วัดขุนสมุทรจีน แผ่นดินล้ำค่าที่กำลังจมน้ำหาย

ที่มา: https://www.facebook.com/themomentumco

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อของ ‘วัดขุนสมุทรจีน’ หรือ ‘วัดขุนสมุทราวาส’ จังหวัดสมุทรปราการ ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง จากการเป็นวัดขนาดใหญ่ริมอ่าวไทยที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะกินพื้นที่บริเวณวัดเข้าไปเป็นจำนวนหลักหลายกิโลเมตร จนกลายเป็นเกาะ และเกิดความกังวลว่า วัดที่สวยงามเงียบสงบริมทะเลแห่งนี้อาจ ‘จม’ ลงในวันใดวันหนึ่งในอนาคต และชาวบ้านในชุมชนบริเวณใกล้เคียงต้องทยอยอพยพออกไปเรื่อยๆ

เดิมทีพื้นที่ของวัดขุนสมุทรจีนเป็นแหลมเล็กๆ ยื่นเข้าไปในอ่าวไทย มีเนื้อที่กว่า 76 ไร่ โดยได้รับบริจาคจากชาวบ้านขุนสมุทรจีน และเคยมีที่อยู่อาศัย รวมถึงโรงเรียนตั้งอยู่ แต่เนื่องจากบริเวณชายฝั่งประเทศไทยโดนน้ำทะเลกัดเซาะตามธรรมชาติอยู่แล้ว บวกกับภาวะโลกร้อนที่ทำให้คลื่นแรงขึ้น น้ำทะเลเพิ่มขึ้น จึงทำให้ครั้งหนึ่งพระอุโบสถเก่าแก่ภายในวัดบางส่วนต้องจมอยู่ใต้น้ำในเวลาน้ำขึ้น และสามารถเข้าชมได้เมื่อน้ำลด

อย่างไรก็ดี หลังจากทางวัดและชาวบ้านในชุมชนบ้านขุนสมุทรจีนร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยอาศัยเสาไฟฟ้าเก่า ปักเป็นแถวเพื่อสร้างแนวเขื่อนหินป้องกันคลื่นทะเลและดักตะกอน รวมถึงทางวัดได้ยกพื้นให้สูงขึ้นด้วยโครงไม้ และปลูกไม้ป่าชายเลน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นให้เป็นธรรมชาติ จึงทำให้วัดแห่งนี้ รวมถึงพระอุโบสถ กลายเป็นสถานที่ทางศาสนาที่มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เนื่องจากมีร่องรอยของน้ำทะเลจากธรรมชาติที่ประทับอยู่ตามจุดต่างๆ

แต่ปัญหายังไม่จบ เนื่องจากปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะของวัดขุนสมุทรจีนเป็นเรื่องของชายฝั่ง ซึ่งชายฝั่งของประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นชายหาดโคลน จึงได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลและมีความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติอยู่แล้ว

ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ศาสตราจารย์ ภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกกับ The Momentum ถึงภาพรวมและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยระบุว่า การกัดเซาะที่บริเวณพื้นที่วัดขุนสมุทรจีนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน และมีการทดลองติดตั้งเสา สร้างแนวเขื่อน หยุดการกัดเซาะในพื้นที่กัดเซาะด้านที่มีโครงสร้าง และทำให้มีดินตะกอนเพิ่มขึ้น แต่ตรงที่ไม่มี ก็ยังเกิดการกัดเซาะอยู่

“ช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา พื้นที่ตรงนั้นหายไปหนึ่งกิโลฯ แล้วถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มันก็จะกัดเซาะขึ้นมาอีกหนึ่งกิโลฯ ในยี่สิบปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวก็ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ก็จะมีแต่โครงการระยะสั้นๆ ก็คือการตัดไม้ไผ่มาปัก แต่ก็เห็นว่ามันไม่ได้ผล เพราะไม้ไผ่ไม่สามารถป้องกันแรงคลื่นได้

“ถ้าไม่ทำอะไรเลย ผลเสียจะตกไปอยู่ที่ชาวบ้านแถวนั้นที่ต้องสูญเสียพื้นดิน ย้ายหนี ซึ่งความเป็นจริงมันไม่ใช่เฉพาะบริเวณนั้น แต่หมายถึงทั้งอ่าวไทยตอนบน ตอนนี้ก็มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งก็มีจะมาตรการของเขา”

The Momentum มีโอกาสลงพื้นที่วัดขุนสมุทรจีนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสังเกตการณ์และเยี่ยมชมวัดริมอ่าวแห่งนี้ ที่ปัจจุบันยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมไม่ขาดสาย รวมถึงชาวบ้านที่ค้าขายอยู่ในบริเวณวัด บ่งบอกว่าวัดแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนขุนสมุทรเฉกเช่นทุกยุคสมัยที่ผ่านมา