เราวิเคราะห์ความเสี่ยงภัยจาก storm surge กันอย่างไร

Storm Surge (พายุซัดฝั่ง) คือ ปรากฏการณ์ที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างผิดปกติ อันเนื่องมาจากแรงกดอากาศต่ำและลมกระโชกแรงจากพายุหมุนเขตร้อน เช่น พายุไซโคลน, เฮอริเคน, และไต้ฝุ่น ปรากฏการณ์นี้สามารถนำไปสู่น้ำท่วมชายฝั่งที่รุนแรง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งที่มีประชากรหนาแน่น กลไกการเกิด Storm Surge (พายุซัดฝั่ง) เกิดจากการลดลงของความกดอากาศและแรงลมที่ผลักดันน้ำทะเลเข้าหาชายฝั่ง ถึงแม้ว่ากลไกจะไม่ซับซ้อน แต่ผลกระทบของคลื่นพายุซัดฝั่งสามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง คร่าชีวิตผู้คนนับพันและสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในเหตุการณ์เดียว ความเสี่ยงของ Storm Surge (พายุซัดฝั่ง) เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของไหล่ทวีป, ปฏิสัมพันธ์ของน้ำขึ้นน้ำลง, และความเร็วลมของพายุ ซึ่งส่งผลต่อขอบเขตและความรุนแรงของน้ำท่วมชายฝั่ง แบบจำลองทางอุทกพลศาสตร์แบบดั้งเดิมที่ใช้ในการทำนาย Storm Surge (พายุซัดฝั่ง) เช่น แบบจำลอง FVCOM และ ADCIRC มีความแม่นยำสูง แต่ต้องใช้การประมวลผลมากและใช้เวลานาน เพื่อแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ มีการพัฒนาแบบจำลองใหม่ๆ เช่น HCA-FM และแบบจำลองสำรองต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณและความเสถียร ในขณะที่ยังคงความแม่นยำในการทำนายขอบเขตและความลึกของน้ำท่วม การวิเคราะห์ความเสี่ยงจาก Storm Surge (พายุซัดฝั่ง) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์: ตัวอย่างการนำไปใช้: ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงจาก […]

Beachlover

August 17, 2024

พายุซัดฝั่ง (Storm surge) คืออะไร?

พายุซัดฝั่ง (Storm surge) คือปรากฏการณ์คลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อนในวันที่ท้องฟ้าปั่นป่วนไม่แจ่มใสสภาพอากาศเลวร้าย พื้นที่ชายฝั่งจะมีแรงกดอากาศยกระดับน้ำทะเลให้สูงกว่าปกติกลายเป็นโดมน้ำขนาดใหญ่ซัดจากทะเลเข้าหาชายฝั่งอย่างรวดเร็ว (https://www.nhc.noaa.gov/surge/) พายุซัดฝั่งเป็นคลื่นที่เกิดบริเวณพื้นผิวโลกมีความชื้นสูงและมีมวลอากาศอุ่น ทำให้อากาศลอยตัวสูงขึ้น ทำให้เกิดลมพัดเข้ามาหย่อมความกดอากาศต่ำ และเกิดการหมุนตัว เข้าหาจุดศูนย์กลางของหย่อมความกดอากาศต่ำ โดยในซีกโลกเหนือหรือบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรจะมีการหมุนตัวในทิศทวนเข็มนาฬิกา แต่หากเกิดในซีกโลกใต้หรือบริเวณใต้เส้นศูนย์สูตรจะหมุนตามเข็มนาฬิกา พายุซัดฝั่งจะดันน้ำให้มีระดับสูงจนสร้างความเสียหายต่อชีวิตอาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง ดังรูปที่ 1 โดยระดับน้ำที่ยกตัวสูงขึ้นนี้เกิดจากแรงขับจากความกดอากาศ (Pressure driven storm surge) และลม (Wind driven storm surge) ทะเลโดยรอบจะมีลักษณะราบเรียบเท่ากันหมดในบริเวณพายุ แต่ตรงใจกลางพายุหรือที่เรียกว่าตาพายุจะมีระดับน้ำที่สูงกว่าปกติ ผลจากพายุซัดฝั่งจะทำให้ระดับน้ำชายฝั่งเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติแต่เป็นเพียงช่วงเวลาไม่นานแล้วจะกลับสู่สภาพเดิม รูปที่ 2 แสดงระดับน้ำที่ขึ้นสูงสุดจนเข้าท่วมชุมชนในช่วงที่เกิดพายุปาบึกซัดฝั่งที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือนมกราคม 2562 โดยมีลักษณะของการเคลื่อนที่ของตาพายุ ดังรูปที่ 3

Beachlover

January 6, 2024