การแทรกตัวของน้ำเค็ม (Saltwater intrusion)

การแทรกตัวของน้ำเค็ม (Saltwater intrusion) บริเวณปากแม่น้ำ คือ ปรากฏการณ์ที่น้ำเค็มจากทะเลไหลย้อนขึ้นมาในแม่น้ำ ทำให้พื้นที่บริเวณปากแม่น้ำมีปริมาณความเค็มของน้ำสูงขึ้นกว่าปกติ

สาเหตุของการแทรกตัวของน้ำเค็ม:

  • ปริมาณน้ำจืดลดลง: ในช่วงฤดูแล้ง หรือเมื่อมีการใช้น้ำจืดจากแม่น้ำมากเกินไป ปริมาณน้ำจืดในแม่น้ำจะลดลง ทำให้น้ำเค็มสามารถไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น
  • ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเค็มมีโอกาสไหลเข้ามาในแม่น้ำมากขึ้น
  • ลักษณะภูมิประเทศ: ปากแม่น้ำที่มีลักษณะเป็นปากอ่าว หรือมีการขุดลอกร่องน้ำ จะทำให้น้ำเค็มไหลเข้ามาในแม่น้ำได้ง่าย

ผลกระทบของการแทรกตัวของน้ำเค็ม:

  • ผลกระทบต่อการเกษตร: น้ำเค็มที่แทรกเข้ามาในแม่น้ำจะทำให้ดินเค็ม ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกพืช ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
  • ผลกระทบต่อระบบนิเวศ: น้ำเค็มที่เข้ามาในแม่น้ำจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์น้ำและพืชน้ำ ทำให้สัตว์น้ำบางชนิดตายหรืออพยพไปอยู่ที่อื่น
  • ผลกระทบต่อน้ำประปา: น้ำเค็มที่แทรกเข้ามาในแม่น้ำจะทำให้แหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปามีความเค็มสูงขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพน้ำประปาและความยากลำบากในการผลิตน้ำประปา
ชาวบ้านบริเวณปากน้ำแม่กลองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็มรุกตัวเข้าพื้นที่เกษตรกรรมเรียกร้องให้รัฐจัดการปัญหา

การแก้ไขปัญหาการแทรกตัวของน้ำเค็ม:

  • การบริหารจัดการน้ำ: ควบคุมการใช้น้ำจืดอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างอ่างเก็บน้ำหรือฝายเพื่อกักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง
  • การสร้างสิ่งกีดขวาง: สร้างเขื่อนหรือประตูน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้ามาในแม่น้ำ
  • การปรับปรุงคุณภาพน้ำ: ใช้เทคโนโลยีการกรองหรือการแยกเกลือออกจากน้ำ เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

ตัวอย่างการแทรกตัวของน้ำเค็มในประเทศไทย:

ประเทศไทยมีปัญหาการแทรกตัวของน้ำเค็มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเกษตร การประมง และการผลิตน้ำประปา