สำรวจความเสียหายของโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง เกาะพีพี หลังพังยับเยินมากว่า 10 เดือน

ตามที่สื่อหลายสำนัก รายงานข่าวเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมของปีที่ผ่านมาถึงความเสียหายของกำแพงกันคลื่นและทางเดินสาธารณะบนเกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นต้นว่า (Click ที่ชื่อหัวข้อข่าว เพื่อนำไปสู่บทความเฉพาะเต็ม) ทะเลคลั่งที่เกาะพีพี คลื่นลมหัวนอน 3 เมตร ซัดเขื่อนพังกว่า 100 เมตร ระทึก! เกาะพีพีคลื่นรุนแรงซัดฝั่ง ทำเขื่อนกั้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเกาะพีพี พังเสียหาย เกาะพีพีระทึก คลื่นลมแรงซัดชายฝั่ง เขื่อนกั้นน้ำหน้า รพ.เกาะพีพี พังเสียหาย คลื่นซัดฝั่งรุนแรง ทำให้เขื่อนกั้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเกาะพีพี พังเสียหาย ส.ส.ภูมิใจไทย จี้รัฐบาล เร่งใช้งบ 67 แก้ปัญหาเขื่อนท่าเทียบเรือเกาะพีพีพังถล่ม หน่วยงานลงพื้นที่สำรวจประเมินความเสียหายแนวเขื่อนหน้าเกาะพีพี จ.กระบี่ ถูกคลื่นพัดพังเสียหาย Beach Lover ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของโครงสร้างตามข่าวนี้ ตลอดทั้งแนวกว่า 300 เมตร บริเวณทิศตะวันตกของอ่าวต้นไทร ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 มีสภาพทั่วไปตาม Post https://beachlover.net/erosion-tonsai-pp-aug24/ โดยหลังจากนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกันหลายรอบ นำมาซึ่งการตั้งงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปลายเดือนเมษายน 2568 Beach […]

Beachlover

April 30, 2025

กลไกใดทำให้ชายหาดกัดเซาะระยะสั้นจากพายุ

การกัดเซาะชายหาด เกิดขึ้นเมื่อคลื่นและกระแสน้ำพัดพาทรายออกจากระบบชายหาด ซึ่งการสูญเสียทรายนี้จะทำให้ชายหาดแคบลงและระดับความสูงลดต่ำลง โดยในช่วงที่เกิดพายุ คลื่นลมแรงจะพัดพาทรายออกนอกฝั่ง และสะสมตัวอยู่ในรูปของสันดอนทรายขนาดใหญ่ใต้ทะเล แต่เมื่อพายุสงบลงในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนหลังจากนั้น คลื่นที่สงบจะค่อย ๆ พาทรายกลับคืนมายังชายหาดอีกครั้ง ชายหาดสามารถเกิดการกัดเซาะอย่างฉับพลันในระยะสั้นเมื่อเกิดพายุ เนื่องจากกลไกหลักดังต่อไปนี้: การกัดเซาะเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่พายุพัดผ่าน แต่ในบางกรณี ทรายและตะกอนที่ถูกพัดพาออกไปอาจกลับมาสะสมที่ชายหาดอีกครั้งเมื่อสภาพอากาศสงบลง อย่างไรก็ตาม หากพายุเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือมีความรุนแรงมาก การฟื้นตัวของชายหาดอาจใช้เวลานานหรือไม่สมบูรณ์​

Beachlover

April 30, 2025

กระแสน้ำในทะเลเคลื่อนที่ได้ยังไง?

กระแสน้ำในทะเลเคลื่อนที่ได้ด้วยหลายสาเหตุหลัก ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้: 1. แรงลม (Wind-driven currents) ลมเป็นหนึ่งในตัวการหลักที่ทำให้เกิดกระแสน้ำผิวหน้าทะเล (Surface currents) โดยลมที่พัดผ่านผิวน้ำจะถ่ายเทพลังงานให้กับน้ำ ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสน้ำผิวหน้าตามทิศทางของลม กระแสน้ำที่เกิดจากลมมักเห็นได้ชัดในมหาสมุทร เช่น กระแสน้ำกัลฟ์สตรีม (Gulf Stream) หรือ กระแสน้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Current) 2. ความแตกต่างของความหนาแน่นของน้ำทะเล (Density-driven currents) ความหนาแน่นของน้ำทะเลขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิ (temperature) และ ความเค็ม (salinity) น้ำเย็นและน้ำที่มีความเค็มสูงกว่าจะมีความหนาแน่นมากกว่าและจมลง ทำให้เกิดกระแสน้ำลึก (Deep ocean currents) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบหมุนเวียนขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Thermohaline Circulation กระแสน้ำแบบนี้มีบทบาทสำคัญในการขนส่งความร้อนและสารอาหารทั่วโลก 3. อิทธิพลของแรงคอริออลิส (Coriolis Effect) เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเอง ทำให้กระแสน้ำเบี่ยงทิศไปทางขวาในซีกโลกเหนือ และไปทางซ้ายในซีกโลกใต้ ซึ่งมีผลต่อรูปแบบกระแสน้ำขนาดใหญ่ เช่น วงวนกระแสน้ำ (Gyres) ในมหาสมุทร 4. แรงโน้มถ่วงและน้ำขึ้นน้ำลง (Tidal currents) การเคลื่อนที่ของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงเกิดจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อน้ำทะเลกระแสน้ำแบบนี้มีลักษณะเป็นรอบ และสามารถเห็นได้เด่นชัดบริเวณปากแม่น้ำ อ่าว และช่องแคบ เช่น กระแสน้ำไหลย้อน (Tidal bore) […]

Beachlover

March 26, 2025

เราหารอบปีการเกิดซ้ำของพายุกันอย่างไร

รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ (Return Period) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากพายุ โดยมีความสำคัญในหลายด้าน ได้แก่: 1. การวางแผนและการออกแบบโครงสร้าง 2. การประเมินความเสี่ยง 3. การประกันภัย 4. การวางแผนการใช้ที่ดิน 5. การศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเข้าใจและใช้ข้อมูลรอบปีการเกิดซ้ำของพายุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมและการบริหารจัดการความเสี่ยงจากพายุในระดับต่าง ๆ โดยการหารอบปีการเกิดซ้ำของพายุ (Return Period) เป็นการประเมินความถี่ในการเกิดพายุที่มีความรุนแรงระดับหนึ่งขึ้นไป โดยใช้ข้อมูลสถิติการเกิดพายุในอดีต โดยสามารถทำได้ดังนี้: 1. รวบรวมข้อมูลสถิติการเกิดพายุในอดีต 2. จัดเรียงข้อมูลพายุจากน้อยไปมาก 3. คำนวณความน่าจะเป็นในการเกิดพายุ 4. คำนวณรอบปีการเกิดซ้ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าพายุที่มีความเร็วลม 150 กม./ชม. มีความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น 0.05 หรือ 5% ในแต่ละปี ก็หมายความว่ามีรอบปีการเกิดซ้้าเท่ากับ 1/0.05 = 20 ปี นั่นคือ พายุที่มีความเร็วลม 150 กม./ชม. จะเกิดขึ้นประมาณ 1 ครั้งใน 20 ปี […]

Beachlover

November 4, 2024

พายุ กับ มรสุม แตกต่างกันอย่างไร

Beach Lover ลงพื้นที่ชายฝั่งทะเลเพื่อสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์พายุและลมมรสุมในหลายพื้นที่ และต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี เมื่อสอบถามชาวบ้านถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นมักได้คำตอบคล้ายๆกันคือพายุเข้า ทั้งๆที่ในช่วงเวลานั้นไม่มีพายุเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากลมมรสุมตามฤดูกาลที่อาจมีกำลังแรงขึ้นกว่าปกติ จึงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งมากกว่าปกติ จนชาวบ้านคิดว่าคลื่นใหญ่ลมแรงที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายหาดหน้าบ้านคือพายุ Beach Lover ขอชวนมองความแตกต่างของพายุและมรสุม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยพายุและมรสุมเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและลม แต่มีความแตกต่างกันในหลายประเด็น: 1. ลักษณะการเกิด: 2. ขอบเขตและระยะเวลา: 3. ผลกระทบ: สรุปว่า พายุเป็นระบบลมที่หมุนวนรุนแรง เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น และมีผลกระทบรุนแรงในพื้นที่จำกัด ส่วนมรสุมเป็นระบบลมขนาดใหญ่ที่พัดประจำฤดู มีระยะเวลานาน และมีผลกระทบต่อสภาพอากาศและฤดูกาลในวงกว้าง ความเข้าใจลักษณะและความแตกต่างดังกล่าวจะสามารถทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของพายุและมรสุมที่อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเราได้ และสามารถปรับตัวและอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย

Beachlover

October 7, 2024

รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ คืออะไร

พายุ (Storm) ขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นทั้งบนภาคพื้นทวีปและในมหาสมุทร เมื่อพัฒนาจนกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ที่สามารถสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งมีชีวิต บนพื้นผิวโลก  นักพยากรณ์อากาศจะจัด ความรุนแรงของพายุ ตามมาตรวัดของสำนักงานหรือกรมอุตุนิยมวิทยาในแต่ละภูมิภาคที่พายุเหล่านั้นก่อตัวขึ้น ในเบื้องต้น พายุหมุนเขตร้อนจะถูกจัดประเภทตามหลักเกณฑ์พื้นฐาน คือ รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ หรือ Return Period คือ ค่าทางสถิติที่บ่งบอกถึงระยะเวลาเฉลี่ยที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากันหรือมากกว่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำนายเวลาที่แน่นอนได้ แต่ก็ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงในระยะยาว ความสำคัญของรอบปีการเกิดซ้ำของพายุ ข้อควรจำ ตัวอย่าง แม้ว่าเหตุการณ์ที่มีรอบปีการเกิดซ้ำสูงจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติทุกระดับจึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ เรามีวิธีการวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุอย่างไร การวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ มีหลากหลายวิธีที่ใช้กัน โดยทั่วไปแล้ว จะอาศัยข้อมูลทางสถิติของเหตุการณ์ในอดีต เพื่อประเมินโอกาสการเกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงใกล้เคียงกันในอนาคต วิธีการที่นิยมใช้มีดังนี้: นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์รอบปีการเกิดซ้ำของพายุ เช่น: การเลือกวิธีการวิเคราะห์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ลักษณะของข้อมูล, วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์,และทรัพยากรที่มีอยู่

Beachlover

September 27, 2024

SBEACH (Storm-Induced BEAch CHange)

SBEACH (Storm-Induced BEAch CHange) เป็นแบบจำลองเชิงตัวเลข 1 มิติที่พัฒนาขึ้นโดย U.S. Army Corps of Engineers (USACE) เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงรูปร่างชายหาดที่เกิดจากพายุ โดยเฉพาะการกัดเซาะและการทับถมของทรายในช่วงที่มีพายุ SBEACH ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ชายฝั่งในการประเมินผลกระทบของพายุต่อแนวชายฝั่ง ทำให้สามารถวางแผนและออกแบบมาตรการป้องกันชายฝั่งได้อย่างเหมาะสม เช่น การสร้างเขื่อนกันคลื่น หรือการเติมทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะ SBEACH (Storm-induced BEAch CHange) เป็นแบบจำลองเชิงตัวเลข ที่มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงของลักษณะภูมิประเทศ เช่น สันทรายและเนินทราย พัฒนาโดย Larson และ Kraus ในปี 1989 SBEACH ใช้แนวคิดสมดุลของรูปร่างชายหาด (Equilibrium Beach Profile) เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของสัณฐานวิทยาของชายหาดอันเนื่องมาจากคลื่นพายุและระดับน้ำ แบบจำลองนี้ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้ข้อมูลภาคสนามและการทดลองในห้องปฏิบัติการจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจำลองลักษณะภูมิประเทศขนาดใหญ่ของชายหาด รวมถึงสันทรายตามแนวยาวและการกัดเซาะของเนินทราย ข้อมูลป้อนเข้าหลักของ SBEACH ได้แก่ ความกว้างของเนินทราย เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยของเม็ดทราย ความลาดเอียงของชายหาด ระดับน้ำออกแบบ และสภาพคลื่น ในขณะที่ผลลัพธ์จะให้รายละเอียดพารามิเตอร์เกี่ยวกับการกัดเซาะของเนินทรายและการก่อตัวของสันทราย การศึกษาแสดงให้เห็นว่าคลื่นพายุที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดสันทรายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถลดพลังงานคลื่นและจำกัดการกัดเซาะของเนินทรายในภายหลัง ประสิทธิภาพของแบบจำลองในการทำนายการเปลี่ยนแปลงของชายหาดที่เกิดจากพายุได้รับการยืนยันจากการสังเกตภาคสนามและการจำลองเชิงตัวเลขต่างๆ […]

Beachlover

July 16, 2024

หายห่วง แนวไม้ไผ่ชะลอคลื่นเมืองเพชร ไร้ผลกระทบจากพายุ

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH/ วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ กรม ทช. โดยสำนักงาน ทช.ที่๓ (เพชรบุรี) สำรวจสถานภาพชายฝั่งและโครงสร้างแนวปักไม้ไผ่เพื่อชะลอความรุนแรงของคลื่นทะเล เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากผลกระทบคลื่นทะเลรุนแรง อันเนื่องจากพายุฤดูร้อนเมื่อวันที่ ๖ และ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ผลการสำรวจพบว่าพื้นที่ป่าชายเลนแนวชายฝั่ง บริเวณ ม.๒ ต.ปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้รับผลกระทบมีการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะทางประมาณ ๔๐๐ เมตร ส่วนโครงสร้างแนวปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่นทะเล ท้องที่ ต.ปากทะเล และ ต.บางแก้ว ได้รับความเสียหายและชำรุดเพียงเล็กน้อย และยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันคลื่นลมทะเลได้เป็นอย่างดี

Beachlover

May 9, 2021

หาดป่าตอง หลัง COVID-19 และ โนอึล

หาดป่าตอง เป็นชายหาดในอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต บริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด (https://th.wikipedia.org/wiki/หาดป่าตอง) ป่าตองหลัง COVID-19 จางหายไปจากประเทศไทย สิ่งสำคัญที่หายไปจากหาดป่าตอง คือ “ชีวิต” ป่าตองยามนี้ไม่ต่างจากเมืองร้าง หากไม่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ป่าตองช่วงมรสุมแบบนี้ ทะเลอาจไม่สวย ฟ้าอาจไม่ใส ลงเล่นน้ำไม่ได้ได้บางวัน แต่ยังจะมีผู้คนเดินขวักไขว่พลุกพล่าน โดยส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ แต่ยามนี้ แม้แต่ 7-11, Family Mart, McDonald’s และ Starbucks ยังต้องปิดอย่างไม่มีกำหนดไปแล้วหลายสาขา โรงแรมปิดไม่มีกำหนดไปหลายแห่ง ที่ยังเปิดอยู่ก็มีแขกเข้าพัก 10-15% ของช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนเท่านั้น สถานบันเทิง ร้านนวด สนามมวย และกิจการ 80-90% ต้องปิดตัวเอง เหลือเพียงบางกิจการที่มิได้พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก ที่ยังพอยืนระยะอยู่ได้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมีสายป่านยาวพออยู่ได้ไปอีกสักเท่าไหร่ ตามปกติแล้ว […]

Beachlover

September 22, 2020

ข้อมูลจากสถานีเรดาร์ชายฝั่ง เพื่อเฝ้าระวังพายุโซนร้อนซินลากู [3ส.ค.2563]

ที่มา: https://www.facebook.com/gistda/ GISTDA ใช้ข้อมูลจากสถานีเรดาร์ชายฝั่งกว่า 14 จุด ติดตามกระแสน้ำ และความสูงของคลื่นทะเลบริเวณฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน จากกรณีพายุโซนร้อนซินลากูเคลื่อนผ่านประเทศไทย อย่างใกล้ชิด สถานการณ์โดยรวมพบคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันแถวเกาะลันตาและอ่าวน้ำเมามีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยที่มีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ได้แก่ หาดแม่พิมพ์ และหาดพยูน จ.ระยอง รวมถึงบริเวณ จ.สุราษฏร์ธานี และจ.ตราด ครับ ส่วนที่มีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตรอยู่ที่ บริเวณแหลมแท่น จ.ชลบุรี, สถานีตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ, หาดชะอำ จ.เพชรบุรี, อ.หน้าโกฐ จ.นครศรีธรรมราช และ อ.ระโนด อ.สทิงพระ อ.เมือง จ.สงขลา

Beachlover

August 3, 2020