ที่มา: สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=23325&fbclid=IwAR0tEz5ED_d-AI8nmdD_CtGcWwzGxt5vQOilOJI8C6iC4BbuY5XkpBD5Bck .
เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2562 นายสนิท แซ่ซั่ว ตัวแทนชาวเลชุมชนหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ในวันเดียวกันนี้ทางกรมเจ้าท่าได้ส่งคนงานพร้อมรถแบ็กโฮเข้าปรับสภาพพื้นที่ชายหาดราไวย์ โดยทำการทุบกำแพงและเขื่อนคอนกรีตที่เอกชนสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากทางกรมเจ้าท่าได้ชี้ชัดแล้วว่าอยู่นอกเขตที่ดินพิพาทระหว่างชาวเลกับเอกชน ซึ่งการดำเนินการรื้อถอนและปรับปรุงชายหาดจะใช้เวลา 4 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25-28 กรกฎาคม 2562
“ชาวบ้านเคยยื่นเรื่องตั้งแต่ปี 2549 ให้กรมเจ้าท่าเข้ามาตรวจสอบการสร้างเขื่อนและกำแพงบนชายหาด จนล่าสุดเราได้ยื่นเรื่องอีกครั้งปี 2559 จนได้เข้ามาตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างบนพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงประสานมายังชาวบ้าน ทุกคนก็ยินดี ที่กรมเจ้าท่าเข้ามาปรับชายหาดให้กลับคืนสภาพธรรมชาติดังเดิม อย่างน้อยหอยเสียบ ปู ปลา ก็น่าจะกลับมา ชายหาดก็จะกลับมาสวยงามเหมือนในอดีต”
นายสนิท กล่าว นายสนิท กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ชาวบ้านต้องการให้ทางกรมที่ดินรังวัดแนวชายหาดที่ติดกับที่ดินของเอกชนที่เป็นปัญหาพิพาทกับชาวบ้าน เพื่อกำหนดเขตให้ชัดเจน เพื่อให้ชาวบ้านสบายใจในการดำเนินชีวิต ทั้งเข้าไปหาหอยหาปูบนชายหาด จอดเรือหาปลา หรือเส้นทางเดินไปที่บาลัยหรือสถานที่ศักดิสิทธิ์ตามความชื่อของชาวเล เพื่อประกอบพิธีกรรม หรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวพักผ่อนอย่างปลอดภัย นายสนิท กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ชาวบ้านเตรียมเสนอให้จัดงานวันรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเลครั้งที่ 10 ที่ชายหาดราไวย์ เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้สังคมเห็นถึงการต่อสู้เรียกร้องสิทธิชุมชนของชาวเลราไวย์ และปัญหาของชาวเลในอันดามัน