การเมืองเรื่องเม็ดทราย…ความเชื่อ ผลประโยชน์ และอำนาจ

“ชายหาด” เส้นบางๆ ระหว่างแผ่นดินกับทะเล ไม่ใช่เพียงภูมิทัศน์งดงาม หากแต่เป็นสนามของความขัดแย้งทางนโยบาย งบประมาณ และอุดมการณ์ “โครงสร้างแข็งหรืออ่อน” “คอนกรีตหรือธรรมชาติ” กลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบเดียว เมื่อรัฐ นักวิชาการ นักอนุรักษ์ และชุมชนต่างยืนอยู่บนคนละฝั่งของคลื่นแห่งผลประโยชน์ บทความ  การเมืองเรื่องเม็ดทราย  โดย รศ.ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง ชวนมองให้ลึกกว่าการกัดเซาะชายฝั่ง ว่าปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ทรายที่ถูกคลื่นซัด แต่ยังมี “ความเชื่อ ผลประโยชน์ และอำนาจ” ที่กำลังกัดเซาะกันเองในสังคมไทย นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของวิศวกรรมชายฝั่ง แต่คือเรื่องของความโปร่งใส ความเป็นธรรม และอนาคตของชายหาดที่เราจะส่งต่อให้รุ่นลุกหลาน ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งจากปัจจัยธรรมชาติ และกิจกรรมของมนุษย์ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนทำให้ชายฝั่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ที่ดินริมชายฝั่งพังทลาย ประชาชนสูญเสียพื้นที่อาศัยและทำกิน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวถูกทำลาย สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมาก นอกจากภาวะโลกร้อนแล้ว ปัจจัยฝีมือมนุษย์ เช่น การสร้างเขื่อนหรือท่าเรือที่รุกล้ำชายฝั่ง ก็อาจรบกวนการไหลเวียนตามธรรมชาติของตะกอนทราย ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำขาดทรายและเกิดการกัดเซาะรุนแรงขึ้น ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งจึงเป็นเรื่องซับซ้อนที่ต้องการการจัดการที่รอบคอบรอบด้าน ชายหาดตามธรรมชาติเป็นระบบที่ไม่หยุดนิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คลื่นลมตามฤดูกาลสามารถพัดพาทรายเข้าฝั่งและออกจากฝั่งสลับกัน บางช่วงหาดทรายอาจแคบลงหรือหายไป แต่เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนทรายใหม่ก็ถูกพัดกลับมาสะสมกลายเป็นชายหาดอีกครั้งเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติ แท้จริงแล้วชายหาดยังทำหน้าที่เสมือนปราการธรรมชาติที่ช่วยซับแรงคลื่น ปกป้องผืนแผ่นดินด้านหลังจากพายุและคลื่นลมแรง หากมนุษย์เข้าไปแทรกแซงวงจรนี้อย่างไม่ระมัดระวัง เช่น การสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรรุกล้ำลงบนชายหาด ก็อาจทำให้กระบวนการตามธรรมชาติของชายหาดเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด และก่อให้เกิดผลกระทบตามมา โจทย์สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือจะปกป้องชุมชนชายฝั่งจากภัยการกัดเซาะนี้อย่างไร โดยไม่ทำลายสมดุลธรรมชาติของชายหาดจนเกินจำเป็น โดยทั่วไปในการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง มาตรการที่นิยมใช้กันทั่วไปมักแบ่งเป็นสองแนวทางหลักๆ คือ มาตรการใช้โครงสร้างแข็ง (Hard Engineering) และ มาตรการใช้โครงสร้างอ่อน […]

Beachlover

October 14, 2025

Sanur – ต้นแบบของ Beach restoration

Beach Lover ขอพาชมชายหาด Sanur ชายหาดฝั่งตะวันออกของเกาะบาหลีในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 หากเราเดินเท้าสำรวจพื้นที่แถบนี้จะพบโครงสร้างป้องกันชายฝั่งละลานตา อยู่ร่วมกันกับทางเดินเลียบชายหาด ร้านอาหาร ร่มเตียงผ้าใบ และที่พักหลากหลายแบบ ทั้งราคาที่เป็นมิตรและไม่เป็นมิตรต่อเงินในกระเป๋า ในช่วงทศวรรษ 1970-1990 หาด Sanur ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวยุคแรกๆ ของบาหลี ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงจนน่าเป็นห่วง โดยมีสาเหตุหลักมาจาก: 1.การขุดลอกแนวปะการัง: ในอดีต มีการนำหินปะการังจำนวนมหาศาลไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างสำหรับโรงแรมและอาคารต่างๆ การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายแนวป้องกันตามธรรมชาติที่เคยช่วยสลายพลังงานคลื่นก่อนจะเข้าถึงชายฝั่ง เมื่อไม่มีแนวปะการัง คลื่นจึงพัดเข้าปะทะชายหาดได้โดยตรง 2.การก่อสร้างที่รุกล้ำชายหาด: การพัฒนาการท่องเที่ยวที่รวดเร็วทำให้มีการก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และกำแพงป้องกันของเอกชนประชิดแนวชายฝั่งมากเกินไป เมื่อเกิดการกัดเซาะจึงไม่มีพื้นที่ให้ชายหาดได้ปรับสมดุลตามธรรมชาติ 3.พลวัตชายฝั่งที่เปลี่ยนไป: การไม่มีแนวปะการังป้องกันทำให้คลื่นและกระแสน้ำสามารถพัดพาทรายออกจากพื้นที่ชายหาดได้อย่างรวดเร็ว ผลกระทบที่เกิดขึ้น: ชายหาดบางส่วนหายไปจนเกือบหมด แนวชายฝั่งร่นถอยเข้าไปประมาณ 10-30 เมตร ต้นมะพร้าวและสิ่งปลูกสร้างริมหาดถูกทำลาย ทัศนียภาพที่สวยงามเสื่อมโทรมลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลัก รวมถึงคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ลดลง ด้วยสถานการณ์ที่วิกฤต รัฐบาลอินโดนีเซียจึงขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น และได้เกิดเป็น “โครงการอนุรักษ์ชายหาดบาหลี” (Bali Beach Conservation Project – BBCP) ซึ่ง JICA เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายมิติ ทั้งในรูปแบบของเงินกู้เพื่อการพัฒนา (ODA Loan) และการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ โครงการ […]

Beachlover

July 3, 2025

สำรวจและเก็บตัวอย่างตะกอนทรายชายหาดทุ่งประดู่

ที่มา: https://www.facebook.com/DMCRTH วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง (กอช.) โดยส่วนวิศวกรรมและฟื้นฟูชายฝั่ง ลงพื้นที่สำรวจและเก็บตัวอย่างตะกอนทรายชายหาด บริเวณหาดทุ่งประดู่ ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการศึกษาวางแผนแม่บทและสำรวจออกแบบเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่ดำเนินการระยะทางตามแนวชายฝั่งประมาณ 1,000 เมตร จากการสำรวจครั้งนี้เก็บตัวอย่างตะกอนทรายตลอดแนวชายฝั่งในพื้นที่โครงการดังกล่าวจำนวน 7 ตัวอย่าง เพื่อนำไปวิเคราะห์ด้วยวิธีการร่อนผ่านตะแกรงมาตรฐาน (Sieve analysis หรือ Mechanical analysis) ศึกษาลักษณะ ขนาด และศึกษาการเคลื่อนที่ของตะกอนทราย ที่มีผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง การสะสมตัวของตะกอน และโครงสร้างของระบบนิเวศชายฝั่งในพื้นที่ศึกษา ทั้งนี้ กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จะนำข้อมูลที่ได้จากการเก็บตัวอย่างตะกอนในครั้งนี้ไปเป็นฐานข้อมูลและใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการต่อไป

Beachlover

May 19, 2025

พัทยา…มาได้ทุกเดือน

หลังการเติมทรายชายหาดพัทยาที่แล้วเสร็จไปเมื่อ กุมภาพันธ์ 2562 ด้วยงบประมาณ 420 ล้านบาท โดยกรมเจ้าท่า พัทยาก็ซบเซาจากสถานการณ์โควิดไปหลายปี จากนั้นเมืองพัทยาได้จัดกิจกรรมบนชายหาดเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นที่ประจักษ์ว่า หากเรามีพื้นที่ชายหาดกว้างๆ การดึงนักท่อเที่ยวเข้ามาก็ไม่ยากเย็นนัก จริงอยู่ที่ในอดีตนั้นพัทยาอาจมีชื่อเสียเรื่องสีเทาอื่นๆมากกว่าชายหาด นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติที่เดินทางมาเมืองพัทยาอาจไม่ได้แม้แต่กระทั่งเหยียบลงไปบนชายหาดเลย เนื่องจากมีเป้าหมายเพื่อกิจกรรมอื่นมากกว่า รวมถึงในอดีตชายหาดพัทยาก็ไม่ได้กว้างหรือมีสภาพเหมือนในปัจจุบัน แต่จากการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายหาดพัทยาโดยวิธีการเติมทรายชายหาด ส่งผลให้ชายหาดมีความกว้างประมาณ 35-80 เมตร ขึ้นอยู่กับระดับน้ำขึ้นน้ำลง นักท่องเที่ยวไทยที่เดิมไม่คิดอยากเดินทางมาเที่ยวหาดพัทยาเนื่องจากสภาพหาดที่ย่ำแย่ในอดีต รวมถึงมิได้มีเป้าหมายเพื่อกิจกรรมสีเทาอื่นๆ ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเที่ยวเพิ่มขึ้น Beach Lover ได้ทั้งเดินทางมาสำรวจหาดพัทยาบ่อยครั้งและหลากหลายช่วงเวลา เช่นระหว่างการเติมทรายชายหาด หลังการเติมทรายชายหาด หลังทรายชายหาดหายไปจากฝนตกหนัก ช่วงโควิด และหลังโควิด รวมถึงเดินสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากโครงการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสืบค้นได้จาก Search icon มุมขวาบนได้ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของต้นเดือน พ.ค. และเป็นช่วงที่เมืองพัทยาจัดกิจกรรมบนชายหาด Beach Lover ได้เดินเท้าสำรวจการใช้ประโยชน์บนชายหาดพัทยาเหนือถึงพัทยากลาง ในช่วงน้ำลงประมาณ MSL (Mean Sea Level) พอดี พบชายหาดกว้างประมาณ 60-70 เมตร และพบสันทรายขนาดเล็กหลายตำแหน่งใกล้ฝั่ง ผู้คนที่ใช้ประโยชน์บนชายหาดมาจากหลากหลายเชื้อชาติ โดยส่วนมากที่มาเป็นกลุ่มนั้นเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย […]

Beachlover

May 3, 2025

ศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก คดีชายหาดชลาทัศน์

ที่มา: https://www.facebook.com/profile.php?id=61550099754739 คดีชายหาดชลาทัศน์ ในโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ ที่ดำเนินการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่สงขลาฟอรั่ม กลุ่ม Beach for life กลุ่ม Law long beach และสหกรณ์ประมงพื้นบ้าชุมชนบาลาเซาะเก้าเส้ง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา เมื่อปี 2558 โดยยื่นฟ้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) กรมเจ้าท่า(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4) และเทศบาลนครสงขลา(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5) ภายหลังศาลปกครองสงขลาได้มีคำพิพากษา ผู้ฟ้องคดีผู้ถูกฟ้องคดีได้อุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด ในวันนี้(18 กุมภาพันธ์ 2568) ศาลปกครองสูงสุด นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และ ตุลาการผู้แถลงคดี รับฟังข้อเท็จจริงได้ตามตุลาการเจ้าของสำนวนสรุปข้อเท็จจริงในคดี มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัย 3 ประเด็นดังนี้ (1) การดำเนินโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดชลาทัศน์-สมิหลา ของผู้ถูกฟ้อองคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ (2) การดำเนินการโครงการของผู้ถูกฟ้องคดีนั้นละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และ(3) การกระทำละเลยของผู้ถูกฟ้องคดีเป็นการละเมิดหรือไม่ ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่า ประเด็น “การดำเนินโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดชลาทัศน์-สมิหลา ของผู้ถูกฟ้องคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่” […]

Beachlover

February 18, 2025

เราใช้ทรายจากแม่น้ำมาเติมชายหาดได้ไหม

การใช้ทรายแม่น้ำสำหรับการเติมทรายชายหาดอาจดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในบางกรณี แต่ก็มีทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนี้ ข้อดีของการใช้ทรายแม่น้ำ ข้อเสียของการใช้ทรายแม่น้ำ กล่าวโดยสรุปได้ว่า (1) การใช้ทรายแม่น้ำอาจเหมาะสมในกรณีที่ พื้นที่นั้นมีรทรายแม่น้ำในปริมาณมากและอยู่ใกล้กับชายหาด (2) การเติมทรายเป็นโครงการชั่วคราวหรือเร่งด่วน เช่น การฟื้นฟูชายหาดหลังพายุ (3) ควรมีการผสมทรายแม่น้ำกับทรายทะเลเดิมเพื่อปรับสมดุลขนาดเม็ดทราย อย่างไรก็ตาม หากชายหาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีความจำเป็นต้องคงลักษณะชายฝั่งธรรมชาติ การใช้ทรายทะเลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในระยะยาว

Beachlover

February 5, 2025

ควรใช้ทรายหยาบหรือทรายละเอียด เพื่องานเติมทรายป้องกันชายฝั่งหาดท่องเที่ยว

การเลือกใช้ทรายหยาบหรือทรายละเอียดสำหรับการเติมทรายชายหาดท่องเที่ยวเพื่อป้องกันชายฝั่ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของชายหาดและวัตถุประสงค์ของการเติมทราย ดังนี้: 1. ทรายหยาบ (Coarse Sand) ข้อดี: ข้อเสีย: 2. ทรายละเอียด (Fine Sand) ข้อดี: ข้อเสีย: ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกทราย โดยสรุปแล้ว สำหรับชายหาดท่องเที่ยวที่ต้องการความสวยงามและการป้องกันชายฝั่ง เราควรใช้ ทรายหยาบ เป็นชั้นฐานล่าง (underlayer) เพื่อให้ชายหาดคงทนและลดการกัดเซาะ และใช้ ทรายละเอียด เป็นชั้นผิวหน้า (surface layer) เพื่อความสวยงามและความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว การผสมผสานทั้งสองประเภทช่วยตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการป้องกันชายฝั่งและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว

Beachlover

January 10, 2025

มาตรการแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน

Beach Lover ได้เคยนำเสนอแนวคิดเรื่อง การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solutions for coastal erosion) ไปแล้วในอดีต ติดตามได้จากโพส https://beachlover.net/nature-based-solutions/ ครั้งนี้ขอลงรายละเอียดด้านมาตรการที่ใช้เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น การกัดเซาะชายฝั่งเป็นปัญหาที่สำคัญในหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง การใช้ “ธรรมชาติเป็นฐาน” ในการแก้ไขปัญหานี้ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากวิธีการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลดการกัดเซาะ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพและให้ประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solutions for coastal erosion) คือการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางธรรมชาติ หรือการเลียนแบบกระบวนการทางธรรมชาติ เพื่อลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง วิธีการนี้มุ่งเน้นการฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ป่าชายเลน หญ้าทะเล แนวปะการัง และเนินทราย ซึ่งเป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นและกระแสน้ำ รวมถึงช่วยดักจับตะกอน ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแรงให้กับชายฝั่งอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solutions for coastal erosion) เป็นแนวทางที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในการปกป้องและฟื้นฟูชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะ แทนที่จะใช้โครงสร้างแข็ง เช่น เขื่อนกันคลื่นหรือกำแพงกั้นทะเล วิธีนี้จะเน้นการฟื้นฟูหรือเสริมสร้างระบบนิเวศธรรมชาติที่มีอยู่ เพื่อให้ช่วยลดแรงคลื่นและการกัดเซาะชายฝั่งโดยธรรมชาติ แนวทางการแก้ไขโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในต่างประเทศ การใช้ธรรมชาติเป็นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย

Beachlover

October 23, 2024

ปริมาณทรายที่ใช้เติมชายหาด ต้องประเมินจากสิ่งใดบ้าง

Beach Lover ได้นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับงานเติมทรายชายหาดไปแล้วหลายโพส ติดตามได้จาก Icon serch มุมขวาบน โดยค้นหาคำว่า “เติมทรายชายหาด” “พัทยา” “จอมเทียน” เป็นต้น รวมถึงความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวกับงานเติมทรายชายหาดสามารถสืบค้นได้จาก การเติมทรายชายหาดเพื่อป้องกันชายฝั่งทะเล https://beachlover.net/การเติมทรายชายหาดเพื่อ/ งานเติมทรายชายหาด อยู่ตรงไหนกันบ้าง https://beachlover.net/งานเติมทรายชายหาด-อยู่ต/ การคำนวณปริมาณทรายที่ใช้ในการเติมชายหาดนั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของชายหาดแต่ละแห่ง ตัวอย่างการคำนวณอย่างง่าย: ตัวอย่างเช่น หากต้องการเติมทรายให้ชายหาดที่มีความยาว 500 เมตร เพิ่มความกว้าง 20 เมตร และความหนาของทราย 1.5 เมตร ปริมาตรทรายที่ต้องการเบื้องต้นคือ 15,000 ลูกบาศก์เมตร แต่หากจากการศึกษาพบว่าชายหาดนี้มีอัตราการกัดเซาะเฉลี่ย 0.5 เมตรต่อปี อาจต้องเพิ่มปริมาณทรายเผื่อการสูญเสียอีก 3,750 ลูกบาศก์เมตรสำหรับ 5 ปีข้างหน้า ทำให้ปริมาณทรายที่ต้องใช้ทั้งหมดเป็น 18,750 ลูกบาศก์เมตร นี่เป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณอย่างง่าย ในทางปฏิบัติ การคำนวณจะซับซ้อนกว่านี้มาก และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชายฝั่งทะเล การคำนวณปริมาณทรายที่ใช้ในการเติมชายหาดจึงไม่ใช่เพียงแค่การคำนวณปริมาตรของพื้นที่ที่ต้องการเติม แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้การเติมทรายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

Beachlover

August 5, 2024

หัวหาด Elastocoast พัทยาเหนือ

Beach Lover ได้เคยพาชมหัวหาด (Headland) ของพัทยามาแล้วหลังการสร้างเสร็จใหม่ๆ ครั้งนี้ขอพาสำรวจสภาพโดยทั่วไปในช่วงเดือน กรกฎาคม 2567 กันอีกรอบ สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่ทราบว่า Elastocoast คือวัสดุประเภทไหน หาอ่านเพิ่มเติมได้จาก โพส https://beachlover.net/elastocoast-คืออะไร/ จากการสำรวจพบว่ามีหลายตำแหน่งเกิดร่องรอยการแตกและการแยกออกจากพื้นผิวบ้าง พบว่าโดยรวมยังมีสภาพปกติ มีทรายสะสมตัวด้านหลังตามที่ได้ออกแบบไว้ มักพบนักท่องเที่ยวมานั่งชมพระอาทิตย์ตกกันบริเวณนี้ในช่วงเย็นถึงค่ำ

Beachlover

July 31, 2024
1 2 4