ไปจนถึง 50-100 เมตร จุดสูงเหล่านี้มักเรียกว่า “horns ของ Beach cusp” เป็นแนวสันตะกอนที่ยื่นออกไปในทะเลในมุมฉากกับชายฝั่ง ส่วนจุดต่ำมักเรียกว่า “embayments ของ Beach cusp” (หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า bays) ซึ่งมีลักษณะความชันจากฝั่งลงทะเลที่เรียบกว่า

Beach cusps ปรากฏในสภาพแวดล้อมทาง Hydrodynamics (อ่านเพิ่มเติมที่ https://beachlover.net/hydrodynamics/) ที่หลากหลาย ตั้งแต่สภาพที่สงบจนถึงสภาพที่ใกล้จะเกิดพายุ และสามารถเกิดขึ้นบนชายหาดที่มีตะกอนตั้งแต่ทรายละเอียดจนถึงกรวด โดยปกติ Beach cusps มักพบในชายหาดที่ชันกว่าปกติและมีตะกอนเม็ดใหญ่ รวมถึงคลื่นที่เข้ามาชนในแนวตั้งฉากกับชายฝั่ง
โดยรวมแล้ว Beach cusps ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบที่น่าทึ่งและน่าสนใจที่สุดในบริเวณใกล้ชายฝั่ง เมื่อคลื่นปกติซัดเข้าหาชายหาดและเจอสนาม Beach cusp การไหลของน้ำจะแตกออกที่ horn และไหลรวมกันที่ bay ซึ่งน้ำจะรวมตัวกันก่อนที่จะไหลกลับลงสู่ชายหาด การไหลที่มีลักษณะแคบ เข้มข้น และมุ่งไปทางนอกฝั่งในบริเวณ embayments เป็นลักษณะเด่นของ Beach cusps
ส่วนที่เป็นตะกอนขนาดใหญ่กว่ามักจะรวมตัวกันที่ horn ของ Beach cusps ส่วนที่เป็นตะกอนละเอียดกว่าจะรวมตัวกันในบริเวณที่ต่ำหรือแอ่งน้ำที่เรียกว่า embayments หรือ bays ของ Beach cusps ซึ่งมีความชันที่เรียบกว่าและมีการสะสมของตะกอนขนาดเล็กเป็นหลัก

การเกิดขึ้นของ Beach cusps ยังเป็นประเด็นที่นักธรณีวิทยาชายฝั่งให้ความสนใจอยู่ โดยทั่วไปเชื่อว่ามีสองทฤษฎีหลักในการอธิบายลักษณะนี้ ได้แก่:
- ทฤษฎี Standing Wave: เป็นการอธิบายว่า Beach cusps เกิดจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งในรูปแบบที่ทำให้เกิดการซ้ำซ้อน (standing wave) เมื่อคลื่นซัดกลับออกสู่ทะเลและซ้อนทับกับคลื่นที่เข้ามาใหม่ ทำให้เกิดการสะสมของทรายเป็นระยะๆ เป็นลักษณะคล้ายถ้วย
- ทฤษฎี Self-Organization: แสดงถึงการที่คลื่นและทรายมีปฏิสัมพันธ์กันเอง ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของทรายและการซัดของคลื่น ทำให้เกิดรูปแบบที่คงตัวเป็น Beach cusps ขึ้น
Beach cusps มักพบในชายหาดที่มีคลื่นระดับปานกลาง เราสามารถสังเกตเห็นลักษณะการเว้าโค้งเป็นรูปถ้วยเรียงตัวกันอย่างชัดเจนในพื้นที่ที่เป็นทรายหรือกรวดขนาดเล็ก การศึกษาถึง Beach cusps มีประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ชายฝั่งและเป็นองค์ความรู้สำหรับการวางแผนด้านการป้องกันชายฝั่ง เพื่อรักษาสภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม