ชายหาดแถบนี้ค่อนข้างสงบเงียบ เป็นรอยต่อระหว่างชายหาดคลองวาฬทางทิศเหนือ ยาวต่อเนื่องมาถึงชายหาดหว้ากอ มีลักษณะเป็นพื้นที่กรรมสิทธิ์ริมชายหาด ด้วยความที่ชายหาดยังสมบูรณ์มากๆ เป็นหาดทรายขาวยาวต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณนี้มีการสร้างบ้านหลังใหญ่ๆให้เห็นประปราย แต่ยังไม่พบเห็นโรงแรมที่พักในแถบนี้ อาจเนื่องมาจากลักษณะของพื้นที่มีความลึกค่อนข้างน้อย จึงไม่เหมาะสมกับการปลูกสร้างโรงแรม
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_auto,q_lossy,ret_img,w_1024,h_570/https://beachlover.net/wp-content/uploads/2020/07/Screen-Shot-2563-06-17-at-22.20.49-1024x570.png)
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_auto,q_lossy,ret_img,w_1024,h_614/https://beachlover.net/wp-content/uploads/2020/07/Screen-Shot-2563-06-17-at-22.20.56-1024x614.png)
จากภาพพบความเสียหายของโครงสร้างลานปูนและกำแพงกันที่ดินที่ (ดูเหมือนว่า) ยื่นล้ำลงไปในชายหาดมากจนเกินไป ซึ่งสังเกตได้จากแนวชายหาดทางทิศเหนือและใต้ของลานปูนที่พังเสียหายนี้ ไม่ได้อยู่ล้ำลงไปมากเหมือนแนวของลานปูนและกำแพง ตามจริงแล้วแนวที่ดินที่เอกชนครอบครองได้อย่างปลอดภัยควรอยู่หลังแนวขอบฝั่ง (แนวพืชพรรณสีเขียวๆในภาพแรก) โดยไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งยื่นล้ำลงไปบนชายหาด
ปัญหาลักษณะคล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เหตุเพราะยามคลื่นลมสงบดี เรามักเห็นชายหาดกว้างมากจนอาจ “เผลอ” สร้างสิ่งล่วงล้ำชายหาดเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับมูลค่าที่ดินริมทะเลที่สูงลิ่ว โดยลืมคิดไปว่า ยามมรสุมที่คลื่นลมแรง พร้อมระดับน้ำที่ยกตัวสูงขึ้น ทะเลจะทวงคืนพื้นที่เดิมของเขา และเมื่อนั้นภาพความเสียหายลักษณะนี้ก็จะเกิดเป็นภาพวนซ้ำเรื่อยไป
แล้วแบบนี้ เราจะโทษคลื่นลมได้หรือไม่ … น่าคิด
(ภาพเมื่อ 12 มิ.ย.2563)